เมียของพ่อนาย
โชคดีที่มีเพียงแสงเทียนสีส้มจาง ๆ ไม่เช่นนั้นชายหนุ่มจะต้องเห็นใบหน้างามแดงก่ำขึ้นมากะทันหันในตอนนี้ เธอได้แต่ก้มหน้างุดแต่ก็ยังรับปาก
“ ได้จ้ะ ”แล้วมือน้อยค่อยเอื้อมไปคว้ากระดุมเม็ดบนก่อนปลดมันออก ทว่าช่างยากเย็นเพราะเธอไม่กล้ามองเขาเต็มตา เสียงทุ้มหัวเราะเบา ๆ
“ แล้วถ้าเทียนไม่มองผมแบบนั้นจะเห็นได้ยังไงกัน เลือดผมออกหมดตัวตายก่อนพอดี ” นั่นทำให้เธอต้องรีบเงยหน้าขึ้นแล้วปลดมันลงทุกเม็ดก่อนจะค่อยช้อนประคองให้เขาลุกขึ้นนั่งแล้วแหวกเสื้อออกทีละข้าง ค่อยถอดมันออกระมัดระวังอย่างที่สุดคือบริเวณแผลต้นแขนที่เลือดแดงฉานย้อมแขนเสื้อจนเปียก แต่ก็น่าแปลกใจที่คนตรงหน้ายังไม่มีอาการใด ๆ ทำเสมือนเป็นแค่แผลล้มหัวเข่าถลอกเท่านั้น
เธอวางเสื้อลงด้านข้างก่อนจะหันกลับมายังตัวแผล แต่สายตาก็อดไม่ได้ที่จะเลยไปมองแผงอกแกร่งนั้น
ไหล่เขากว้างเหลือเกิน คงเพราะสูงใหญ่ร่วมเมตรเก้าสิบ ทุกส่วนสัดที่เปิดเปลือยอวดสายตานั้นงดงามไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรง ตั้งแต่หัวไหล่ แผงอก ท่อนแขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผงกล้ามที่หน้าท้องเป็นลอนชัดเจน อันมีไรขนสีเข้มขึ้นประปรายอยู่เบื้องล่างแล้วลับหายไปกับขอบยีน
ใบหน้าหวานที่แดงจัดมันร้อนฉ่าราวกับถูกไฟลุกท่วมไหม้ เธอรีบหันไปสนใจกับตัวยาที่นำมาทันที ใช้ผ้าชุบน้ำยาไปเช็ดรอบ ๆ แผลจนเลือดหยุดไหล ก่อนจะนำตัวยาสมุนไพรที่ถูกบดหยาบปั้นเป็นก้อนไปโปะไว้บนนั้นแล้วใช้ผ้าพันผูกไว้อีกที
“ สมุนไพรพวกนี้จะช่วยหยุดเลือด สมานแผล และช่วยให้แผลไม่อักเสบจ้ะ กระสุนไม่ได้ฝังแบบนี้ คุณจะหายไวมากขึ้น เดี๋ยวคุณดื่มยานี้อีกนะจ๊ะ จะได้ไม่เป็นไข้ ”
เธอว่าพลางประคองถ้วยยาไปจรดริมฝีปากนั้น ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจที่ริมฝีปากของเขาแตะลงบนนิ้วมือน้อยที่ประคองถ้วย มันทำให้เธอชาวาบ เขาค่อย ๆ ดื่มเข้าไปจนหมด เธอช่วยประคองร่างใหญ่ผ่อนลงกับที่นอนแล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมให้
“ เรียบร้อยแล้วจ้ะ คุณนอนพักนะ ตื่นมาเดี๋ยวก็ดีขึ้น เทียนขอตัวก่อน ” เขาคว้าแขนเธอไว้แล้วเอ่ยขึ้น
“ เทียนยังไม่ได้ตอบผมเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วจะรับผิดชอบผมยังไง ”
“ ไม่เกิดอะไรขึ้นทั้งนั้นล่ะจ้ะ เรารักษากันแบบนี้มาเนิ่นนานแล้ว ไม่เคยมีใครเป็นอะไร มีแต่หายกับหาย คุณไม่ต้องกังวล ”
“ ไม่รู้สิ ผมกลัว เทียนเฝ้าผมอีกสักพักได้ไหม ผมอยากให้เทียนอยู่ข้าง ๆ นะครับ ” เสียงทุ้มออดอ้อน สายตาคมกริบส่งกระแสมาเว้าวอน เปลวเทียนหัวใจไหววูบ ไม่เคยเลยสักครั้งในชีวิตที่เธอจะรู้สึกหวั่นไหวกับชายใดได้เช่นนี้ แม้กระทั่งกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวอย่างพ่อนาย
ผัว ใช่ เธอมีผัวแล้ว เปลวเทียนบอกตัวเอง...
มือน้อยค่อยเอื้อมไปแกะอุ้งมือสากกร้านบนเรียวแขนของตนเอง ก่อนจะก้มลงหยิบถ้วยยาทั้งหมดไว้ในมือแล้วหันไปบอกกับเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ เทียนเฝ้าคุณภูไม่ได้หรอกจ้ะ มันจะดูไม่งาม เพราะเทียนเป็นเมียของพ่อนาย ”
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ ทิ้งให้ชายหนุ่มร่างใหญ่นอนนิ่งอย่างผิดหวังเต็มกลืน คำนั้นมันกระแทกเข้าไปในหัวใจเขาซ้ำ ๆ
เมียของพ่อนาย...
“ เกิดมาพึ่งจะเคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงครั้งแรกก็เสือกไปชอบเมียชาวบ้านเขานะไอ้ภู เวรกรรมแท้ ๆ ”
เขาบ่นกับตัวเองอุบอิบก่อนหลับตาลงแล้วเข้าสู่ภวังค์นิทราในที่สุด
หลับไปนาน เนิ่นนานจนตะวันดวงโตเคลื่อนคล้อยไปสู่กลางผืนฟ้า จึงถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงหนึ่ง
“ คุณภูตะวัน ทำไมหลับนานขนาดนี้ เป็นยังไงบ้าง ไข้หรือเปล่า ”
ชายหนุ่มปรือตาขึ้นมองก็พบชายวัยสี่สิบต้นรูปร่างสันทัดแข็งแรงกำยำของนายอำนาจ หรือพ่อนายของคนที่นี่นั่งอยู่ด้านข้าง พร้อมกับชายวัยไล่เลี่ยหรือไม่ก็แก่กว่ากันไม่มากที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“ พ่อนาย ” เขาเอ่ยลอดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนพยายามลุกขึ้นนั่งแล้วลองสลัดศีรษะกับขยับแขนดู พบว่ามันโปร่งโล่ง ไม่ได้มีอาการปวดแผลหรือเป็นไข้แต่อย่างใด
“ เป็นยังไง ” ชายคนนั่งข้าง ๆ พ่อนายถาม เขาพยักหน้า
“ ดีครับ ไม่ไข้ไม่ปวด แต่ผมคงจะเพลียเลยนอนนานไปหน่อย แล้วนี่ไอ้ธีเพื่อนผมไปไหนล่ะครับ ”
“ ออกไปกินข้าวแล้วเดินเล่น ที่นี่อากาศดี ต้นไม้เยอะ ธารน้ำก็ใส เลยไปทางเหนือโน่นมีธารน้ำตก ไว้คุณภูหายแล้วก็ไปลงเล่น ” ภูตะวันยิ้ม
“ ขอบคุณมากนะครับ แล้วพ่อนายเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วเหรอ ”
“ ดีขึ้นเหมือนไม่เป็นอะไรเลย ”
“ แสดงว่ายานี่ดีมากนะครับ ขนาดเราโดนยิงมาแท้ ๆ หายไว้ยิ่งกว่ายาหมอแผนปัจจุบันเสียอีก ”
“ ผ่านมือหมอประทายเสียอย่าง รับรองว่ามีแต่หายกับหาย ” ชายคนที่นั่งข้างพ่อนายว่าโอ่ ๆ อีกฝ่ายหัวเราะ
“ อ้อ ผมลืมแนะนำนะ นี่หมอประทาย หมอยาของที่นี่ ที่มารักษาให้คุณนั่นก็ลูกสาวหมอประทาย นังเทียนเมียอีกคนของผม ”