3
“ถ้าชอบก็ย้ายมาอยู่ได้เลย ต้องเรียนต่ออีกสี่ปี เดินทางไปกลับทุกวันน่าจะไม่ไหว แต่ถ้าวันไหนอยากกลับ เพราะเลิกเรียนเร็วไม่มีกิจกรรมอะไรก็กลับได้เลย ถ้าที่บ้านไม่ว่างมารับ พี่มารับเองครับ”
“เดี๋ยวหนูพิ้งค์จะบอกคุณพ่อกับคุณแม่นะคะ” เพราะบิดามารดารักเธอมาก ตามใจมาตั้งแต่เด็ก หากสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี พวกท่านก็จะตามใจไม่เคยขัด
การมาพักอยู่ในเมืองคงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร เพราะพวกท่านเองก็เคารพการตัดสินใจของเธอ บอกว่าเธอโตแล้ว เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว และรับผิดชอบตัวเองได้
“พี่เปรมขา”
“ขา”
“หนูพิ้งค์อยากทดสอบเตียงพี่เปรมจังเลยค่ะว่านุ่มหรือเปล่า” เธอนั่งบนขอบเตียง ก่อนที่จะทิ้งตัวนอนลงไปบนเตียงครึ่งตัว
เปรมขยับขึ้นไปคร่อมทับก่อนที่จะบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มแสนหวานของเธอ แล้วลากไล้มือไปตามเนื้อตัว จูบสัมผัสอย่างถ้วนทั่ว ก่อนจะเลื่อนนิ้วลงไปเกลี่ยตรงกลีบกายสาว
“ทำไมถึงได้เยิ้มขนาดนี้ล่ะครับ” เขาเอ่ยถามเสียงแหบพร่า
“พี่เปรมขา”
“ขา”
“ช่วยด้วยค่ะ” เธอร้องขอ
“ช่วยอะไรครับ”
“หนูพิ้งค์หื่นค่ะ พี่เปรมช่วยหน่อย” เธอทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ทำเอาเปรมแทบตกเตียงกับประโยคของเจ้าหล่อน
พิยดาเห็นท่าทีของเขาเธอก็หัวเราะในทันที ก่อนที่จะกอดคอหนาของเขาเอาไว้
“ยั่วพี่เดี๋ยวเจอดี”
“ไม่เห็นจะกลัวเลยสักนิด” สิ้นประโยคนั้นเสียงครวญครางก็ดังขึ้น
เปรมอุ้มเธอไปอาบน้ำชำระร่างกาย ก่อนที่จะพากลับไปส่งบ้าน
พิยดาปรึกษากับบิดามารดาเรื่องจะย้ายไปอยู่ในเมือง และจะกลับมาวันเสาร์และวันอาทิตย์ ยกเว้นว่ามีรายงานหรือต้องทำงานส่งอาจารย์กลับมาไม่ได้จริงๆ
ซึ่งเปรมเองก็เสนอให้คู่หมั้นสาวไปพักที่คอนโดฯ ในเมืองของเขา ซึ่งสองสามีภรรยาก็ตามใจลูก เพราะไม่อยากเห็นลูกเหนื่อยกับการเดินทาง
“หนูไปอยู่คนเดียวดูแลตัวเองด้วยนะจ๊ะ พ่อกับแม่เป็นห่วง”
“หนูพิ้งค์สัญญาค่ะว่าจะดูแลตัวเองให้ดี”
“ถ้าเปรมเข้าเมืองก็แวะไปดูน้องให้ด้วยนะจ๊ะ”
“ได้ครับคุณอา” เปรมรับคำ เขาพร้อมดูแลพิยดาอยู่แล้ว
พิยดาขนข้าวของย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดฯ ของเปรม คอนโดฯ ของเขามีห้องพักสองห้อง มีห้องครัว ห้องนั่งเล่น และระเบียงสำหรับออกไปนั่งรับลมเย็นๆ ได้
แต่ถ้าอยากชมวิวของเมืองใหญ่ ก็มองผ่านหน้าต่างกระจกออกไปได้เลย
“พี่เปรม” พิยดาเปิดประตูรับคู่หมั้นหนุ่มที่ขับรถเข้าเมืองมาหาเธอทุกวัน เพราะเดินทางชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง เขามาทุกวัน เพื่อมาค้างกับเธอ บางวันพาเธอออกไปกินข้าวข้างนอก บางวันเขาก็ทำอาหารทานกันที่ห้องกับเธอ
“พี่ซื้อของกินมาเยอะแยะเลย เอามาใส่ตู้เย็นเอาไว้ เห็นมีคนบ่นว่าอยากกินสุกี้” เขาชูข้าวของที่ซื้อมาเต็มไม้เต็มมือ
“ว้าว! พี่เปรมน่ารักที่สุดเลยค่ะ อยากกินก็ได้กิน” เธอช่วยเขาล้างผัก ในขณะที่เปรมเป็นคนทำน้ำซุป ก่อนจะลวกผัก ลวกเส้น ลวกอาหารทะเล และทำไข่ลวก จัดตกแต่งอย่างสวยงามและใส่น้ำซุปลงไปให้เธอพอขลุกขลิก เพราะเธอไม่ชอบกินน้ำเยอะๆ เหมือนเขา
“พี่เปรมทำน่ากินจังเลยค่ะ รู้ใจหนูพิ้งค์ตลอดว่าชอบกินแบบไหน” เธอใช้ตะเกียบคีบวุ้นเส้นเข้าปากก่อนเป็นอันดับแรกเพราะชอบกินวุ้นเส้น
“วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม อร่อยจังเลยค่ะ”
“อร่อยก็กินเยอะๆ นะครับ” พ่อครัวคนเก่งมองเธอแล้วอมยิ้ม
เขาชอบทำอาหารก็เพราะอยากทำให้น้องน้อยกินนี่แหละ เธอชอบกินอะไร เขาก็จะหัดทำเมนูนั้นให้คล่อง
“อิ่มจังค่ะ” เธอลูบท้องตัวเองไปมา เวลาอยู่กับเปรม พิยดามักทำตัวน่ารักเป็นกันเอง เปรมจัดการนำจานชามไปล้าง ในขณะที่พิยดาขอตัวไปทำรายงาน
“การบ้านเยอะเหรอครับ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ”
“พี่ช่วยทำไหม”
“ช่วยหาข้อมูลก็ได้ค่ะ” เธอตอบรับเสียงใส
เปรมเป็นคนหัวดีเรียนเก่ง เขามักเป็นครูจำเป็นสอนการบ้านให้เธอตั้งแต่เด็ก
การมีเขาอยู่ด้วยแบบนี้ทำให้เธอทำรายงานและงานที่อาจารย์สั่งจนเสร็จแบบไม่ติดขัด
เธอย้ายมาอยู่ในเมืองเขาก็ตามมาดูแล ทั้งเรื่องอาหารการกิน ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ เปรมดูแลทุกอย่าง เขาให้แม่บ้านมาจัดการทำความสะอาดห้องให้เธอ บางทีเขาก็มาทำให้เธอเอง จัดการกับเสื้อผ้าของเธอ ซื้อของกินมาตุนเอาไว้ให้เธอในตู้เย็น เธอหิวก็สามารถหยิบมากินได้เลย ทั้งนม ผลไม้ ขนม อาหารสด พวกผักพวกเนื้อ ข้าวสารและอาหารแห้ง
ที่สำคัญเธอมีปัญหาเรื่องเรียนก็สามารถถามเขาได้ทุกเรื่อง เปรมเป็นคนรอบรู้ เขาชอบศึกษาหาความรู้ในแขนงวิชาต่างๆ
มื้อเช้า เธอตื่นขึ้นมาเขาก็จะเตรียมอาหารเช้าเอาไว้ให้ ก่อนที่เขาจะขับรถกลับไร่ และเจอกันอีกครั้งในตอนเย็น
“เดี๋ยวนี้ลูกชายแม่อยู่ไม่ติดบ้านเลยนะจ๊ะ” คุณเปมกาเอ่ยแซวลูกชาย เพราะรู้ว่าลูกชายหายไปนอนค้างคืนที่ไหนมา
“เป็นห่วงน้องน่ะครับ ย้ายไปอยู่คนเดียว”
“เปรมโตแล้ว แถมยังเป็นผู้ชายด้วย ยังไงน้องก็ยังเรียนอยู่ ต้องรู้จักป้องกันตัวเองด้วยนะจ๊ะ” คนเป็นแม่เอ่ยเตือนลูกชาย
“ครับแม่ ผมไม่ให้น้องมีปัญหาก่อนเรียนจบแน่นอนครับ”
“ดีแล้วจ้ะ จะทำอะไรก็ต้องรอบคอบให้มาก ถึงจะเป็นคู่หมั้นกันแต่ยังไงก็ต้องเซฟน้องเอาไว้ให้มากๆ เพราะน้องเป็นผู้หญิง”
“ครับคุณแม่” เปรมเองก็รักพิยดามาก เขาก็อยากให้เธอมีความสุข และไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากเขา จนกว่าเธอจะเรียนจบ
เปรมยังทำตัวเหมือนเดิม พอตกเย็นเขาก็ไปรับพิยดาที่มหาวิทยาลัย วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปกินอาหารข้างนอกกัน เขาจึงรับเธอไปกินอาหารที่ร้านเปิดใหม่ ซึ่งเป็นร้านของเพื่อนเขาเอง
“พิ้งค์ มากินอาหารร้านนี้เหมือนกันเหรอ” หยดฝนเอ่ยทักทายเพื่อนร่วมห้องที่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ เมื่อเรียนด้วยกันมาหนึ่งเทอมเต็ม
“จ้ะฝน ฝนก็มากินร้านนี้เหมือนกันเหรอจ๊ะ”
“ใช่จ้ะ”
“ฝนมากับใคร”
“มาคนเดียวจ้ะ”
“จองโต๊ะไว้แล้วเหรอ”
“ยังจ้ะ”
“นั่งกินด้วยกันไหม ได้ไหมคะพี่เปรม” เอ่ยชวนเพื่อนก็หันไปปรึกษาคู่หมั้นหนุ่มอย่างเกรงใจ
“ตามสบายเลยครับ”
“นี่พี่เปรม คู่หมั้นของเราจ้ะ” พิยดาเอ่ยแนะนำให้เพื่อนสนิทได้รู้จักกับเปรมอย่างเป็นทางการ หยดฝนก็ยกมือไหว้เปรม เธอยิ้มหวานให้เขา เขาก็ยิ้มตอบรับตามมารยาท