บทที่ 4 กิ่งดอกซิ่งที่แสนร้อนแรง (NC 18+)(1/2)
เรือนร้างท้ายป่า…
หลินเหม่ยลี่หลบเร้นกายออกมาจากจวนโดยไร้บ่าวติดตาม นั่นเป็นเพราะนางไม่อยากให้ผู้ใดรับรู้เรื่องราวที่หลบซ่อนเอาไว้ นางรีบเข้าไปยังด้านในของเรือนร้างในทันทีเมื่อมาถึง ราวกับว่าคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี แต่ทว่าด้านในกลับว่างเปล่าไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ที่นางรอคอย
“เหตุใดยังไม่มาอีกเล่า”
หลินเหม่ยลี่ในยามนี้รู้สึกร้อนรนเสมือนมีกองไฟสุมอยู่ภายในอก นางนั่งลงบนเตียงเก่าด้วยความรอคอย ก่อนที่เสียงประตูเรือนจะดังขึ้นเรียกสายตาคมให้แหงนขึ้นมอง
“เหมยลี่ เจ้ามารอข้านานแล้วอย่างนั้นรึ”
ร่างสูงปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าของหลินเหมยลี่ บุรุษที่นางรอคอยมีใบหน้าคมเข้มหล่อเหลา เขาคือ โจวเฟิงลู่ บุตรชายเพียงคนเดียวของโจวเฟิงหาน เสนาบดีกรมการคลังที่ร่ำรวยที่สุดภายในแคว้นจ้าวแห่งนี้
“ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงมาช้านัก แล้วดูสิอาภรณ์ของท่านยังหลุดรุ่ยอีกต่างหาก”
หมับ
หลินเหม่ยลี่โผเข้าสวมกอดบุรุษร่างสูงด้วยความคะนึงหา ก่อนที่นางจะย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นของสุราที่รุนแรงออกมาจากกายแกร่งของเขา
“เจ้าอย่าบ่นไปเลยนะ ข้าก็รีบมาหาเจ้าแล้วนี่ไง”
โจวเฟิงลู่ทอดสายตามองสตรีร่างบางใบหน้างดงามในอ้อมกอดด้วยความเจ้าเล่ห์ อันที่จริงเขาไม่ได้รีบมาหานางอย่างที่ว่า แต่เขาเพิ่งออกจากหอคณิกามาพบกับนาง เพื่อไม่ให้ดูมีพิรุจก็เท่านั้นเอง
“ท่านพี่ ข้ามีเรื่องจะบอก”
“เรื่องอันใดหรือ” โจวเฟิงลู่เอ่ยถามหลินเหม่ยลี่ที่อยู่ในอ้อมกอด
“ท่านแม่ของข้าตอบรับการหมั้นหมายของจ้าวอ๋องไปแล้ว” นางรีบบอกออกไปด้วยความร้อนใจ
โจวเฟิงลู่ผู้นี้เป็นคนรักของนาง และเรือนร้างด้านหลังชายป่าก็เป็นสถานที่ที่พวกเขานัดพบกันในทุกวัน โดยที่เขารอคอยแค่เพียงให้นางทอดกายให้เขาก็เท่านั้น
“ไม่ดีหรือ จ้าวอ๋องผู้นั้นทั้งรูปงาม ทั้งยังมีสมบัติมากมายกว่าข้า” โจวเฟิงลู่เปรยออกไปพร้อมกับแสร้งทำท่าทางเสียใจ
“ท่านพี่ก็รู้ว่าข้ามีใจให้กับท่าน”
โจวเฟิงลู่พาหลินเหม่ยลี่นั่งลงบนเตียงเก่าและยังคงโอบร่างของนางเอาไว้ในอ้อมอก ดวงตาคมสวยของนางจ้องมองเขาด้วยความจริงใจ
“ปากเจ้าก็บอกว่ามีใจให้กับข้า แต่ข้าก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะมอบความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นให้กับข้าเลยสักนิด”
คำว่าสานสัมพันธ์ที่ออกจากปากของโจวเฟิงลู่ นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเขานั้นหมายถึงสิ่งใด
“ท่านรับปากกับข้าได้หรือไม่ หากว่าข้ายอม ท่านต้องพาข้าหนีไปจากที่นี่” สองมือเล็กประคองดวงหน้าหล่อเหลาของโจวเฟิงลู่เอาไว้
“เจ้ายอมข้าอย่างนั้นรึ” โจวเฟิงลู่ถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่ส่องประกาย
“สัญญากับข้าก่อนสิ ไม่อย่างนั้นข้าไม่อาจยอมท่าน” หลินเหม่ยลี่กอดอก นิ่วใบหน้าด้วยความไม่พอใจ
“ข้าสัญญา ว่าข้าจะพาเจ้าหนี แม่ยอดดวงใจของข้า”
สองมือหนาเอื้อมไปจับที่หัวไหล่กลมมนของหลินเหม่ยลี่ เขาจ้องมองสบตากับนางด้วยสายตาวาบหวิว ก่อนจะเลียริมฝีปากกระตุ้นอารมณ์ความอยากที่เริ่มปะทุเรือนกาย
“ท่านพี่ ข้ารักท่านยิ่งนัก”
หลินเหม่ยลี่บอกความในใจออกไปโดยที่ไม่มีความลังเลแต่อย่างใด นางลอบพบกับเขามานานหลายปี ที่ผ่านมาทำได้เพียงแค่จูบเท่านั้นแต่ครานี้นางจะเป็นกิ่งดอกซิ่งแดงยื่นออกนอกกำแพง [1] มอบใจและกายให้กับบุรุษที่นางรักใคร่ชอบพอ
“ข้าก็รักเจ้า” โจวเฟิงลู่กระตุกยิ้ม พร้อมกับยกฝ่ามือลูบไล้พวงแก้มเนียนด้วยความใคร่
“ข้าจะทำให้ท่านพี่พอใจนะเจ้าคะ”
“อย่างไรเล่า”
“อย่างนี้ไง ท่านพี่”
หลินเหม่ยลี่เป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม และใบหน้าที่สวยงามจนตราตรึงใจของบุรุษทั่วเมือง ไม่เว้นแม่แต่เขาก็เช่นกัน ยามนางมีอาภรณ์สวมใส่ปกปิดเรือนกายทรวดทรงองค์เอวยังเป็นที่ต้องตาเช่นนี้ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่ายามนี่นางเปลือยกายจะงดงามเพียงใด
แม้ว่าเขาเองมักจะแฝงตัวอยู่ภายในหอคณิกา แต่ก็ไม่มีสตรีนางใดที่มีผิวพรรณผุดผ่องเช่นหลินเหมยลี่ อาจจะเป็นเพราะนางเกิดในชาติตระกูลดีถึงได้มีความงามมากมายล้นเหลือเช่นนี้
ฝ่ามือบางผลักออกแกร่งของโจวเฟิงลู่ให้นอนราบลงไปกับเตียงเก่า โดยที่เขาทำตามอย่างว่าง่ายปล่อยให้ดอกซิ่งสร้างความร้อนแรงให้กับเขา ตามที่ปากนางได้ว่ากล่าวเอาไว้
ร่างบางขึ้นคร่อมร่างของโจวเฟิ่งลู่ ก่อนที่ใบหน้างามได้รูปจะโน้มเข้ามาใกล้พร้อมทั้งบดขยี้กลีบปากบางสีแดงก่ำลงมาบนริมฝีปากของเขา ไอร้อนแห่งห้วงอารมณ์กำลังลุกโชนขึ้น ความปรารถนาของนางในตอนนี้ดุจพายุฝนคลั่ง
ลิ้นร้อนส่งเข้ามาในโพรงปากของโจวเฟิงลู่ที่เผยอริมฝีปากรอรสสัมผัสจากเรียวลิ้นที่ตวัดพัลวัลอยู่ภายในโพรงปากของเขา และเขาก็ไม่อาจรั้งรอนิ่ง ๆ ได้อีกต่อไป