บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 อริส

ฮาสส

ฉับ!

ในขณะที่ผมกำลังเดินสำรวจหมูบ้านยี่สิบกว่าหลังนี้ ผมได้เดินไปสับหัวซอมบี้ที่เดินมาหาผมด้วย และระหว่างทางผมก็จัดการพวกมันไปมากมายเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีรูนดร็อปออกมาเลย ซึ่งหลังจากที่พูดคุยกันแล้ว แคนดี้เลือกรูนแมเนซ ซึ่งมันเป็นรูนที่สามารถดูความคิดคนอื่นที่มีต่อเราได้ ที่จริงแล้วเธอจะเลือกรูนฮากาลัซ แต่เพราะมันใช้ประโยชน์ได้แค่ช่วงแรก หลังๆจิตใต้สำนึกของคนอาจจะเปลี่ยนได้

ซึ่งในส่วนของการดูจิตใต้สำนึกของคน แคนดี้จึงขอร้องให้ลูกของเวียร์เป็นคนดูแทน และก็จะมีผมคอยช่วยด้วย ส่วนตอนนี้ผมก็กำลังกวาดล้างซอมบี้ไปเรื่อยๆจนกว่ารูนจะดร็อปออกมา แต่ถึงมันดร็อป ถ้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเราต้องการ ผมก็จะเก็บเอาไว้ขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของกับกลุ่มประชากรอื่นในอนาคต

“กรี๊ด!!” เสียงหญิงสาวร้องดังลั่นออกมาจากหน้าหมูบ้านพร้อมกับเสียงรถชนต้นไม้ ผมจึงรีบเดินไปดูเหตุการณ์ทันที ปรากฏว่าผมได้เห็นกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งลงมาจากรถตู้ ตามด้วยซอมบี้ที่ลงมาจากรถตู้ตัวหนึ่งที่กำลังไล่กัดคน และพวกเขาเองก็กำลังจะถูกล้อมไปด้วยซอมบี้ เพราะเสียงดังเมื่อครู่

‘คาร์เทียร์ ได้ยินเสียงเมื่อกี้ไหม?’

‘นั่นอาจจะเป็นเลขาของฉันเอง ฉันเรียกเธอมา’ แคนดี้ส่งความคิดให้กับผม

‘โอเค..เดี๋ยวไปดูให้’ ผมตอบกลับไปก่อนจะปรากฏตัวออกมาจากหลังต้นไม้และเริ่มใช้ปืนเก็บเสียงยิงหัวซอมบี้ที่เข้าใกล้พวกเขาไปทีละตัว ซึ่งพวกเขาก็เหลือกันเพียงสี่คนแล้วด้วย จากเจ็ดคน

ฉึก ฉึก ฉึก กึก

และเมื่อกระสุนหมดลง ผมจึงเก็บปืนพกไว้ที่เดิมและหยิบขวานที่เหน็บอยู่เข็มขัดหลังของผมออกมาทั้งสองด้ามพร้อมกับเดินไปหาพวกเขาที่กำลังพยายามงัดประตูโรงรถบ้านหลังหนึ่งอยู่

“เร็วเข้า!” ชายคนหนึ่งกล่าว แต่อีกคนที่กำลังปลดล็อคก็มือไม้สั่นไปหมด

ฉับ ฟุบ ฟุบ ฉับ

ฮาสสส ฟิ้วว ฉึก

ฟุบ

“ตามมาเร็วเข้า” ผมเดินมาหาพวกเขาแล้วกล่าวเบาๆหลังจากจัดการซอมบี้ที่ใกล้ถึงตัวพวกเขาไปจนหมด และผมก็ได้รีบวิ่งกลับไปที่บ้าน

ฟูบบ

พร้อมกับประตูโรงรถของบ้านเราได้เปิดขึ้น ซึ่งก็มีเวียร์ที่ยืนถือปืนรออยู่แล้ว โดยการกระทำของเขานั้นถูกกำชับจากแคนดี้มาโดยตรงว่าให้ตรวจค้นคนเข้าบ้านอย่างละเอียดอย่างไม่มีข้อยกเว้น ต่อให้เป็นพ่อหรือแม่ของใครก็ตาม

“ไม่มีใครถูกกัด” เวียร์กล่าวจบ ผมเองก็ตรวจสอบจิตใต้สำนึกของพวกเขาเสร็จเหมือนกัน ทุกคนล้วนมีความคิดเป็นบวก ตามด้วยแคนดี้ที่เดินออกมาทักทายทุกคน

“เจียร์ นี่คือน้องชายของฉันเธอจำเขาได้ไหม?” แคนดี้กล่าวถามเลขาของเธอ ส่วนอีกสามคนที่เหลือพวกเขาเป็นบอดี้การ์ดที่แคนดี้ไว้ใจ แต่จากท่าทางเมื่อครู่แล้วผมไม่อยากฝากชีวิตไว้กับพวกเขาเลย ทั้งลุกลี้ลุกลน ไม่ช่วยเหลือกัน ทั้งๆที่ถ้าอีกคนมาช่วยปลดล็อคโรงรถก็น่าจะทำได้แล้ว หรือไม่ก็หาทางหนีดีๆ หรือจัดการพวกซอมบี้ไปก็ได้ แต่ผมคงเดาว่าแคนดี้สั่งห้ามใช้ปืน และพวกเขาก็ไม่มีอาวุธอื่นๆติดตัว

“จำได้ค่ะ” เจียร์กล่าวทั้งที่ตัวยังสั่นด้วยความกลัวอยู่

“ผมไปเคลียร์บ้านข้างๆไว้ให้แล้ว คนในบ้านเป็นซอมบี้กันหมด”

“ที่เหลือพวกคุณสามารถเก็บกวาดกันเองได้เลย” ผมกล่าวพร้อมกับยื่นกุญแจให้เจียร์

“หืม?" และในขณะนั้นเองผมจับสัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตหน้าประตูโรงรถบ้านเราได้ ผมจึงเดินไปใกล้ให้สัมผัสของผมชัดเจนกว่านี้ จนผมได้รับรู้ว่าข้างนอกกำลังมีการฆ่าฟันกันเกิดขึ้น ระหว่างมนุษย์หนึ่งคน กับซอมบี้สามตัว แต่ตายไปแล้วหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งก็โดนมนุษย์ตัวเล็กปีนป่ายไปใช้มีดเสียบหัว มันทำให้ผมสนใจมาก เพราะอีกฝ่ายเป็นแค่เด็กเอง ผมจึงใช้สัญญาณมือบอกให้เวียร์เปิดประตู

ฟูบบ

ฉึกๆๆๆๆ

ฮาสสส

“ไม่ต้อง” ผมยกมือห้ามไม่ให้เวียร์ยิงซอมบี้อีกตัว เพื่อดูท่าทางของเด็กสาวผมยาวคนนี้ ดูแล้วเธอเป็นแค่เด็กประถมเอง แต่กลับสามารถฆ่าซอมบี้สามตัวได้อย่างง่ายดาย ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ฮาสสส ฮ่าห์

“คาร์เทียร์!” แคนดี้เรียกชื่อผมเมื่อเด็กถูกซอมบี้ผลักไปชนกับกำแพงข้างโรงจอดรถจนเธอจนมุมและกำลังจะโดนซอมบี้กัด

หมับ

ฮาสส ฉับ

มันยังร้องไม่ทันสุดเสียงก็โดนผมหยุมหัวและใช้ขวานสับไปที่กลางหัวจนร่างของมันหงายหลังลงไปบนพื้น ส่วนเด็กก็กำลังจ้องมองผมด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ผิวของเธอดูขาวซีด แต่บริเวณตากลับดูคล้ำเป็นอย่างมาก เหมือนกับอดหลับอดนอนมาหลายวัน แต่เธอก็ยังฆ่าซอมบี้ได้

น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“เด็กน้อย เธอต้องการอะไร?” ผมกล่าวถามก่อนจะมองไปที่ขาของเธอที่กำลังสั่นราวกับกำลังจะล้มลงได้ทุกเมื่อ

“…” เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่เธอกลับยกมือขึ้นช้าๆ หุบนิ้วโป้งเข้าไปกลางมือ และตามด้วยนิ้วอีกสี่นิ้วที่หุบลงมาทับนิ้วโป้ง

“เธอขอความช่วยเหลือ” เจียร์กล่าว ซึ่งผมก็เข้าใจภาษามืออยู่พอสมควรเลย เพราะใช้ในการทำภารกิจอยู่บ่อยครั้ง

“….” ก่อนที่มือของเธอจะแนบชิดที่กลางอกของตัวเอง

“ตัวของเธ-”

ฟุบ

ก่อนที่เจียจะกล่าวจบ เด็กสาวก็ได้หมดสติไปซะก่อน ส่วนผมที่ยังไม่ไว้ใจใครง่ายๆก็ได้เตะมีดทำครัวของเธอออกไปไกลๆ และให้เวียร์มาพาเธอเข้าไป ส่วนผมก็ได้จัดการซอมบี้รอบๆก่อนจะเข้าไปในบ้าน

“เด็กคนนี้น่าจะอดหลับอดนอนมาหลายคืน รวมถึงไม่ได้กินอาหารด้วย”

“เมื่อครู่มันราวกับเป็นเฮือกสุดท้ายในชีวิตของเธอ” เวียร์กล่าวหลังจากตรวจสอบร่างกายเด็กคนนี้ว่าไม่มีบาดแผลจากซอมบี้

‘จิตใต้สำนึกของเธอคนนี้เป็นบวก แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กถึงต่อสู้ได้ขนาดนี้’ ผมกล่าวในใจกับแคนดี้ก่อนจะหันไปมองบอดี้การ์ดที่เจียร์พามาด้วย เพราะพวกเขายังใจไม่กล้าเท่าเธอเลย

‘เดี๋ยวฉันจะพยายามสื่อสารกับเธอเอง’ แคนดี้กล่าวในใจก่อนที่จะพาทุกคนไปนั่งที่ห้องรับแขก และอธิบายแผนการหลังจากนี้ให้ฟัง ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนคาดหวังให้แคนดี้ไปยังที่หลบภัยดีๆของรัฐบาล แต่แคนดี้ก็ปฏิเสธ และบอกไปว่าไปไม่ได้เพราะเหตุผลบางอย่าง

“ใครยังมีชีวิตอยู่…โปรดตอบด้วย”

“เราจะส่งกองกำลังไปหาคุณ” เสียงจากวอร์ของตำรวจดังขึ้น ซึ่งมันก็คือวอร์ของผม ส่วนวอร์ที่หัวหน้าหน่วยรบพิเศษให้ผมมา ผมปิดสัญญาณไปเรียบร้อยแล้ว เพราะผมเชื่อว่าถ้าเปิดสัญญาณไว้พวกเขาจะตามรอยมาหาผมอย่างแน่นอน

“พวกตำรวจต้องการคนมีฝีมือในการต่อสู้เข้าร่วมกับรัฐบาลแล้วสินะ” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปหยิบวอร์นั้นขึ้นมา

“ฉันยังอยู่ ฉันอยู่บนตึก…”

“โปรดขอความช่วยเหลือด้วย” มีคนตอบวอร์กลับไปก่อนที่ผมจะปิดสัญญาณ แต่ผมก็ไม่ได้ปิดเพื่อรอดูท่าทีของคนกล่าวว่าจะให้ความช่วยเหลือ เพราะตึกนั้นมันเต็มไปด้วยซอมบี้ การช่วยเหลือคงจะยาก

“ไม่ทราบว่าคุณคือใคร”

“และคุณอยู่กับหน่วยกี่คน” คนที่จะให้ความช่วยเหลือกล่าว

“ฉันชื่ออริส จากหัวหน้าหน่วยสืบสวน…และฉันรอดเพียงคนเดียว" เมื่อเธอตอบ อีกฝ่ายนั้นได้ปิดสัญญาณไปทันที เดาว่าเธอคงจะไม่ได้ความช่วยเหลือแล้วล่ะ

แต่เดี๋ยวก่อน

ถ้าเป็นอริส….

“ขอรายละเอียดด้วย” ผมตัดสินใจเปิดวอร์แล้วกล่าวถาม

“ไม่ทราบว่าคุณคือใคร?” อริสกล่าวถามเมื่อเสียงของผมไม่ใช่คนที่กล่าวว่าจะให้ความช่วยเหลือเมื่อครู่

“คาร์เทียร์ รองหัวหน้าหน่วยปราบปราม” ผมตอบกลับไป

“ฉันอยู่ชั้นที่สิบเจ็ด หน้าห้องของฉันเต็มไปด้วยซอมบี้”

“ในห้องก็มีแต่ซอมบี้ ฉันอยู่ที่ระเบียง” อริสตอบกลับมา

“ฉันจะไปช่วยเธอคนนี้” ผมกล่าวกับแคนดี้ ซึ่งแคนดี้ก็พยักหน้า ในเมื่อผมตั้งใจจะไปช่วย แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ

“ตกลง ฉันจะไปช่วยเธอในอีกหนึ่งชั่วโมง” ผมกล่าวจบก็ยกเสื้อเกราะกันกระสุนขึ้นมาสวมทันที

“ผมไปด้วย” เวียร์กล่าว เพราะการไปช่วยครั้งนี้มันเสี่ยงอันตรายมาก ในเมื่อรอบบริเวณนั้นมีแต่ซอมบี้ และผมไปแค่คนเดียว มันควรต้องมีคนไปช่วยผมสักคน ซึ่งแคนดี้ไม่ไหวแน่ๆ และคงจะมีแต่เวียร์เท่านั้นแหละ

“นายต้องอยู่ที่นี่คอยดูแลและปกป้องแคนดี้กับลูกของนาย”

“รวมถึงสังเกตุพฤติกรรมของสี่คนนั้นด้วย” ผมกล่าว ถึงแม้จิตใต้สำนึกของพวกเขาจะเป็นบวก แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่าพวกเขาจะไม่คิดร้ายกับพวกเรา

“แต่ถ้าคุณไปคนเดียว…” เวียร์กล่าวอย่างเป็นห่วง ถึงแม้ผมจะมีพลังจากเทพบรรพกาลที่มีรูนครบทุกรูน แต่ก็ใช่ว่าผมจะเป็นเทพซะหน่อย ผมยังคงเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีความหิว มีความเจ็บปวด และสามารถกลายเป็นซอมบี้ได้เหมือนกัน

“พวกซอมบี้ในตอนนี้ยังไม่น่ากลัวสำหรับผม"

“ผมเอาตัวรอดจากพวกมันได้ และคนที่ผมจะไปช่วยเธอก็สู้เก่งพอๆกับผม”

“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะกลับมาภายในสี่ชั่วโมง” ผมกล่าวให้คำสัญญา

“ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นขอให้รีบติดต่อมาทันที” เวียร์กล่าว ผมจึงพยักหน้าตอบรับและเดินไปโรงจอดรถพร้อกับขึ้นคร่อมรถบิ๊คไบค์และขับออกไปจากบ้านทันที

ณ โรงแรมหรู

“เวรจริงๆ” อริสกล่าวขณะที่กำลังมองดูภายในห้องพัก มีซอมบี้สี่ตัวกำลังจ้องมองเธอผ่านกระจกอยู่ ส่วนกระสุนเธอก็หมด สิ่งของที่จะทำเป็น อาวุธได้รอบตัวก็ไม่มี

“มันเป็นอย่างที่พ่อบอกจริงๆ ฉันไม่สามารถพึ่งพาใครได้”

“นอกจากพึ่งพาตัวเอง” อริสกล่าวตัดพ้อตัวเอง

“ถูก” เสียงชายคนหนึ่งกล่าว และดูเหมือนชายคนนั้นจะอยู่ระเบียงชั้นล่างนี้เอง ทำให้เธอพยายามชะโงกหน้าลงไปดู

“ฉันไม่สามารถขึ้นไปข้างบนนั้นได้ ซอมบี้มีมากเกินไป” และปรากฏว่าชายคนนั้นก็คือผมเองนี่แหละ

“เดี๋ยว นายมาคนเดียวเหรอ?” อริสกล่าวถามผม

“นั่นก็ถูกอีก” ผมกล่าวพร้อมกับจุดไฟสูบบุหรี่และพ่นควันออกมา

ฟิ้วว กึก!

“ฉันให้ยืมนี่ล่ะกัน” ผมกล่าวหลังจากปาขวานขึ้นไปติดกับกำแพงข้างๆระเบียงของเธอ อริสไม่รอช้ารีบหยิบมันขึ้นมาทันที เพราะประตูกระจกใกล้จะแตกแล้ว

เพล้ง

ฮาสส ฉับ

ฉับ ฉับ ผลั่ก

และเมื่อประตูกระจกแตก ทำให้พวกซอมบี้เดินเข้าหาเธอทันที แต่เธอก็ใช้ขวานที่ผมให้สับไปที่หัวของซอมบี้ตัวหนึ่ง ก่อนจะใช้เท้าถีบซอมบี้ตัวนั้นเพื่อดึงขวานออกและใช้ขวานสับไปที่หัวซอมบี้อีกตัวสองที ส่วนตัวที่สามเธอใช้แรงเหวี่ยงร่างของซอมบี้ตัวที่หัวติดกับขวานอยู่ตกลงไปข้างล่าง

ฉึก

ส่วนตัวสุดท้ายผมได้ใช้ปืนเก็บเสียงยิงไปที่กลางหัวของมันก่อนที่มันจะถึงตัวเธอ อริสจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด และผมก็ได้ทิ้งบุหรี่ลงไปข้างล่าง

“มันก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี” อริสชะโงกหน้ามากล่าวกับผมเมื่อซอมบี้พากันกรูกันที่ประตูห้องของเธอจนผมได้ยินเสียง

กริ้งงงงงงงงงงงงงงงงง

“นั่นไม่ถูก” ผมกล่าวกลับไปเมื่อสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นพร้อมกับน้ำที่สาดลงมาจากบนเพดานห้องที่ผมอยู่ เพราะผมจุดไฟเผาพวกผ้าห่มบนเตียงเอาไว้

“เจอกันที่บันไดหนีไฟ” ผมกล่าวก่อนจะหายตัวเข้าไปในห้อง

“ผู้ชายคนนี้…” อริสกล่าวก่อนจะรีบเดินออกไปจากระเบียงเช่นเดียวกับผม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel