บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 เป็นข้าต่างหากที่ไม่ต้องการเจ้า

ทุกคนในห้องหนังสือหันหน้ามองไป ชั่วพริบตาเดียวตกใจจนเบิกตาโตแล้ว

เห็นเพียงฉู่จิงกั๋วอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งด้วยมือข้างเดียว แล้วก้าวใหญ่ๆ เดินเข้ามา

นางสวมชุดผ้าปักลายสีขาวทั้งชุด เส้นผมยาวสลวยม้วนเป็นมวยอันหนึ่งเอาไว้ ใช้ปิ่นไม้ปักให้แน่น เผยความสะอาดและคล่องแคล่วออกมา

ในอดีตหน้าใบนั้นมักจะซีดเผือดเหี่ยวแห้ง ริ้วรอยเต็มไปหมด ทว่าวินาทีนี้ดูสะอาดมีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย

ถึงแม้ว่ายังเต็มไปด้วยกระ แต่นางไม่ได้ก้มหน้าอย่างต่ำต้อยอีกต่อไป ทว่าเชิดหน้ายืดอก หน้าตาดูมั่นใจ

ตรงบริเวณหางตายังมีไฝเม็ดหนึ่ง เพื่อเพิ่มความหยิ่งยโสให้นางระดับหนึ่ง

นางอุ้มลูกไว้ หลังยังคงยืดตรงอย่างเป็นธรรมชาติ รอบตัวเผยบุคลิกแบบที่แม่ทัพหญิงถึงจะมีได้ออกมา ทั่วทั้งตัวดูเย็นชามีพลัง

เด็กน้อยในอ้อมอกก็น่าเอ็นดู นัยน์ตาอันใสแจ๋วจ้องมองโลกใบนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผู้ใหญ่คนหนึ่งกับเด็กน้อยคนหนึ่ง ภาพดูชัดเจนยิ่งนัก กำลังปะทะลูกตาของผู้คน

ทุกคนมองจนตะลึงแล้วตะลึงอีก รู้สึกไม่อยากเชื่อ

นี่คือผู้ใด......

นี่ยังคือพระชายาเมื่อสมัยก่อนผู้นั้น คือฉู่เซี่ยในสมัยก่อนผู้นั้นอยู่หรือ?

แม่นมเซี่ยก็มึนงงเช่นกัน

ตอนที่นางออกมาฉู่เซี่ยยังเลือดเปื้อนเต็มตัวไปหมด เหตุใดถึงเปลี่ยนไปสะอาดสะอ้านในเวลาอันสั้นปานนี้?

หนังตาของฉู่เหลียนเอ๋อยิ่งกระตุกอย่างแรง

ฉู่เซี่ยเปลี่ยนไปเป็นลักษณะนี้ได้อย่างไร?

ฉู่เซี่ยที่อัปลักษณ์และดูอ่อนแอกว่านางมาแต่ไหนแต่ไร เปลี่ยนไปเป็นลักษณะนี้ได้อย่างไร!

มีเพียงตี้เซินที่ดูสูงศักดิ์เย็นชาดังเดิม หลังจากกวาดสายตาอันเฉยชามองฉู่เซี่ยแวบหนึ่ง จึงพูดด้วยเสียงเย็นเยือก

“เจ้ามาได้พอดี รับหนังสือหย่าไว้แล้วรีบไปให้พ้นตำหนักอ๋อง!”

เฟยมู่รีบเข้ามาด้านหน้าอย่างรังเกียจ ยื่นหนังสือหย่าให้

ถึงแม้บุคลิกและภาพลักษณ์ของฉู่เซี่ยต่างจากเดิมแล้ว แต่ยังคงอัปลักษณ์ หน้าเต็มไปด้วยกระ ผิวพรรณเหี่ยวย่น เดิมทีเทียบกับฉู่เหลียนเอ๋อไม่ได้สักนิด

แบบนี้เชิดหน้าชูตาไม่ได้ ไม่คู่ควรเป็นพระชายาจิง

ฉู่จิงกั๋วมองดูหนังสือหย่าที่เฟยมู่ยื่นมาให้ ตัวอักษรที่มีพลังด้านบนนั้นเขียนว่า

“ฉู่เซี่ยหยาบคายไร้เหตุผล รังแกกดขี่ข้าทาส โต้แย้งสามี ก่อกรรมทำชั่วนับไม่ถ้วน จึงเขียนหนังสือนี้ขึ้นมา ไล่ออกจากตำหนักอ๋อง!”

ฉู่จิงกั๋วหัวเราะเยาะ

ทำตัวหยาบคายไร้เหตุผล ซ้ำยังก่อกรรมทำชั่วนับไม่ถ้วน

ฉู่เซี่ยระมัดระวังรอบคอบมาเจ็ดปี สิ่งที่แลกมาก็คือคำนิยามแบบนี้?

มิหนำซ้ำที่แคว้นตงเซี่ย หนังสือหย่าจะประกาศทั่วแผ่นดิน โดยเฉพาะเป็นหนังสือหย่าของราชวงศ์

ถ้าเกิดนางรับหนังสือหย่าฉบับนี้แล้วเดินออกไป ชื่อเสียงคงพังพินาศถึงที่สุด ต่อไปไม่ว่าไปที่ใดล้วนจะถูกคนวิจารณ์ลับหลังและพากันตำหนิไปทั่ว

แววตานางแข็งทื่อและเย็นเยือก ยื่นมือรับหนังสือหย่ามา

จากนั้น ขณะที่อยู่ต่อหน้าทุกคน——

“แคว่กๆๆ” ฉีกหนังสือหย่าแผ่นหนึ่งเป็นชิ้นๆ อยู่อย่างนั้นแล้ว ยังขยำเป็นก้อน โยนใส่ตี้เซินอย่างเย็นชา

“อยากจะหย่ากับข้า ได้ แต่หนังสือหย่าต้องเขียนว่า:

ข้าฉู่เซี่ยดูแลจัดการตำหนักอ๋องอย่างรอบคอบและขยันหมั่นเพียรมาเจ็ดปี รักและนับถือท่านอ๋องหมดใจ แต่เจ้าตี้เซินกลับไร้หัวใจ นิ่งเฉยไม่หวั่นไหว ยังฆ่าภรรยาทำร้ายลูกสาวอย่างโหดเหี้ยม!

เมื่อหลังจากเจ้าตี้เซินกับหญิงชู้ฉู่เหลียนเอ๋อฆ่าคนล้มเหลว ถึงตัดสินใจหย่าร้าง!

และเป็นข้าฉู่เซี่ยต่างหากที่ไม่ต้องการเจ้า ไม่ใช่เจ้าเห็นข้าเป็นสุนัขที่อยากถีบก็ถีบ!”

เสียงอันเย็นชามีพลังดังออกมา มาพร้อมพลังอันขึงขังกล้าหาญ

ทุกคนในที่นั้นต่างตกใจจนเบิกดวงตาโตขึ้นหมด

ฉู่เซี่ยกล้าพูดจากับท่านอ๋องปานนี้เชียว กล้าเอ็ดตะโรปานนี้เชียว

ฉู่จิงกั๋วยังพูดเสริมอีก

“ใช่แล้ว การสังหารและทำทารุณในเก้าวันมานี้ ทำให้ฉู่เซี่ยเกือบจะตายอย่างอนาถ อวัยวะภายในหนาวเหน็บ กระเพาะอาหารสะสมโรค แม้ว่าสักสิบปีก็ไม่มีทางรักษาฟื้นฟูกลับมาดังเดิม

ค่าชดใช้ทางกายและใจ เจ้าต้องชดใช้มาหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง!”

ชั่วขณะนั้นสีหน้าของตี้เซินแข็งตัว

ฉู่เซี่ยผู้ขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไรคาดไม่ถึงกล้าขอเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงจากเขา? ยังกล้าสั่งการเขาเขียนหนังสือหย่าด้วย?

เขาหัวเราะเยาะเย้ย “ฉู่เซี่ย เจ้าอย่าลืมสิ ตอนนั้นข้าให้โอกาสเจ้าถอนหมั้น เป็นเจ้าที่ดึงดันจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องเอง! ทุกอย่างนี้เป็นเจ้าที่หาเหาใส่หัว ทำกรรมใดไว้ก็รับสิ่งนั้นไป!”

“เหอะๆ!”

ฉู่จิงกั๋วหัวเราะขึ้นกะทันหัน หัวเราะแบบเย้ยหยันและเย็นเยือก

“ใช่ เจ้าให้ข้าไปถอนหมั้น แต่นั่นเป็นเพราะเจ้ากังวลว่าผู้คนจะกล่าวหาเจ้าว่ารังเกียจตระกูลฉู่ที่ครอบรอบครัวตกอับ ถึงบีบข้าไปทูลถอนหมั้นต่อฝ่าบาท!

แต่ตระกูลฉู่ไม่ได้รุ่งเรืองเช่นเมื่อก่อนตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าตระกูลฉู่เสนอการถอนหมั้นออกไป ผู้คนก็จะต่อว่าตระกูลฉู่ไม่รู้จักชั่วดี ครอบครัวตกอับแล้วยังใจกล้าหักพระพักตร์ฝ่าบาทอีก!

ถ้าทำให้ฝ่าบาททรงกริ้ว ทั้งตระกูลฉู่คงพินาศตลอดกาล และถูกสังหารยกตระกูลเพียงเพื่อชื่อเสียงดีงามของเจ้า!”

ฉู่จิงกั๋วรับรู้เรื่องราวพวกนี้จากในความทรงจำ

ฉู่เซี่ยเป็นคนที่อ่อนแอขี้ขลาดมาโดยกำเนิด ตอนนั้นไม่มีความกล้ากราบทูลขอถอนหมั้นต่อฝ่าบาทจริงๆ ยิ่งไม่มีความกล้าเอาชีวิตหลายสิบคนของตระกูลฉู่มาเสี่ยง

แน่นอนว่า ฉู่เซี่ยก็แอบคาดหวังลมๆ แล้งๆ อยู่น้อยนิด หวังว่าหลังแต่งงานจะสามารถกุมหัวใจดวงนั้นของตี้เซินได้สักนิดหนึ่ง

แต่จนท้ายที่สุด นางทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความหวังอันริบหรี่นี้แล้ว

แต่ฉู่เซี่ยไม่ท้าทายสวรรค์ และไม่เคยก่อเรื่องทำร้ายผู้อื่นใดๆ ตี้เซินมีสิทธิ์อะไรอยากฆ่านางกับลูก?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel