ตอนที่ 4 เปิดเผยความรู้สึก
ตอนที่ 4 เปิดเผยความรู้สึก
หลังจากที่ทุกคนในสวนช่วยกันเก็บข้าวเก็บของเคลียร์พื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเรียบร้อยแล้ว เวลาก็ผ่านไปเกือบครึ่งวัน เฮียผา เฮียสิงห์ เฮียกล้า และนารา พากันมาที่บ้านแม่รำเพยเพื่อพูดคุยถึงเรื่องของตะวัน
"ตะวัน...เล่าเรื่องเมื่อเช้าให้แม่ฟังหรือยัง" เฮียผาดูไม่ค่อยพอใจที่สุดในบรรดาสามคนพี่น้อง เฮียสิงห์ดูเฉยๆ ส่วนเฮียกล้าแอบเอนเข้าข้างเพื่อนรักของตัวเองอยู่บ้าง
"หนูเล่าแล้ว" ตะวันตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดหน่อย เฮียกล้าหันไปสบตากับพราวมุกภรรยาของเขา ซึ่งเธอก็เดินแอบมากระซิบบอกสามีของเธอว่า...'คนของเราแอบชอบเค้า' ได้ยินกันแค่สองคน
"ตะวัน...น้องคิดยังไงกับเรื่องนี้" เป็นเสียงของเฮียสิงห์เอ่ยถามน้องสาว อยากรู้ว่าตะวันคิดอะไรอยู่ ถึงได้เข้าไปนั่งในรถกับเขา เพราะช่วงที่แยกย้ายกันไปนอน เฮียสิงห์มั่นใจว่าน้องสาวของเขายังมีสติอยู่ แล้วคนอย่างตะวันก็คงไม่ยอมถูกเอาเปรียบได้ง่ายๆ ถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม อีกทั้งสถานที่ที่เกิดขึ้นก็เป็นถิ่นของพวกเรา แน่นอนว่าคนที่รู้จักพวกเราดี คงไม่มีใครกล้ามาทำเรื่องไม่ดีในที่ของพวกเราแน่นอน โดยเฉพาะในสวนของนายหัวภูผา...เฮียสิงห์ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้มาก
"ช่างมันไปได้มั้ย เฮียพลเขาไม่ได้ทำอะไรหนูจริงๆ รถก็รถเขา หนูเป็นคนขึ้นไปเอง เขาไม่ได้ฉุดกระชากหนูขึ้นไปสักหน่อย" ตะวันพูดเข้าข้างขุนพลออกหน้าออกตา จนเฮียผาต้องเบนหน้าหนี
"แต่เอ็งเสียหายนะตะวัน เป็นผู้หญิงแบบไหนเนี่ย" เฮียผารักน้องสาวมากเขาไม่พอใจที่ตะวันคิดแบบนี้
"แล้วเฮียจะให้หนูทำยังไง ไปแจ้งความมั้ย ให้หนูอับอายคนทั้งจังหวัดไปเลย" ตะวันพูดไปก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
"เอาเถอะๆ หยุดเถียงกันได้แล้ว" แม่รำเพยฟังลูกๆ เถียงกันอยู่นาน คนเป็นพี่รักน้อง ส่วนคนเป็นน้องก็แอบมีใจให้เขา
"เอาแบบนี้แล้วกัน ตะวันยืนยันกับแม่ว่าเจ้าพลไม่ได้ทำอะไรเลิกพูดเถอะ พูดไปน้องก็จะรู้สึกไม่ดีเอาเปล่าๆ" แม่รำเพยไม่ได้ต้องการอะไร ผู้ชายเขาก็กลับบ้านไปแล้ว แค่กอดคงไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ อีกอย่างลูกสาวของท่านก็แอบมีใจให้ เรื่องนี้คนที่ผิดคงเป็นตะวัน เพราะขึ้นไปนั่งในรถของเขาเอง พูดไปฝ่ายเราก็จะมีแต่เรื่องเสียหาย
ซึ่งในขณะนี้เอง เสียงข้อความในมือถือส่วนตัวของเฮียกล้าก็ดังขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองเป็นตาเดียว
"ไอ้พลส่งข้อความมาบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะมาครับ" ส่วนรายละเอียดไม่มี!
"มาทำไม!" น้ำเสียงไม่พอใจของเฮียผาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินหนีไปทางด้านหลังบ้าน โดยมีนาราภรรยาคนสวยที่กำลังตั้งท้องอ่อนๆเดินตามไปด้วย
"เฮีย...หนูรู้ว่าเฮียรักน้อง อย่าหงุดหงิดเลยนะคะ" นาราเข้าใจความรู้สึกและนิสัยของเฮียผาดีที่สุด เธอพยายามปลอบเพื่อให้เขาใจเย็นลง
"ก็มันน่าโมโหนี่" ภาพที่เห็นขุนพลกำลังนอนกอดตะวันอยู่ในรถ ยังคงติดตาเฮียผาอยู่เลย...กอดแน่นด้วยเสื้อก็ไม่ได้ใส่!
"ไหนเฮียลองบอกซิ เฮียต้องการอะไรจากพี่ตะวัน แค่นี้พี่เขาก็จะร้องไห้อยู่แล้วไม่เห็นเหรอ" นาราสวมกอดไปที่เอวสามีของเธอจากทางด้านหลัง เพื่อเป็นการปลอบให้เขาใจเย็นลง
"เฮียอาจจะรักน้องมากเกินไป" คำถามของนารา ทำให้เฮียผาคิดได้ว่าเขาไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากความสุขของน้องสาว นั่นจึงทำให้อารมณ์ของเขาค่อยๆเย็นลง
ทางด้านในบ้าน
"หนูชอบเขาค่ะ ชอบมานานแล้วด้วย" ตะวันเชิดหน้าพูด เธอเคารพความรู้สึกของตัวเองเสมอ ชอบก็บอกว่าชอบ
"จริงเหรอเนี่ย เฮียเห็นเอ็งคุยกันท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คิดว่าพูดเล่น" เสียงเฮียกล้าเอ่ยแซว ที่จริงเพื่อนของเขาคนนี้ก็ไม่เลว ไม่ว่าจะเป็นฐานะ รูปร่างหน้าตา การแต่งตัว จัดว่าดูดีมาก
"หนูพูดจริง แต่หนูไม่ได้คาดหวังอะไรจากเค้า ก็แค่ชอบเฉยๆ"
"กล้าเนอะ! ไปเอานิสัยใครมาใช้เนี่ย แมนมากเลยน้องเฮีย" เฮียกล้าพูดไปหัวเราะไป
"ไอ้กล้า!" เฮียสิงห์ดุ
"เอาน่า...เขาไม่ได้กอดหนูฝ่ายเดียวซะเมื่อไหร่ หนูก็กอดเขาด้วย หายกันไปเถอะ" ประโยคนี้ตะวันพูดขึ้นขำๆ ไม่อยากให้ทุกคนเครียด
"แล้วพรุ่งนี้ไอ้พลมันจะมาทำไม" เฮียสิงห์หันไปถามเฮียกล้า
"ผมก็ไม่รู้ ไม่ได้ถามมัน คงจะมาขอโทษมั้ง"
"เออ...ให้มันมาขอโทษก็ดี แล้วก็จบๆกันไป" เฮียสิงห์สรุป ซึ่งทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็คิดเหมือนกัน
ทางด้านขุนพล
#ขุนพล
ผมได้ยินเสียงรถของแม่ประนอมขับเข้ามาจอดที่โรงจอดรถหน้าบ้าน ในช่วงบ่ายแก่ๆของวัน ผมจึงเดินออกไปดู อยากรู้ว่าแม่ไปซื้อทองมาจริงๆอย่างที่ไอ้หยกมันพูดหรือเปล่า แล้วทำไมถึงได้กลับมาเอาป่านนี้ ผมเดินออกไปได้หน่อย แม่ก็หันมายิ้มให้ผมทันที
"อ้าว...แม่ก็คิดว่าแกไปอยู่ที่รีสอร์ตแล้วซะอีก" แม่ของผมเป็นผู้หญิงเก่ง ขับรถไปไหนมาไหนเองได้สบาย ซึ่งสภาพหน้าของผมตอนนี้น่าจะอยู่บ้านสักอาทิตย์ หน้าหล่อๆของผมตอนนี้เริ่มบวม
"แม่ไปไหนมาครับ ทำไมกลับมาเอาป่านนี้" นี่มันก็เกือบเย็นแล้วนะ ออกไปตั้งแต่ช่วงสายๆ ไอ้ผมก็คิดว่าถูกปล้นไปแล้ว
"แม่บอกไอ้หยกไว้ มันไม่ได้บอกแกหรอกเหรอ"
"มันบอกว่าแม่ไปธนาคาร ไปเบิกเงินมาซื้อทอง จริงหรือเปล่าครับ"
"จริง" ห๊า...
"ไปแค่ธนาคารกับร้านทอง ทำไมถึงกลับมาเอาเย็นป่านนี้ครับ ผมก็คิดว่าแม่ถูกปล้นไปแล้ว"
"ปากเสีย! ฉันไปหาฤกษ์งานแต่งกับหลวงพ่อที่วัดมาย่ะ" หาฤกษ์! โอ้มายก๊อดแม่ผม
"ตกลงแม่อยากให้ผมแต่งงานจริงๆเหรอครับ" ท่าทางของแม่ตอนนี้ดูมีความสุขมาก มากซะจนผมไม่อยากขัด
"จริงสิ แกพูดเองนะว่าแล้วแต่แม่"
"แต่แม่ไล่ผมให้ไปอาบน้ำแล้วบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่ แล้วซื้อทองคืออะไรครับ" ในบางครั้งความเก่งของแม่ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าท่านเจ้ากี้เจ้าการเกินไปหน่อย
"เรื่องนั้นคุยจบแล้ว มาคุยเรื่องสู่ขอกันดีกว่า แม่ไปเบิกเงินมาล้านนึง ซื้อทองมาสิบบาท ส่วนเงินที่เหลือแม่ว่าจะยกให้เป็นค่าสินสอดไป" ให้ตั้งล้านนึง แม่ผมอยากได้ลูกสะใภ้ขนาดนี้เลยเหรอ
"แม่...ทางโน้นเขายกลูกสาวให้แม่แล้วเหรอ" ทำไมรีบจัง!
"ฉันเป็นแม่ค้า ฉันมีวิธีพูดก็แล้วกันแหละ ส่วนแกเตรียมตัวให้ดี โทรไปบอกทางโน้นหรือยังว่าพรุ่งนี้เช้าจะไป"
"บอกแล้วครับ"
"มีเมียมันดีจะตาย ส่วนคนที่เขาไม่ได้รักเราแล้วก็ลืมๆมันไป เชื่อแม่!" จากนั้นแม่ประนอมก็เดินหนีผมเข้าบ้านของท่านไป
ผมจึงเดินกลับเข้าบ้านของผมเช่นกัน บ้านแม่จะอยู่ด้านหน้า ส่วนบ้านของผมจะอยู่หลังข้างๆติดกัน ในบ้านแม่จะมีห้องครัวห้องใหญ่มากสำหรับทำขนมส่งขาย แม่มีลูกน้องคอยช่วยอยู่หนึ่งคน สำหรับเป็นลูกมือช่วยทำขนม ขนมจะทำวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และจะทำตามออเดอร์ที่สั่งมาเท่านั้น ส่วนวันเสาร์กับวันอาทิตย์หยุดพักผ่อน