บทย่อ
...ฤทธิ์กระสันซ่านสวาทมันบาดใจ แม้ต้องตกนรกขุมสุดท้ายก็ยินยอม... ภูตะวัน – ทหารรับจ้างร่างสูงใหญ่วัยฉกรรจ์ เปลวเทียน – สาวน้อยบ้านป่า ผู้มีชะตาชีวิตอาภัพนัก เพียงแรกพบสบตา ต่างรู้ดีว่าตกหลุมรักกันและกัน มันคงดีหากเธอไม่ใช่สตรีที่มีเจ้าของแล้ว ...เจ้าของที่ไม่เคยรักใคร่ใยดี... ไม่มีใครอยากผิดบาป หากยากเหลือเกินจะหักห้ามแรงพิศวาส ยิ่งมีโอกาสได้ชิดใกล้ ยิ่งอันตรายเหลือล้ำ ด้วยแรงกระสันใคร่อันดิบเถื่อนแห่งวัยฉกรรจ์ จึงแผดเผาสาวเจ้าให้ยินยอมหลอมละลาย สัมปชัญญะเลือนหาย แม้จะตกนรกขุมสุดท้าย ก็ยอม ! ตัวอย่างจากในเล่ม : “ คุณภู อย่า ! ” เธอเอ่ยปากห้ามเสียงสั่น เขาผละปากจากการดูดกินทรวงสล้างทั้งสองเต้าแล้วใช้ริมฝีปากระเรื่อยลิ้มเล็มไปทั่วลาดไหล่ ซอกคอนวลเนียน และดวงหน้าหวานนั้น ก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มอันไหวระริกด้วยแรงกระสันใคร่ที่เขาเป็นคนปลุกเร้า “ ทำไมล่ะ เทียนไม่ต้องการผมเหรอ ” เสียงแหบพร่าถามอยู่ชิดริมฝีปากนั้น “ แต่มันผิด เราทั้งคู่จะต้องตกนรกหมกไหม้ ” “ เทียนตอบไม่ตรงคำถาม บอกผมสิ เทียนต้องการผมไหม ” ถามย้ำพร้อมกับรูดท้องนิ้วสากที่ใจกลางกลีบสาวหนัก ๆ ก่อนจะขยับลงต่ำแล้วสอดลึกลงไปยังความคับแคบอันมีความฉ่ำแฉะแห่งคาวใคร่ปกคลุม เธอสะท้านเยือกครางเครือ “ อื๊อ ” “ ตอบผมสิเทียน ต้องการผมหรือเปล่า ” ถามพร้อมขยับนิ้วกระตุ้นเร้าทั้งภายในและภายนอก กายสาวสั่นเทาราวเป็นไข้หนักก่อนเอ่ยตอบงึมงำอยู่ในลำคอ “ อืม ” ใบหน้าคมสันยกยิ้มอย่างพึงใจ “ แค่นั้นแหละที่รัก ขอให้ผมได้รัก ได้กลืนกินเทียน ต่อให้เป็นนรกขุมสุดท้าย ผมก็ยอม ! ”
หมู่บ้านภูธารา
ณ หมู่บ้านภูธารา ชนเผ่าอิสระซึ่งไม่ขึ้นกับประเทศใด พวกเขาอาศัยอยู่ชายแดนประเทศไทยบนเนินเขาเตี้ย ๆ เบื้องล่างมีสายธารอันทอดยาวซึ่งผู้คนที่นี่ใช้สายน้ำนี้หล่อเลี้ยงชีวิต ผู้คนดำรงชีวิตด้วยการทำหัตถกรรมทอเสื้อผ้า และนำส่งไปจำหน่ายยังตลาดในเมือง ชีวิตอันเรียบง่ายไม่วุ่นวายท่ามกลางความงดงามทางธรรมชาติ ช่างสวยงามและน่าหลงใหลเหลือเกิน
แต่นั่นมันเพียงฉากบังหน้าในยามนี้ ความสงบที่มีกันมาช้านานถูกทำลายลงเพราะหัวหน้าหมู่บ้านที่ชื่อนายอำนาจ หรือพ่อนายของชาวบ้าน ที่สืบทอดตำแหน่งมาจากนายอำนวยผู้เป็นพ่อที่เสียชีวิตลง ผู้ที่ปกครองหมู่บ้านด้วยศีลธรรมและความยุติธรรมเสมอมา เขาถูกติดต่อมาจากพวกค้ายาเสพติดและอาวุธสงครามให้ที่นี่เป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้า เงินทองที่ได้จากเพียงแค่ให้พื้นที่พวกนั้นยืมเพียงชั่วครู่ชั่วยามมันมากเหลือเกินที่จะทำให้นายอำนาจกล้าที่จะแหกกฎของพ่อ หนำซ้ำเขายังริเอาหัวเชื้อเหล้ามาต้มขายให้คนในหมู่บ้านอีกด้วย
แม้จะเป็นพ่อลูกแต่นิสัยของทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหว นายอำนวยเป็นชายใจดี มีเมตตาต่อลูกบ้าน ปกครองด้วยความยุติธรรมเสมอ แต่อำนาจนั้นสมชื่อ เขาชอบความมีอิทธิพล เพราะถือว่าตนเหนือกว่าคนอื่น ยิ่งมีพวก ‘ เสี่ยเพชร ’ เจ้าของยาเสพติดและอาวุธเหล่านั้นมาหนุนหลัง ยิ่งไม่มีใครกล้าหือกับเขา
อีกเรื่องเสื่อมเสียคือ นายอำนาจมักมากในกาม เขามีเมียหลวงหนึ่งคนชื่อสร้อยทองแต่ไม่มีลูกเพราะเขาเป็นหมัน แต่จะมีนางบำเรอที่เข้า ๆ ออก ๆ นับไม่ถ้วนในเรือนหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างด้วยเงินสกปรก สร้อยทองได้แต่หวานอมขมกลืนเพราะรักกันมาตั้งแต่เพิ่งเริ่มแตกเนื้อสาว แรกนั้นอำนาจเป็นคนขยันทำมาหากิน แต่เงินทองและอิทธิพลที่มีในมือช่างเปลี่ยนเขาเหลือเกิน จากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยทีเดียว
เมียน้อย นางบำเรอ สุดแล้วแต่จะเรียกที่เขาเอามาบำเรอกามในบ้าน บางคนก็เป็นเด็กสาวใจแตกที่สมัครใจ รักสบาย เพราะเขาบำรุงบำเรอทั้งเสื้อผ้าเครื่องประดับให้ทุกอย่าง บางคนก็ถูกบังคับด้วยการที่พ่อแม่มากู้หนี้ยืมสินนายอำนาจแล้วไม่มีดอกเบี้ยจ่าย หากมีลูกสาวถูกตาต้องใจ เขาก็จะยึดครองมาเป็นของตัวเองหน้าด้าน ๆ ไม่สนว่าใครจะเต็มใจหรือไม่ หากขัดขืนก็ใช้กำลัง สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครกล้าหือ เพราะเขามีทั้งอำนาจ เงินทอง และอาวุธ
ค่ำคืนเดือนดับ คืนที่นายอำนาจและลูกน้องไปส่งพวกของเสี่ยเพชรที่ชายน้ำหลังจากนัดลูกค้ามารับสินค้าล็อตล่าสุด เกิดเสียงปืนดังสนั่นจนคนในเรือนใหญ่ทั้งเมียน้อย เมียหลวงต้องตื่นขึ้นมาอย่างตระหนก
“ นั่นมันอะไรกันวะ ”
สร้อยทองผู้เป็นเมียหลวง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าแม่นายสาวเท้าลงเรือนจ้องมองไปยังชายป่าที่ติดกับสายน้ำ
“ จะเป็นอะไร้ ไม่ใช่พ่อนายหรือพวกลูกน้องที่ไปด้วยเกิดอยากยิงบ่างค่างชะนีซ้อมมือขึ้นมาล่ะมั้ง ทำฉันตกอกตกใจหมด กำลังนอนหลับสบายอยู่เลยเชียว เสียเวลาชะมัด กลับไปนอนดีกว่า ” ชบาสาววัยยี่สิบห้ารูปร่างอวบอัดหนึ่งในนางบำเรอว่าแล้วอ้าปากหาวกว้างก่อนที่จะเดินกลับเข้าเรือนไป ตามด้วยคนอื่น ๆ ที่ตามกันไปต้อย ๆ พวกหล่อนเข้ามาอยู่ในเรือนก็หาใช่ความรักไม่ หวังเพียงความสบายและทรัพย์สิน แล้วเรื่องอะไรจะต้องมายืนอดตาหลับขับตานอนเฝ้าจ้องมองอยู่อย่างนี้
เหลือเพียงสาวน้อยรูปร่างบอบบางนางหนึ่งที่เดินลงมาเบื้องล่าง ก่อนยืนเก้ ๆ กัง ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูกอยู่เบื้องหลังแม่นาย
“ อ้าว นังเทียน เอ็งมายืนทำอะไรตรงนี้ ไม่กลับไปนอนอย่างอีพวกนั้นหรือไง ” เธอหลุบตาลงพื้น อ้อมแอ้มตอบอย่างกลัวเกรง
“ เทียนเห็นแม่นายยืนอยู่คนเดียว ก็เลย... ”
“ ลงมายืนเป็นเพื่อนงั้นรึ เอ็งคิดว่าข้าอ่อนแอขนาดนั้นหรือไง ข้ากลัวผี กลัวความมืด อะไรพรรค์นั้นรึ ”
“ ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ ไม่ใช่เลยจ้ะ เทียนรู้ว่าแม่นายเข้มแข็ง เทียนขอโทษที่ทำให้แม่นายเข้าใจผิด ถ้าแม่นายไม่ชอบเทียนจะกลับขึ้นห้องก็ได้จ้ะ ” เธอโบกไม้โบกมือพัลวันหน้าตาตื่น นั่นทำให้สร้อยทองยิ้มออกมาที่มุมปาก แต่กลับเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“ ข้าไม่ได้เข้มแข็งหรอกเทียนเอ๊ย ถ้าข้าเข้มแข็ง ข้าก็คงหยุดยั้งผัวข้าได้ ให้เขาไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้ ”
“ เทียนขอโทษนะจ๊ะ ที่เข้ามาทำให้แม่นายเสียใจ ”
“ ไม่หรอกเทียน เอ็งต่างจากคนอื่นนัก ”
สร้อยทองว่าพลางเพ่งพิศใบหน้าแฉล้มหวานหยดย้อยของสาวน้อยเบื้องหน้าอย่างแสนสงสาร