บท
ตั้งค่า

4

“เห็นพี่เปรมมารับพิ้งค์บ่อยๆ เพิ่งได้คุยกันก็วันนี้เอง” หยดฝนพูดขึ้น แม้ว่าเธอจะสนิทกับพิยดาแค่ไหน แต่พอตกเย็นเพื่อนของเธอก็หนีกลับไปกับคู่หมั้นหนุ่ม เธอไม่เคยได้แทรกตัวเข้าไปในชีวิตของคนทั้งสองได้เลย

ซึ่งวันนี้ที่มาเจอกัน ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เธอตั้งใจสะกดรอยตามมากินอาหารที่ร้านแห่งนี้ เพื่อที่จะได้พบเจอกับเขา ผู้ชายที่ชื่อเปรม...

เธอเห็นเปรมหลายครั้งแล้ว เธอชอบผู้ชายคนนี้ อยากได้มาครอบครอง ไม่มีเหตุผลอะไร นอกจากเธออยากได้เขา

เปรมไม่เห็นเหมาะกับพิยดาเลยสักนิด เพราะพิยดามีผู้ชายมาจีบเยอะแยะ ให้ความหวังไปทั่ว ไม่ได้ดีอย่างที่เปรมคิดหรอก

ลึก ๆ เธอยอมรับว่าอิจฉาพิยดาที่มีแต่คนรุมรักรุมชอบ ผู้ชายที่เธอหมายตาเอาไว้ หรือแอบชอบก็ต่างมาหลงรักพิยดาแทบทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้สวยน้อยกว่าเลย

“ครับ” เปรมรับคำสั้น ๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ของพิยดา แต่เพราะว่าเขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับเธอมากกว่า

“พี่เปรมพูดน้อยจังเลยนะคะ” หยดฝนเอ่ยขึ้น พลางยิ้มหวานส่งไปให้เขา

“พี่เปรมก็พูดน้อยแบบนี้แหละจ้ะ เราเพิ่งมาถึงยังไม่ได้สั่งอาหารเลย เรามาสั่งอาหารกันดีกว่าจ้ะ” พิยดาเอ่ยกับหยดฝน ก่อนจะเริ่มสั่งอาหารกัน

สองสาวนั่งคุยกันอย่างออกรสขณะรออาหารและรับประทานอาหารด้วยกัน ส่วนเปรมก็นั่งเงียบๆ เป็นผู้ฟังที่ดี นาน ๆ ครั้งจะรับคำสั้น ๆ ทำให้หยดฝนต้องเอ่ยแซว

“พี่เปรมนี่พูดน้อยเหมือนอย่างที่พิ้งค์บอกเอาไว้จริงๆ ด้วยค่ะ”

“จะแซวอะไรพี่เปรมนักหนา ฝนนี่” พิยดาพูดขำ ๆ เธอไม่ได้คิดอะไร แต่หยดฝนคิดไปไกลว่า พูดน้อยแบบนี้ก็ดี เวลามีอะไรกัน จะได้ไม่กล้าบอกคู่หมั้นตัวเอง

“มื้อนี้เรากับพี่เปรมเลี้ยงฝนนะ” พิยดาเอ่ยขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

“เกรงใจจังเลยจ้ะ มื้อหน้าให้เราเลี้ยงนะ” หยดฝนพูดอย่างเกรงใจ แท้ที่จริง เธอตั้งใจมาให้เปรมกับพิยดาเลี้ยงอยู่แล้ว เพราะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยเหมือนก่อน จะเรียกว่ารวยแต่เปลือกก็ย่อมได้ ทุกวันนี้มีหนี้สินเต็มไปหมด บิดามารดาจมไม่ลงจึงกู้เงินมากินมาใช้ ใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อเหมือนเดิม เธอเองก็จมไม่ลง จึงอยากหาผู้ชายรวยๆ สักคนเลี้ยง ถ้าเธอจับเปรมได้ เธอก็จะรอด เธอไม่สนหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นคู่หมั้นหรือคนรักของใคร ถึงมีเมียแล้วเธอก็จะเอา เพราะมีเมียแล้วก็เลิกกับเมียมาคบหากับเธอได้

“แล้วฝนกลับยังไงจ๊ะ”

“แท็กซี่จ้ะ พอดีรถเราเสียน่ะ แต่อยากกินอาหารที่นี่เลยแวะมากินน่ะจ้ะ”

“มืดแล้วเดี๋ยวเราไปส่ง นะคะพี่เปรม” พิยดาหันไปถามคู่หมั้นหนุ่ม

“ได้ครับ” เปรมรับคำสั้น ๆ ไม่ได้ปฏิเสธสาวน้อยของเขา

“พี่เปรมนี่น่ารักจังเลยนะคะ พิ้งค์ว่าอะไรก็ว่าตามนั้น” หยดฝนเอ่ยแซวยิ้มๆ แต่เปรมก็ไม่ได้พูดว่าอะไร

พิยดามองรถคันหรูราคาแพงของเปรมแล้วนึกชอบใจ แบบนี้สิรวยจริง ไม่ใช่รวยปลอมๆ เหมือนหนุ่มบางคนที่มาจีบเธอ

“พิ้งค์เล่าว่าไร่พี่เปรมอยู่ติดกับไร่ของพิ้งค์เหรอคะ” หยดฝนเลียบ ๆ เคียง ๆ เอ่ยถาม

“ครับ”

“ไร่พี่เปรมกว้างเท่าไร่ของพิ้งค์หรือเปล่าคะ”

“กว้างมากกว่าจ้ะ ไร่พี่เปรมมีครบเลย ทั้งรีสอร์ท น้ำตก ฟาร์มม้า สวนผลไม้ พี่เปรมน่ะรวยกว่าเราเยอะ” พิยดาเป็นคนตอบเสียเอง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ตามประสาคนอารมณ์ดี

ไร่ของเธอจะปลูกผลไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่บิดามารดามีมรดกจากทรัพย์สินที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ให้เลยใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบาก บิดามารดาของเธอไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ ค่อนข้างสมถะเสียด้วยซ้ำ ท่านชอบทำบุญทำทาน ชอบใช้ชีวิตอยู่แบบไม่โลดโผน ซึ่งเธอเองเป็นลูกสาวคนเดียว พวกท่านจึงคอยสนับสนุนทุกอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะอยากเรียนอะไร อยากไปเที่ยวไหน โดยมีเปรมคอยช่วยซัพพอร์ตในส่วนตรงนี้ด้วยเช่นกัน

“เหรอจ๊ะ” หยดฝนนึกค่อนขอดในใจว่าเธอพูดกับเปรม แต่พิยดาก็แย่งตอบเสียหมด

แต่พอได้ยินว่ารวยมาก เธอก็อยากไปเห็นกับตา

“ปิดเทอมนี้ยังไม่รู้จะไปไหนเลย เราไปเที่ยวไร่ของพิ้งค์ได้ไหมจ๊ะ” หยดฝนเอ่ยขึ้น แม้จะสนิทกันแต่เธอก็ยังไม่เคยไปบ้านของอีกฝ่ายเลย มีแต่พิยดาที่ไปบ้านของเธอ เธอก็อวดรวยใส่เพื่อนในทันที พาไปชมบ้านอันใหญ่โต และอวดว่าบิดามารดาทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ

แท้ที่จริงบ้านเธอจนกรอบยิ่งกว่าข้าวเกรียบเสียอีก แต่ก็อวด ๆ ไปแบบนั้นแหละ พิยดาเองก็ชื่นชมว่าบ้านเธอสวย พ่อแม่ก็ทำธุรกิจเก่ง แค่นั้นจริงๆ เพื่อนคนนี้ของเธอไม่เคยตื่นเต้นกับสิ่งที่เธออวด แตกต่างจากเพื่อนคนอื่นที่เคยคบ

“ได้สิจ๊ะ” พิยดารับคำ เพราะสนิทกันมาเทอมหนึ่งแล้ว หยดฝนก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง

เปรมแวะส่งหยดฝนที่บ้านตามคำของคู่หมั้นสาว หยดฝนยกมือไหว้เปรม ก่อนจะโบกมือลาเพื่อน

“พี่เปรมเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เห็นเงียบมาตลอดทาง” พิยดาเอ่ยถามเขา เมื่อกลับมาถึงห้องพัก

“เปล่าครับ” เขาไม่ได้บอกว่าหยดฝนมองเขายังไง เธอทอดสายตามองเขา แถมยังเอาเท้ามาไล้ขาของเขาเล่นจนเขาสะดุ้ง

เพื่อนของพิยดากำลังอ่อยเขาอยู่ ซึ่งเขาเองก็ยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับคู่หมั้นสาว กลัวเธอจะหาว่าเขาคิดมาก ด้วยว่าพิยดานั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่เคยมองใครในแง่ร้ายเลย ใครมีปัญหาก็พร้อมช่วยเหลือ แบบนี้นี่เอง บิดามารดาของเธอจึงมักฝากฝังเธอเอาไว้กับเขาเสมอ เพราะกลัวเธอจะโดนหลอก

“เหมือนพี่เปรมจะไม่ค่อยชอบฝนเลยนะคะ” พิยดาจับแก้มของเขากุมเอาไว้ ก่อนจะจ้องหน้าเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

“ไม่เชื่อค่ะ พี่เปรมมองหน้าหนูพิ้งค์ก่อน”

“มองก็มองครับ” เขาจ้องตาเธอด้วยสายตาวาบหวาม ทำเอาพิยดายิ้มเขิน

“มองพิ้งค์แบบนี้จะกินพิ้งค์เหรอคะ” เธออ่อยเขา

“กินได้ไหมล่ะ”

“กินได้ค่ะ แต่พี่เปรมไม่ชอบฝนเรื่องอะไรคะ”

“ไม่ใช่ไม่ชอบครับ แต่เขาน่ะมาแย่งคุยกับคู่หมั้นของพี่เสียหมด แถมปิดเทอมยังจะไปเที่ยวไร่ของหนูพิ้งค์อีก แบบนี้หนูพิ้งค์ก็ไม่มีเวลาให้พี่เปรมสิครับ”

“โหย... พี่เปรมกลายเป็นคนขี้อิจฉาไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วคะนี่ หนูพิ้งค์แค่คุยกับเพื่อนเอง”

“ไม่รู้ล่ะ ต้องทำโทษครับ” เขาอุ้มเธอขึ้นสู่อ้อมแขน เธอหวีดร้องเบาๆ ก่อนจะรีบคล้องคอหนาเอาไว้ ให้เขาอุ้มไปอาบน้ำด้วยกัน

สายน้ำเย็นฉ่ำช่วยทำให้สองหนุ่มสาวรู้สึกสดชื่น และคลายจากความเหนื่อยล้า เปรมอุ้มร่างน้อยอย่างทะนุถนอมมาแต่งตัวและเป่าผมให้เธอจนแห้งสนิท เธอมักจะเป็นภูมิแพ้เสมอ เขาจึงต้องดูแลสุขภาพด้านนี้ของเธอ

เปรมมักพกยาแก้แพ้ติดตัวเอาไว้เสมอ แต่เขาไม่ได้เป็นภูมิแพ้หรอกนะ เขาพกติดตัวเอาไว้เผื่อพิยดา เพราะเธอมักแพ้อากาศ แพ้กลิ่น และฝุ่น จมูกของเธอไวต่อสิ่งพวกนี้ค่อนข้างมาก

“ชุดนอนของพี่เปรมทั้งบางทั้งสั้น ไม่ให้หนูพิ้งค์แก้ผ้านอนไปเลยล่ะคะ” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อเขาอุ้มไปที่เตียงนอนกว้าง พรุ่งนี้เป็นวันหยุด จึงไม่ต้องรีบทำรายงานที่อาจารย์สั่ง แต่มีเวลาทำกิจกรรมรักบนเตียงกับเขาได้เต็มที่

เป็นรางวัลให้เขาที่ดูแลเธออย่างดีตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel