Ep. [2] เรณุวัฒน์ ติวาณิชย์
เฮ้อ!
ยืนถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ไม่รู้ว่าจะได้เข้าพบเจ้าของสถานที่ใหญ่โตแห่งนี้ไหม เธอเป็นห่วงพี่ชายแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ พชรหายไปเป็นเดือนแล้ว หายไปแบบคนไร้ตัวตน แม้แต่ข่าวคราวก็เงียบหาย จนหล่อนต้องมาตามหาเขาถึงที่นี่
“ขอให้เขาให้เราเข้าพบด้วยเถอะนะ” แพรววนิต บุญดี หรือแพรว วัย 22 ปี ยกมือขึ้นเหนือหัวตัวเองอย่างอ้อนวอนคนบนฟ้า
“ไหนอานัส” พอออกมาจากห้องทำงานเรณุวัฒน์ก็มองหาผู้หญิงที่ว่า มองไปทางไหนก็ไม่มี จะมีก็แต่ผู้หญิงแต่งตัวกะโปโล เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขายาวตัวเล็ก ๆ ดูยังไงก็เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
“คนนี้แหละครับคุณอาร์ต” อานัสเอ่ยพลางชี้ไปยังหญิงสาวที่ยืนยกมือขึ้นเหนือหัวและพึมพำอยู่คนเดียวตรงหน้า
“ไล่ไปซะ! อย่าให้เข้ามาในนี้อีก” เรณุวัฒน์สั่งเสียงแข็ง พลางเดินผ่านหญิงสาวที่ตนเห็นไปอย่างนึกรังเกียจ แต่ยังไม่ทันได้เดินผ่านก็ถูกมือน้อยดึงคว้าแขนเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิคะคุณ ขอให้ฉันได้ถามอะไรหน่อยได้ไหม” เธอได้ยินคำไล่ของเขาพอดี จึงฉวยโอกาสตอนชายหนุ่มจะเดินผ่านคว้าแขนไว้
“อานัส มาเอายัยเด็กนี้ออกไปให้พ้นทางฉัน!”
เอ่ยพลางตวัดสายตาดุมองคนตัวเล็กที่กำลังจ้องหน้าตัวเองอยู่ นาทีนี้เองหัวใจแกร่งพลันสั่นไหว ใบหน้าของหล่อนช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ปากจิ้มลิ้มสีชมพูระเรื่อ แก้มป่องนวลเนียน จมูกเชิดรั้นนั้นบ่งบอกว่าเธอเป็นคนดื้อเอาการ
“เดี๋ยว...ไม่ต้องอานัส ฉันจะคุยกับเด็กนี่เอง”
เขากลับคำแทบจะทันทีเมื่อได้เห็นใบหน้าของเด็กกะโปโลที่ตนกล่าวหาก่อนหน้านี้แล้ว หล่อนอาจจะดูกะโปโล แต่หน้าตาราวกับนางฟ้าก็มิปาน รูปร่างก็กำลังพอดีมือ เลื่อนสายตามาจดจ้องที่เนินอกโผล่พ้นคอเสื้อออกมายิ่งทำให้ลมหายใจของบุรุษแบบเขาขาดห้วง
"คุณไม่ไล่ฉันแล้วใช่ไหมคะ” เสียงใส ๆ เอ่ยถามคนตัวโตที่ตนคว้าแขนไว้อย่างตื่นเต้น
“อืม! อานัสสั่งคนของเราให้เตรียมรถ ฉันจะกลับคอนโดฯ”
สั่งจบก็เปลี่ยนจากถูกจับแขนไว้มาเป็นคว้าข้อมือเล็กลากตัวปลิวตามตนไปยังรถทันที
อานัสยิ้มกริ่มตามหลังนายแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือมาต่อสายหาคนขับรถ เพราะตอนนี้นายของเขาไม่อาจรอช้าได้ ดูจากการดึงลากสาวเจ้าไปแล้วก็พอจะรู้ว่านายหนุ่มกำลังร้อนรุ่มมากแค่ไหน