บทที่ 4 ข้าต้องการให้เจ้าตาย
ตี้เซินเมื่ออายุสิบห้าปีเริ่มยกทัพจับศึก พิชิตแผ่นดินกว้างใหญ่ จนปัจจุบันนี้ไม่เคยรบแพ้ ได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องหย่งติ้ง
อ๋องหย่งติ้ง มีอำนาจมากยิ่งนัก มีเขาอยู่ แคว้นตงเซี่ยสามารถรักษาความสงบสุขได้ตลอดกาล
ทุกคนเคารพรัก ผู้คนมากมายเลื่อมใส ฉู่เซี่ยในอดีตยิ่งยกย่องเขาให้เป็นเทพเจ้าในดวงใจ
แต่ฉู่จิงกั๋วในวินาทีนี้เพียงแค่กวาดสายตามองแวบหนึ่ง พูดอย่างเฉยชาเย็นเยือก
“พื้นที่ผ่าตัด คนนอกห้ามรบกวน!”
เสียงเย็นชา หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่
ทุกคนตรงนั้นต่างเบิกดวงตาโตอย่างตกตะลึงกันหมด ท่าทางยากจะเชื่อ
นี่คือพระชายาผู้ต่ำต้อยที่ได้แต่รับปากลูกเดียวในอดีตผู้นั้นหรือ?
ในอดีตเมื่อพระชายามองเห็นท่านอ๋อง อยากจะไปแนบชิดตัวท่านอ๋อง และเอาอกเอาใจสารพัด แต่วินาทีนี้กลับพูดจากับท่านอ่อนเช่นนี้อย่างคาดไม่ถึง?
มิหนำซ้ำหากมองโดยละเอียด นางกำลังเย็บท้องของนางเองอยู่
บาดเจ็บสาหัสปานนี้ นางยังสามารถพูดจากับพวกเขาได้? ยังมีเรี่ยวแรงเย็บแผล?
ฉู่จิงกั๋วไม่ได้สนใจสายตาของผู้ใดอีก ก้มหน้าหยิบคีมผ่าตัดขึ้นมา คีบไหมละลายชั้นดีไว้ เย็บส่วนหน้าท้องของตนเองอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่รูปร่างผอมบาง แต่ภายในกลับแข็งแกร่งและหยิ่งในศักดิ์ศรี
นางเย็บหน้าท้องติดกันขึ้นมาทีละเข็ม
ทุกคนมองจนตกตะลึงพรึงเพริด ดูเหลือเชื่อ
เย็บหน้าท้องติดกันจริงแล้ว
นี่คือหมอเทพหัตถ์เทวดาหรือ
ตี้เซินอดไม่ได้ต้องมองนางต่ออีกสักแวบ นางในคืนนี้ไม่เหมือนกับในอดีตจริงๆ นี่คือนางกำลังเล่นลูกไม้อะไร?
“แว้ๆๆ......แว้ๆๆ......”
เสียงร้องไห้ของทารกดังขึ้นกะทันหัน ร้องไห้พลางยื่นมือน้อยๆ ประหนึ่งกรงเล็บแมวออกไปดึงฉู่จิงกั๋ว เหมือนว่าอยากแสดงออกอะไรสักอย่าง
ตี้เซินได้สติกลับมา ถึงตระหนักได้ว่าตนเองมองหญิงอัปลักษณ์เพิ่มอีกสักแวบหนึ่ง ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนในใจลึกๆ
เขาย้ายสายตาไปบนตัวทารกแทน ชั่วขณะนั้นแววตาเปลี่ยนไปเย็นชาไร้ความรู้สึก
ไม่เหมือนมองลูกของเขาแม้แต่น้อย ทว่าเหมือนกำลังมองศัตรูและตัวถ่วงคนหนึ่งอยู่
“ฉู่เซี่ย ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าคลอดลูกของข้าออกมา?”
เหลียนเอ๋ออยากกลับมา นางกับลูกของนาง ล้วนต้องตาย
พูดจบ รูปร่างสูงใหญ่ของเขาปรากฏแวบหนึ่ง ชั่วพริบตาเดียวแฉลบมาถึงหน้าเตียง
มือใหญ่ที่เผยข้อต่อชัดเจนนั้นหิ้วแขนของทารกขึ้น พอยกมือขึ้นก็โยนไปทางนอกหน้าต่าง
ฉู่จิงกั๋วกลับจับข้อมือของเขาเอาไว้ทันใด สายตาอันเย็นชาจ้องเขาไว้แบบไม่กะพริบ
“ลูกของเจ้า? เหอะ!”
“ตอนที่ข้าตั้งครรภ์แพ้ท้อง อาเจียนจนไม่รู้รสอาหารเจ้าอยู่ที่ใดกัน?
ตอนที่ข้าหน้ามืดสะดุดบันไดล้ม เกือบจะตกเลือดเจ้าอยู่ที่ใดกัน?
ตอนที่ข้ากำลังคลอดลูก เจ็บจนตายแล้วฟื้นขึ้นมา เจ้ากำลังทำอะไร?”
เสียงสอบถามดังออกมาชัดถ้อยชัดคำ ลูกตาเย็นเยือกของฉู่จิงกั๋วจ้องเขาไว้
“ตั้งแต่ต้นจนจบ เจ้าไม่เคยทำอะไรเพื่อลูก นอกจากให้เชื้อผู้ชายที่สกปรกตัวเดียวแล้ว!
ยิ่งกว่านั้นลูกของเจ้าโดนเจ้าทำร้ายจนตายทั้งเป็น! ตอนนี้นางเป็นลูกของข้า และเป็นเพียงลูกของข้าฉู่เซี่ยคนเดียว!”
เสียงอันไพเราะมาพร้อมการสาบานที่เผด็จการและหนักแน่น
สีหน้าตี้เซินเย็นชาฉับพลัน นางกล้าพูดจากับเขาเช่นนี้อย่างคาดไม่ถึง
“ฉู่เซี่ย เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
เขาพลิกมือตบบนหน้าฉู่จิงกั๋วไปทีหนึ่ง
ร่างกายอันผอมบางของฉู่จิงกั๋วโดนตบจนกลิ้งตกลงมาจากบนเตียง
บริเวณแก้มเจ็บแบบแสบร้อน บาดแผลบริเวณหน้าท้องยิ่งบาดเจ็บรุนแรงเหมือนมีดกรีด
นางเอามือยันพื้นไว้ ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก
ใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดมุมปาก ปลายนิ้วติดเลือดสีแดงสะดุดตามา มุมปากได้รับบาดเจ็บแล้ว
มุมปากฉู่จิงกั๋วเผยความหยิ่งยโสขึ้น
ตบหน้าคราวนี้ นางจำเอาไว้แล้ว
รอตอนที่นางฟื้นตัวกลับมา จะต้องคืนกลับไปด้วยตนเองอย่างแน่นอน
ตี้เซินกำลังมองความเด็ดขาดและความเกลียดชังในแววตาของนาง คาดไม่ถึงรู้สึกสับสนครู่หนึ่ง
แต่ว่าเพียงครู่เดียว เขาก็จ้องนางจากบนลงล่าง
“อย่าเสแสร้งทำท่าทางไม่ได้รับความเป็นธรรมนี้ออกมา เจ็ดปีนี้ตำหนักอ๋องปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี เจ้ายึดครองตำแหน่งพระชายาของเหลียนเอ๋อมานานเจ็ดปีเต็มๆ ควรรู้จักพอได้แล้ว
ตอนนี้ข้าต้องการให้เจ้าตาย เจ้าควรให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟัง!”
ตี้เซินพูดจบ ก็ไม่อยากพัวพันกับนางอีกต่อไป ยื่นมือออกไปทางทารกอีกครั้ง
ฉู่จิงกั๋วหัวเราะอย่างเย็นชา ปฏิบัติต่อนางอย่างดี?
ที่รับรู้มาจากในความทรงจำ เจ็ดปีมานี้ฉู่เซี่ยอยู่ในตำหนักอย่างโดดเดี่ยวและโดนเยาะเย้ยเต็มที่ ดูแลไท่เฟยเฒ่ากับท่านผู้เฒ่าประหนึ่งเป็นข้าทาส แม้กระทั่งโดนคนรับใช้รังแก
นี่คือปฏิบัติต่อนางอย่างดีแบบที่เขาหมายถึง?
มิหนำซ้ำฉู่เซี่ยกับตี้เซินนั้นเป็นฝ่าบาทพระราชทานงานสมรส ทั้งที่ตี้เซินชอบสตรีผู้อื่นในช่วงเวลาหมั้นหมาย นอกใจช่วงแต่งงานแล้ว บอกว่านางยึดครองตำแหน่งได้อย่างไร?
ตาเห็นว่าเขาอยากเหวี่ยงลูกออกไป แววตาของฉู่จิงกั๋วเย็นเฉียบถึงขีดสุด
ทันใดนั้นในมือนางมีกระบอกฉีดยาเพิ่มขึ้นมาแล้ว แทงบนขาของตี้เซินอย่างกะทันหัน
พอนิ้วมือเรียวดันลง ของเหลวสีใสก็ไหลตามเข็มอันแหลมคม ไหลเข้าสู่ในเส้นเลือดของเขา