บทที่ 3 ข่าวดีของตระกูล (2/2)
แม้ว่าจ้าวเหว่ยหลงจะเป็นท่านอ๋องที่ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานราชการภายในวังหลวง แต่ชื่อเสียงที่มีมาทำให้ฮุ่ยเฟินถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก หากหลินเหม่ยลี่ได้เป็นพระชายา นางก็คงจะมีอำนาจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
“นี่เป็นหนังสือหมั้นหมาย และสินสอด หากท่านตกลง ข้าจะให้พวกบ่าวนำสินสอดเข้ามาทันที ท่านตรวจสอบรายการสินสอดก่อนเถิด ฮูหยินใหญ่”
หนังสือหมั้นหมายพร้อมกับรายการสินสอดถูกมอบสู่มือของฮุ่ยเฟิน นางรีบเปิดมันออกพร้อมกับดวงตาที่เบิกโพลงขึ้นราวกับไข่ห่าน เมื่อเห็นรายละเอียดด้านใน
ผลไม้ ชา สุราต่าง ๆ ไม่สามารถเรียกความสนใจได้เท่ากับเงินทองและเครื่องประดับมากมายที่ทำจากทองคำหลายต่อหลายหีบ ที่นางและบุตรีจะสบายไปทั้งชาติ หากตอบรับการหมั้นหมายในครั้งนี้
“สินสอดข้าจะรับเอาไว้ แล้วฤกษ์มงคลสมรสเล่า”
ฮุ่ยเฟินตอบตกลงออกไปโดยไม่รั้งรอที่จะให้หลินเฟยเทียนผู้เป็นสามีได้ออกความคิดเห็น ส่วนผู้เป็นสามีก็นั่งสงบนิ่งปล่อยให้นางจัดการทุกอย่างตามใจ
“ท่านอ๋องให้ข้าแจ้งว่าหากพวกท่านตอบตกลง งานมงคลสมรสจะเกิดขึ้นภายในสิบหน้าวันหลังจากนั้น” แม่สื่อบอกต่อถ้อยคำของท่านอ๋องได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
“ท่านอ๋องใจร้อนยิ่งนัก เจ้านำสิ่งนี้กลับไปมอบให้ท่านอ๋องแทนคำตอบที่ข้าตอบรับการหมั้นหมายในครั้งนี้” ฮุ่ยเฟินมอบกำไลหยกคู่เนื้องามให้กับแม่สื่อ
“เจ้าค่ะ”
หลังจากที่แม่สื่อออกจากเรือนไป ฮุ่ยเฟินก็รีบจัดการเปิดหีบสินสอดที่มากมายเต็มเรือนรับรองทีละหีบด้วยความตื่นเต้น จนปลายสายตามองเห็นร่างบางของบุตรี นางจึงเอ่ยปากเรียกเอาไว้
“ลี่เอ๋อร์ มาหาแม่เร็ว”
“เจ้าค่ะ ท่านแม่”
หลินเหม่ยลี่ที่กำลังย่องออกจากเรือนตกใจชะงัก เมื่อเสียงของมารดาทำให้นางต้องหยุดการกระทำ ก่อนที่นางจะเดินเข้ามาหามารดา พร้อมกับเกิดข้อสงสัยเมื่อสายตามองเห็นหีบข้าวของมีค่ามากมายที่ล้วนแล้วแต่ผูกผ้าแดงเอาไว้
“เจ้าดูเครื่องประดับเหล่านี้สิ เจ้าชอบหรือไม่” ฮุ่ยเฟินฉีกยิ้มกว้างให้กับหลินเหม่ยลี่
“ของผู้ใดกันเล่าท่านแม่ ถึงได้มีมากมายเช่นนี้”
“ของเจ้ายังไงเล่า ท่านอ๋องให้แม่สื่อมาสู่ขอเจ้า”
ถ้อยคำของมารดาทำให้หลินเหม่ยลี่หน้าเปลี่ยนสีในทันที ก่อนจะจ้องมองเครื่องประดับและเงินตรามากมาย สลับกับใบหน้าของมารดาไปมาด้วยความงงงวย
“ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่ถามข้า!”
หลินเหม่ยลี่แผดเสียงขึ้นอย่างดัง จนบิดาอย่างหลินเฟยเทียนยังต้องละสายตาขึ้นจากถ้วยชา
“เจ้าจะเสียงดังไปด้วยเหตุใด เป็นชายาของท่านอ๋องนับเป็นวาสนาที่ดีของเจ้ายิ่งนัก” ฮุ่ยเฟินบอกกับหลินเหม่ยลี่ให้เข้าใจ
“แต่ข้า…”
“ไม่มีแต่ แม่ตกปากรับคำของแม่สื่อไปแล้ว อีกสิบห้าวันจะมีงานมงคลสมรสของเจ้ากับท่านอ๋อง”
หลินเหม่ยลี่ที่อ้าปากจะขัดความต้องการของมารดา แต่กลับต้องหุบปากลงเสียสนิท เมื่อเห็นแววตาดุดันของท่านแม่ ครั้งนี้นางเห็นว่าท่านแม่ของนางตัดสินใจโดยพละการไปเสียจริง ๆ แต่นางก็ไม่อาจเอ่ยบอกความในใจและความต้องการของตัวเองออกไปได้
“เจ้าค่ะ”
หลินเหม่ยลี่เดินออกจากเรือนด้วยสายตาที่เหม่อลอย นางไม่ได้ชอบพอกับท่านอ๋องอะไรนั่นเสียหน่อย จะให้นางแต่งงานกับเขาได้อย่างไรเล่า
สองเท้าของหลินเหม่ยลี่รีบจ้ำไปยังสถานที่นัดพบด้วยความรีบร้อน นางต้องแจ้งข่าวร้ายกับเขาให้ได้รู้ว่านางไม่อยากออกเรือนไปกับท่านอ๋อง แต่นางอยากอยู่กับบุรุษที่นางมีใจให้ต่างหาก
“ท่านแม่ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่แต่งงานกับท่านอ๋องเด็ดขาด”
หลินเหม่ยลี่หน้างอง้ำ รีบเดินรุดเร้นกายออกไปจากเรือนด้วยความเงียบเชียบ ไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าคุณหนูใหญ่กำลังจะออกไปทำเรื่องบัดสี ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความวิตก พร้อมกับมองซ้ายมองขวาปีนกำแพงออกไปในทันทีที่ไม่มีผู้ใดเห็น