บทย่อ
พันธนาการวิวาห์รัก ประกอบด้วย 1. พันธนาการแสนหวาน 2. วิวาห์หวานรัก
1
Chapter 1
“นะๆๆๆ บัว ปิดเทอมไปเที่ยวไร่ของพิมพ์นะ”
พิมพ์นาราเขย่าแขนเพื่อนรัก อยากให้เพื่อนไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของตัวเอง
“แต่บัวต้องทำงานนะจ๊ะพิมพ์”
บัวบูชาตอบอย่างรู้สึกเกรงใจ
“ไหนบัวบอกว่าปิดเทอมนี้จะไม่รับงานไง”
พิมพ์นาราหน้างอ เห็นเพื่อนทำงานหามรุ่งหามค่ำก็อยากให้เพื่อนได้พักบ้าง
“ไม่รับไม่ได้ เงินเก็บของบัวหมดแล้วนะจ๊ะพิมพ์” บัวบูชาจับมือเพื่อนเพื่อง้องอน ให้เหตุผลกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“เป็นไปได้ยังไง บัวทำงานเยอะขนาดนั้น เงินทองหายไปไหนหมด” พิมพ์นาราถามอย่างตกใจ
“เอ่อคือว่า...” บัวบูชามีท่าทีอึกอัก
“เพราะพ่อกับแม่ของบัวอีกแล้วใช่ไหม”
พิมพ์นาราพูดอย่างโกรธๆ
“พวกท่านเป็นพ่อกับแม่ของบัวนะพิมพ์”
บัวบูชาตอบเพื่อนไม่เต็มเสียงนัก หลายครั้งที่เธอยอมรับว่าเหนื่อยใจ แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
“พิมพ์ขอโทษที่เสียมารยาท แต่มันสุดจะทนจริงๆ บัวทนได้ยังไงกัน”
“ยังไงพวกท่านก็ให้ชีวิตบัวนะ”
“บัว!!!” พิมพ์นาราเสียงดังใส่เพื่อน สุดจะทนกับความคิดของเพื่อนรักนัก
“บัวต้องตอบแทนบุญคุณ”
“บุญคุณๆๆๆๆ จะอะไรกันนักกันหนา ตอบแทนมาเท่าไหร่แล้วบัว”
“ถึงตายก็ไม่หมด ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด”
“ยายสอนบัวอีกแล้วใช่ไหม” พิมพ์นาราพูดอย่างอัดอั้น
“ยายพูดถูก ยังไงพวกท่านก็คือพ่อแม่ บัวไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้นะพิมพ์”
ยายที่บัวบูชาพูดถึงคือญาติห่างๆ ที่นำเธอไปเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ
“พอไม่มียายกับป้าไพบัวก็เลยลำบาก”
“แม่อุ้มท้องบัวมา ถ้าท่านจะฆ่าก็ทำได้ แต่ท่านก็ไม่ทำ”
“ทำไมถึงได้บุญคุณท่วมหัวกันขนาดนี้นะ” พิมพ์นาราพูดอย่างโกรธๆ
“ไม่เอานะพิมพ์ ยังไงเค้าก็คือพ่อแม่บัว”
“ขอโทษ แต่พิมพ์โกรธแทนบัวจริงๆ นะ”
“จะโกรธแทนบัวทำไม บัวไม่เป็นอะไรหรอก” บัวบูชายิ้มให้เพื่อนอย่างอ่อนโยน
“แต่บัวสัญญาว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ของพิมพ์นี่นา” พิมพ์นาราหน้างอ อยากให้เพื่อนไปจริงๆ
“พอเปิดเทอมบัวจะไม่มีเงินเสียค่าเทอมนะพิมพ์” บัวบูชาหน้าเศร้า
“พิมพ์ออกให้ก็ได้” พิมพ์นาราพูดอย่างใจป้ำ
“ไม่เอาหรอก เวลาเดือดร้อนพิมพ์ก็ช่วยบัวตลอด ค่าเทอมไม่ใช่เงินน้อยๆ บัวไม่เอาเด็ดขาด”
“เงินแค่นั้นเอง”
“สำหรับพิมพ์อาจจะแค่นั้นเอง แต่สำหรับบัวมันเยอะมากนะ”
“พิมพ์ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกบัวนะ แค่อยากช่วย”
“พิมพ์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของบัว บัวไม่เคยคิดแบบนั้น บัวขอบคุณในความหวังดีของพิมพ์จริงๆ นะ”
“ที่บัวไม่ยอมไปที่ไร่ของพิมพ์ เพราะเฮียพันหรือเปล่า” พิมพ์นารารู้ดีว่าพี่ชายของเธอไม่ค่อยชอบเพื่อนรักสักเท่าไหร่ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพันกรถึงอคติกับบัวบูชานัก ทั้งๆ ที่เพื่อนของเธอก็เป็นคนดี ไม่ใช่คนดีธรรมดา เรียกว่าแสนดีเลยก็ว่าได้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่คบกับบัวบูชาจนย้ายมาอยู่ด้วยกันขนาดนี้หรอก
“มะ... ไม่ใช่นะพิมพ์” บัวบูชาปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก
“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมถึงทำท่าทีแบบนั้นล่ะ พิมพ์ไม่เชื่อหรอกนะ เรื่องงานเป็นแค่ข้ออ้าง แค่ไปพักผ่อนอาทิตย์เดียวเอง ทำไมไม่ไป เป็นเพราะเฮียพันแน่ๆ”
“เค้าไม่อยากไป ไปบังคับเค้าทำไม”
เสียงเข้มของผู้มาใหม่ทำให้สองสาวหันขวับไปมอง สีหน้าดุๆ ของพันกรทำให้พิมพ์นาราค้อนพี่ชายขวับๆ
ส่วนบัวบูชานั้นเมินหน้าหนี รู้ดีว่าเขาไม่ชอบหน้าเธอ เวลาเขามาเธอก็คอยหลบหน้าหลบตาหรือไม่ก็ออกไปทำงานข้างนอก ไม่อยากอยู่ขวางหูขวางตาเขาหรอก
“ไม่ต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้” พันกรรู้สึกหงุดหงิดนักที่เวลาบัวบูชาเห็นเขาก็หาทางหลีกหนีทุกครั้งไป
“บัวไปจัดของในห้องก่อนนะพิมพ์” บัวบูชารีบขอตัว ไม่อยากอยู่ให้ขัดตาเขา
“ที่รีบหนีเข้าห้องเพราะกลัวฉันรู้ความลับอะไรอีกล่ะ” พันกรแดกดัน หงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
..ทีกับคนอื่นทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ กับเขาทำหน้าเหมือนอมทุกข์ พยายามหลบหลีกเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรค
“เฮีย! พอสักทีเถอะน่า เลิกหาเรื่องเพื่อนของพิมพ์ได้แล้ว”
พิมพ์นาราแหวใส่พี่ชาย
“กล้าขึ้นเสียงกับเฮียเหรอตั้งแต่คบเพื่อนคนนี้นิสัยเสียขึ้นนะ”
เสียงดุด่าของพันกรทำให้บัวบูชาที่เดินเข้าห้องชะงักกึก เธอเม้มปากเข้าหากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เธอทำไม่ได้
..พิมพ์นาราไม่ผิด เธอจะเลิกคบเพื่อนทำไม ไม่ผิดไม่ว่า แต่พิมพ์นาราเป็นคนดีมาก ถ้าเธอเลิกคบเพื่อนที่แสนดีแบบนี้เพราะคำต่อว่าของพี่พันกร เท่ากับว่าเธอไร้เหตุผลสิ้นดี
“เฮีย! ไม่ใช่สักหน่อย เฮียไม่มีเหตุผล” พิมพ์นาราหน้างอทำแก้มป่องใส่พี่ชาย
“เพื่อนแบบนี้น่าจะเลิกคบไปสักที มีแต่ทำเรื่องเสียๆ หายๆ แล้วนี่จะชวนไปอยู่ไร่อีก ใครอนุญาตไม่ทราบ”
น้ำเสียงดุดันของพี่ชายเพื่อนทำให้บัวบูชารีบงับประตูปิด เธอเสียใจกับคำพูดของเขาหลายครั้งแล้ว จนตอนนี้เริ่มจะชิน เธอยึดเอาคำสอนของยายเป็นข้อเตือนใจ ยายเคยบอกว่า
..เราไม่มีวันไปเปลี่ยนความคิดของใครได้ เขาจะคิดอะไรเค้าก็ไม่ผิด เหมือนที่เราจะคิดอะไรก็ไม่ผิดเหมือนกัน ไม่มีใครเปลี่ยนความคิดใครได้ นอกจากว่าเขาจะคิดเอง
บัวบูชาเก็บข้าวของใส่กระเป๋า ตัดสินใจที่จะรับงานที่เค้าติดต่อมาทันที แทนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนในไร่ของพิมพ์นารา อย่างน้อยเธอก็ได้ทำงานและอยู่ห่างไกลจากถ้อยคำดูถูกจิกกัดของพันกร
ด้านนอกเธอไม่รู้ว่าสองพี่น้องคุยอะไรกัน แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจ มือบางหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบและเปิดเพลงจากโทรศัพท์ฟัง ปิดกั้นถ้อยคำทำร้ายจิตใจจากผู้ชายหน้าดุข้างนอก ก่อนจะส่งไลน์ไปหาเจ้มิ้นต์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เอ็นดูคอยหางานให้เธอ หลังจากตัดสินใจรับงานแสดงที่เธอต้องไปเข้าฉากไม่กี่ฉาก ก่อนจะไปทำงานอย่างอื่น
บัวบูชาได้รับคำตอบกลับมาว่าให้เริ่มเดินทางได้เลย เพราะทางทีมงานรออยู่ เธอไม่รอช้า เพราะนอกจากงานนักแสดงแล้ว เธอยังมีงานเดินแบบและถ่ายแฟชั่นติดต่อมาเรื่อยๆ แม้ชุดจะวาบหวิวไปหน่อย แต่มันก็ได้เงิน เธอคิดว่ามันเป็นอาชีพสุจริต อีกอย่างก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หรือทำให้ใครเสียหาย ภาวะจำเป็นที่ต้องส่งเสียตัวเองเรียนและบิดามารดาที่อาจเดือดร้อนมาขอเงิน ทำให้เธอต้องรับงานที่เค้าเสนอมาให้ หลังๆ ดีหน่อยที่ได้รู้จักกับเจ้มิ้นต์ เธอจึงคัดงานมาให้ดีกว่าเดิมหลายเท่า
บัวบูชาถอนหายใจ ถ้าจะเปรียบเทียบบิดากับมารดาแล้ว มารดานั้นหนักหนาสาหัสกว่าเยอะ เรียกว่าไม่เคยสนใจอะไรเลย ขอแค่ให้ได้เงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เธอไม่รู้ว่าพันกรกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หลังจากนั้นพิมพ์นาราก็มาขอร้องให้เธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ระหว่างปิดเทอมเช่นเดิม เธอตอบปฏิเสธอย่างเกรงใจ ก่อนจะบอกว่ารับงานเรียบร้อยแล้ว พิมพ์นาราหน้างออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเข้าใจและไม่รบเร้าอีก นั่นทำให้เธอโล่งใจ
บัวบูชาไม่รู้จะโทษอะไรดีเมื่อเธอต้องมาอยู่ที่ตรงนี้ด้วยความบังเอิญ การถ่ายทำละครเรื่องนี้ต้องใช้ไร่องุ่นของพันกรเป็นการปิดกล้อง มันบังเอิญจนเธออยากจะย้อนเวลากลับไปและบอกยกเลิกงานที่รับเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อรับงานไปแล้ว และต้องมายืนอยู่ ณ จุดนี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้
“ดีใจจริงๆ เลยบัว สุดท้ายบัวก็ต้องมาที่ไร่ของพิมพ์ อุตส่าห์น้อยใจว่าชวนไม่มา ไม่คิดว่าละครเรื่องนี้เค้าจะมาถ่ายทำที่นี่ เฮียพันก็ไม่เห็นบอกเลยอะ”
คนที่ดูจะดีใจที่สุดคงไม่พ้นพิมพ์นารา
“ก็คงจะรู้ตั้งแต่ต้น เลยทำเป็นปฏิเสธ”
น้ำเสียงหาเรื่องของใครบางคนดังมาจากอีกด้าน บัวบูชารู้ได้ทันทีว่าใคร