ชายาตัวแทนของท่านอ๋องไร้ใจ

70.0K · จบแล้ว
Chivavass
42
บท
6.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

'หลินลี่หมิง' เข้าพิธีแต่งงานกับ 'จ้าวเหว่ยหลง' เพื่อรักษาเกียรติของวงศ์ตระกูล แต่ทว่านางกลับเป็นได้เพียง 'ชายาตัวแทน' ของท่านอ๋องเท่านั้น เพราะสตรีที่ท่านอ๋องพึงใจคือพี่สาวที่หนีไป หาใช่นาง!

นิยายจีนโบราณท่านอ๋องนางเอกเก่งแต่งงานก่อนรักแต่งงานแทนพระชายาพระเอกเก่งจีนโบราณโรแมนติก18+

บทนำ ตราตรึงใจ (1/2)

สิบปีก่อนหน้า...

เมืองหนานจิง แห่งแคว้นจ้าว...

ในค่ำคืนที่สว่างไสวไปด้วยแสงแห่งโคมไฟนั้น เป็นเพราะว่าภายในเมืองได้จัดเทศกาลหยวนเซียว หรือ เทศกาลแขวนโคมไฟขึ้นทำให้ถนนหนทางคราคร่ำมากมายไปด้วยผู้คนและร้านรวงเต็มสองฝั่งทาง ผู้คนที่พากันออกมาด้วยใบหน้าแจ่มใส เพื่อชื่นชมความงดงามของโคมไฟ และกินขนมหยวนเซียว [1]

ว่ากันว่าเทศกาลหยวนเซียว ถือเป็นวันแห่งความรัก ที่ทำให้บรรดาสตรีต่างพากันออกมาชื่นชมความสวยงามของโคมไฟที่ประดับประดา จนได้พบเจอกับบุรุษมากหน้าหลายตาและก่อเกิดเป็นความรัก

คนมีครอบครัวต่างก็พาเด็ก ๆ ออกมาวิ่งเล่นจนเกิดเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขไปทั่วทั้งเมือง

“ท่านแม่ โคมไฟนั่นสวยงามยิ่งนัก”

หลินลี่หมิง ในวัยแปดหนาววิ่งไปตามถนนหนทางที่เต็มไปด้วยผู้คนด้วยความสนุกสนานตามประสา โดยมีมารดาคอยวิ่งตามบุตรีที่รักยิ่งด้วยความเป็นห่วง

“หมิงเอ๋อร์ เจ้าอย่างวิ่งไปทั่ว รอแม่ก่อน”

เสียงหวานใสของมารดาเอ่ยเรียกลูกรัก เพื่อหวังให้บุตรสาวชะลอฝีเท้าลงบ้าง ก่อนที่นางจะออกวิ่งตามบุตรสาวไป แต่ทว่า

“ซูลี่ เจ้าควรจะต้องคอยดูแลฮูหยินใหญ่ จะวิ่งไปทั่วเช่นเด็ก ๆ ได้อย่างไร น่าขายหน้ายิ่งนัก”

เสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นสามีทำให้นางหยุดนิ่ง ก่อนจะพยักหน้าให้บ่าวรับใช้ของตนติดตามหลินลี่หมิงไป

“ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านพี่”

หลินเฟยเทียน หรือเสนาบดีกรมยุติธรรม พยักหน้ารับก่อนจะผินใบหน้ากลับไปยังฮูหยินใหญ่ด้วยความเอาใจ และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีความยุติธรรมให้กับครอบครัวเท่าไหร่นัก

ร่างบอบบางเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงหวานใส พร้อมกับยอบกายให้หลินเฟยเทียนผู้เป็นสามีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ภายในใจนั้น

นางกลับรู้สึกกังวล กลัวว่าหมิงเอ๋อร์จะมีอันตราย

ซูลี่ เป็นอนุภรรยาของหลินเฟยเทียนผู้นั้น แต่ด้วยเพราะร่างกายของนางมักจะอ่อนแอ ป่วยไข้ จึงไม่ค่อยได้รับความรัก ความเมตตาจากสามีเท่าไหร่นัก

“ซูลี่ เจ้าเป็นถึงอนุภรรยาของท่านพี่ หากผู้ใดรู้เข้าว่าเจ้าไร้มารยาทเช่นนี้ ข้าคงขายหน้าไปด้วยเช่นกัน ที่ไม่อาจอบรมเจ้าให้ดี”

ฮุ่ยเฟิน ฮูหยินใหญ่ตระกูลหลิน นางเกิดมาในตระกูลขุนนางทำให้หลินเฟยเทียนมักจะเอาอกเอาใจนางเสมอ แม้ว่านางจะรังแกซูลี่เป็นประจำก็ตามที

“เอาล่ะ ๆ เจ้าดูแลฮูหยินใหญ่ให้ดีก็แล้วกัน ส่วนเรื่องเด็ก ๆ ก็ให้เล่นสนุกกันไปตามประสา”

“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ”

หลินเฟยเทียนโบกมือเพื่อลดทอนความขัดแย้ง ก่อนที่เขาจะเดินนำเข้าไปยังโรงน้ำชาตระกูลเฉิน เพื่อชื่นชมบรรยากาศของเทศกาลหยวนเซียว โดยมีฮูหยินและอนุภรรยาเดินตามมาไม่ห่างกาย

แม้ว่าซูลี่จะรู้สึกเป็นห่วงบุตรสาวไม่น้อย แต่นางกลับไม่อาจหลบหลีกหน้าที่ของอนุภรรยาไปได้ จึงได้แต่ภาวนาขอให้หมิงเอ๋อร์ไม่เกิดอันตรายใด ก่อนที่นางจะก้มหน้ารินชา คอยปรนนิบัติผู้เป็นสามี

และฮูหยินใหญ่ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง...........

หลินลี่หมิงวิ่งไปตามแสงสว่างของโคมไฟที่ประดับประดาอย่างสวยงามรอบ ๆ เมือง รู้ตัวอีกทีนางก็วิ่งมาถึงสะพานใจกลางของหนานจิงเสียแล้ว

เดิมทีหนานจิงแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีแม่น้ำสายเล็กขั้นกลางเอาไว้ ทำให้สามารถที่จะนั่งเรือชมบรรยากาศทั้งสองฝั่งก็ได้ หรือจะเป็นการเดินข้ามผ่านสะพานที่ว่าไปยังอีกฝั่งก็ได้

“คุณหนูรอง หยุดก่อนเจ้าค่ะ”

เสียงของลั่วลั่ว บ่าวรับใช้ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้นางตื่นจากภวังค์และออกวิ่งต่อไป

หากลั่วลั่วจับนางได้ นางคงจะต้องกลับไปนั่งเฝ้าท่านพ่อจิบชาเป็นแน่

พลั่ก

ในระหว่างที่หลินลี่หมิงออกวิ่งและมัวแต่หันมองลั่วลั่ว ทำให้นางไม่ได้ดูทางข้างหน้าจนเผลอชนเข้ากับร่างเล็กร่างหนึ่งจนล้มลงบนสะพานที่แออัดไปด้วยผู้คน

“ลี่หมิง เห็นทีเจ้าจะซุ่มซ่ามเกินไปแล้วกระมัง”