ช่วยถอดเสื้อให้ผมหน่อยได้ไหม
เปลวเทียนสาวเท้าเข้าไปในห้องที่ถูกเปิดอ้าไว้อยู่แล้ว พบชายทั้งคู่ผู้มาเยือนอยู่ในนั้น ทั้งคู่กำยำล่ำสันไม่ต่างกัน แต่คนเจ็บดูเหมือนจะสูงใหญ่กว่าเหลือเกิน
คนที่มีดวงตาดูดวิญญาณ คนที่จ้องเธอคนนั้น...
ทั้งคู่สวมกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อซาฟารี รองเท้าสำหรับเดินป่าที่ถอดวางไว้ชานบันได
“ เทียนเอายาสมุนไพรมารักษาให้คุณจ้ะ ขออนุญาตเข้าไปนะจ๊ะ ” เสียงใสเอ่ยบอก อีกคนพนักหน้า
“ เชิญครับ ”
หญิงสาวกระมิดกระเมี้ยนถือถาดสมุนไพรและยาต้มในถ้วยเข้าไปวางไว้ด้านข้างคนเจ็บที่นอนอยู่บนฟูก
“ ชื่อเทียนเหรอครับ ” คนเจ็บถาม เธอพยักหน้ารับ
“ ชื่อเปลวเทียนจ้ะ เรียกว่าเทียนเฉย ๆ ก็ได้ ”
“ ผมชื่อภูตะวัน เรียกสั้น ๆ ว่าภู นี่เพื่อนผม ธีภพ ”
“ เรียกสั้น ๆ ว่าธีครับผม ” เพื่อนของเขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทำให้รู้สึกว่าเป็นมิตรกว่าคนคนนี้ที่เคร่งขรึมและเสมือนว่ามีบรรยากาศหนาหนักอยู่รอบตัวตลอดเวลา
“ จ้ะ ” เธอรับคำสั้น ๆ
“ คุณภูโดนยิงตรงไหนจ๊ะ ”
“ ต้นแขน ”
“ เดี๋ยวเทียนเอายาใส่ให้ ”
“ เดี๋ยว ๆ นี่มันยาอะไรกัน แล้วเทียนรักษาเป็นเหรอ ” เพื่อนของเขาที่ชื่อธีภพทักท้วง เธอเงยหน้าขึ้นอธิบาย
“ พ่อของเทียนคือหมอประทาย เป็นหมอยาประจำหมู่บ้านสืบทอดมาตั้งแต่ปู่ทวด แล้วพ่อก็สอนเทียนด้วยจ้ะ ยาสมุนไพรนี้ไม่มีอันตราย ”
“ เพื่อนของผมจะปลอดภัยแน่นะ ”
“ รับรองจ้ะ ”
“ แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม เทียนจะรับผิดชอบยังไง ”
คนเจ็บถามขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม เปลวเทียนหันไปมองหน้าเขาแล้วทำตาโตอย่างตระหนก
แสงสีส้มจากตะเกียงที่จุดไว้มุมห้องสาดเข้ามาทำให้ต่างคนต่างเห็นใบหน้ากันได้ชัดเจนจะแจ้ง
ใบหน้าคร้ามแดดทว่าคมสันเกินชายในหมู่บ้านทั้งหมดที่เธอเคยพบมา ดวงตาคมกริบที่มีแพขนตายาวกินชายปกคลุม มันอยู่ใต้ปีกคิ้วสวยที่สยายราวปีกอินทรี จมูกยาวโด่งเป็นสั รับกันกับปากได้รูปที่เผยอแย้มออกนิด ๆ ใบหน้ายาวได้รูปนั้นมีตอเคราเขียวเข้มล้อมกรอบ ผมเผ้าตัดรองทรงเช่นชายทั่วไปที่ดูยุ่งเหยิงจากการต่อสู้ทว่าไม่ได้ลดทอนความคมสันของคนเบื้องหน้าได้เลย
สายตาคมกริบจ้องมองเธอไม่วาง ดวงหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมโตรับกันดีกับคิ้วโก่งสวย จมูกโด่งรั้น ปากรูปกระจับอวบอิ่มที่เขาอยากจะรู้นักว่ามันจะหวานหอมเพียงใด เส้นผมสีดำขลับถูกมวยขึ้นไปเกล้าไปบนศีรษะได้รูป สายตาซุกซนเลื้อยไล่ลงมายังบริเวณที่มีผ้าผวยปกคลุมไหล่เบื้องล่างเธอคาดอกด้วยผ้าทอสีกลักที่ชาวบ้านย้อมกันเอง และสวมผ้าถุงสีเดียวกัน
ภูตะวันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนหื่นกามจนเกิดอารมณ์ทางเพศกับผู้หญิงไปทั่ว เขาเองออกจะติดหยิ่งยโสกับสาว ๆ ด้วยซ้ำไป รับมาบางครั้งเพียงแค่ต้องการจะสนุกและปลดปล่อย แต่กับผู้หญิงคนนี้มันไม่ใช่
เขาอยากจะปลดเปลื้องผ้านั้นออก ดูเนื้อในเรือนร่างว่ามันจะนวลงามเสมือนใบหน้านวลกระจ่างที่ไม่มีเครื่องประทินความงามใด ๆ เคลือบฉาบนี้หรือไม่ อยากจะลองสูดกลิ่นแล้วสัมผัสว่ามันจะนุ่มนิ่มเพียงใด
“ คุณช่วยถอดเสื้อออกด้วยจ้ะ ”
“ หืม ” ชายหนุ่มที่ยังอยู่ในภวังค์หัวใจลิงโลดทันที นี่เจ้าหล่อนก็ใจตรงกันกับเขาหรือนี่ แต่มาถึงก็จะสั่งให้ถอดเสื้อ ไวไฟดีแท้
“ ถ้าคุณไม่ถอด เทียนจะเอายาใส่ไม่ได้จ้ะ ” เธออธิบาย นั่นทำให้ดวงตาคมสลดลงวูบหนึ่ง นึกว่าจะสมหวังดังดวงใจที่มันรุมร้อนยิ่งกว่าไฟจนลืมความบาดเจ็บลงไปในตอนนี้
“ ภู กูปวดท้องว่ะ สงสัยไอ้ร้านลาบเจ้ากรรมก่อนเดินเข้าป่านั่นทำพิษ มึงอยู่กะน้องเขาสองคนก่อนได้ไหม กูขอเข้าห้องน้ำก่อน ” จู่ ๆ เพื่อนรักก็เอ่ยขึ้น อีกฝ่ายพยักหน้า
“ ก็ไปสิ น้องเขาคงไม่ฆ่าไม่แกงกูหรอกน่า ”
“ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนครับน้องเทียน ”
“ อยู่ด้านล่างจ้ะ ลงบันไดไปแล้วก็เลี้ยวซ้ายเลาะเรือนไปเลยจ้ะ ” หญิงสาวตอบ อีกฝ่ายรีบเดินจ้ำออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ร่างใหญ่ยกแขนกำยำขึ้นหมายจะปลดกระดุมเสื้อ ทว่าต้องร้องขึ้นด้วยความเจ็บ
“ โอ๊ย ”
“ เจ็บเหรอจ๊ะ ” เปลวเทียนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เขาพยักหน้า
“ กระสุนไม่ฝังแต่มันถากลึกพอควร ปวดน่ะ เทียนช่วยถอดเสื้อให้ผมหน่อยได้ไหม ”