บทที่ 5 - ทาแผลให้นะเด็กน้อย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นทำให้กองพลต้องเลิกคิ้วขมวดแล้วเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้างหัวเตียงจนต้องเม้มปากแน่น เพราะตอนนี้มันสายมากแล้ว เขาไม่เคยตื่นสาย สงสัยที่บ้านจะให้เด็กรับใช้ขึ้นมาตาม เผลอๆ อาจเป็นป้าของเขาเองก็ได้ที่ขึ้นมาตามถึงห้อง ชายหนุ่มมองคนที่อ่อนเพลียเผลอหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เขาเห็นเธอครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในท้อง ให้ตายสิ! เขามันแก่กว่าเธอตั้งหลายปี และพอมาเจออีกก็จับฉุดมาเป็นเมีย!
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะดังเร่งให้เขารีบไปเปิดประตูห้องอีกครั้งจนเขาต้องรีบลุกขึ้นหยิบกางเกงบ็อกเซอร์ที่ถอดกองขดเป็นเลขแปดข้างเตียงขึ้นมาใส่แล้วถลกดึงผ้าห่มมาปิดร่างเปลือยของเด็กสาวที่หลับสนิทบนเตียงตัวเองให้มิดชิด ก่อนจะเดินลงส้นเท้าหนักๆ ไปยังประตูแล้วกระชากเปิดแง้มออกให้พอได้ยื่นหน้าออกไปส่องดูคนมารบกวน
“ป้าบู่” พอเห็นว่าเป็นป้าตัวเองก็ได้แต่เอ่ยเรียกชื่อท่านเสียงแผ่ว
“ใช่น่ะสิ เราเถอะ ไม่สบายรึเปล่าตาหินถึงได้ตื่นสายแบบนี้ฮึ” คนห่วงหลานเอ่ยถามพร้อมกับมองใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อของกองพล
“ไม่ครับ วันนี้ผมขี้เกียจเลยว่าจะโดดงานสักหน่อยครับ” เขาตอบกลับหลบตา แต่คนเป็นป้าก็จับพิรุธได้
“ใช่เหรอ?”
“จริงๆ ครับ ผมสบายดี ป้าบู่ไม่เชื่อก็แตะหน้าผากผมดูสิครับ” เขายื่นมือออกไปคว้าจับมือเหี่ยวย่นของป้าขึ้นมาอังหน้าผากตัวเองแล้วเอ่ยต่อ “เห็นไหม ผมสบายดี ป้าบู่อย่าห่วงผมเลยครับ”
“ไม่ห่วงได้ไง ก็ป้าเลี้ยงของป้ามาตั้งแต่เด็ก” นางชักดึงมือกลับพร้อมกับมองค้อนหลานตัวดีของตนเอง
“แหม! ผมก็รักป้าบู่นะครับ ไม่เอานะครับ ผมขอพักสักวันนะครับ ว่าแต่พ่อของผมอยู่บ้านไหมครับวันนี้” เขาถามถึงพ่อที่รักยิ่งของเขาทันที
“เห็นว่าจะออกไปข้างนอกนะ ถ้าเหนื่อยก็พักผ่อนเถอะ ไม่ป่วยป้าก็ดีใจแล้ว ป้ารักหลานนะ”
“หลานก็รักป้าครับ” เขาแทรกตัวผ่านประตูห้องโดยไม่อายว่าตัวเองใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวติดตัวมาโอบกอดป้าที่รักที่สูงแค่อกตัวเองพร้อมก้มโน้มลงมาหอมแก้มเหี่ยวๆ ของท่านแรงๆ อย่างหยอกเย้าเอาใจท่าน
“อ่ะ...พอเลยนะพ่อตัวดี ดูสิ ทำเป็นเด็ก แล้วเนี่ยใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวไม่อายรึไง เดี๋ยวเด็กรับใช้ก็เดินมาเห็นหรอก” นางดันหน้าหลานชายออกห่างพร้อมตีแขนของพ่อตัวดีไปสองสามทีและกองพลก็ยอมคลายกอดของตัวเอง
“ก็ผมรักของผมนี่ครับ ยิ่งแก่ยิ่งน่าเอ็นดูป้าของผม ไปแล้วนะครับ ผมสบายดีแข็งแรงมากด้วยครับ ขอพักผ่อนก่อนนะครับ”
เขาบอกท่านแล้วแทรกตัวกลับเข้าไปในห้อง เมื่อป้าของเขาก็เดินจากไปจากหน้าห้องนั่นแหละ กองพลถึงยอมปิดประตูแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะลงไปข้างล่างเพื่อหยิบกล่องปฐมพยาบาลที่ชั้นล่างเพื่อมาทำแผลถลอกที่หลังเนียนๆ ของหญิงสาว
ซี้ด!
ปากน้อยร้องซี้ดรู้สึกแสบหลังทั้งๆ ที่ยังหลับอยู่ แต่ก็ร้องเจ็บแสบหลังตัวเองจนต้องตื่น
“คุณทำอะไรคุณหิน อ่ะ...รุ้งแสบค่ะ” เธอที่ถูกพลิกนอนคว่ำหน้าเอี้ยวหน้าหันมาถามคนที่นั่งข้างๆ ตัวเองทันทีด้วยความสงสัย
“ก็บอกแล้วไงจะทาแผลที่ถลอกที่หลังให้ไง แสบหน่อยนะ เพราะมันฆ่าเชื้อโรค” เขาบอกเธอพร้อมก้มลงเป่าหลังให้เธอและนั่นทำให้ใกล้รุ้งอดใจเต้นแรงกับความเอาใจใส่และอ่อนโยนที่ผิดจากหน้าตาและหุ่นของเขา
“ขอบคุณค่ะ แต่รุ้งทำเองดีกว่าค่ะ” เธอบอกเขาพร้อมกับขยับตัวจะลุกขึ้น แต่เขาก็กดลำคอเธอไว้ไม่ให้ขยับตัวลุกขึ้น
“อยู่เฉยๆ น่า ฉันไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครหรอกนะ แต่ฉันอยากทำให้เธอ ทาตรงนี้ก็จะเสร็จแล้ว แล้วเนี่ยแม่กับพ่อเธอรู้ไหมว่าเธอจะมา” เขาลืมไปเลยว่าการที่พาเธอมาแบบนี้จะทำให้พ่อกับแม่เธอเป็นห่วง
“ยังค่ะ เพราะรุ้งตั้งใจมาเซอร์ไพรส์พ่อตันกับแม่ปองค่ะ”
“อือ...เดี๋ยวทาแผลให้เสร็จ เธอก็นอนพักสักตื่นนะแล้วค่อยไปหาพ่อกับแม่ แต่ต้องดูด้วยล่ะ อย่าให้ใครเห็นว่าเธอมาอยู่ที่นี่” เขาบอกพร้อมกับดึงผ้าห่มปิดแผ่นหลังเนียนทันทีเมื่อทาแผลให้เสร็จ และลืมไปเลยว่าชื่อจริงของเธอชื่ออะไร
“ว่าแต่ชื่อจริงเธอชื่ออะไร เห็นแต่เธอแทนตัวเองว่ารุ้ง คงชื่อเล่นสินะ”
“ใกล้รุ้งค่ะคุณหิน ส่วนชื่อเล่นก็รุ้งค่ะ”
“อายุล่ะ?”
“ยี่สิบสองปีค่ะ”
“เรียนจบแล้วเหรอ?”
“ค่ะ รุ้งเรียนจบแล้ว”
“อืม...นอนเถอะถ้าเหนื่อย ฉันไม่กวนเธอแล้ว”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นลงจากเตียงพร้อมเก็บกล่องปฐมพยาบาลแล้วนำไปเก็บไว้ที่โต๊ะทำงานของตัวเองที่มุมห้อง ส่วนตัวเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือ ส่วนใกล้รุ้งก็ได้แต่งงไม่เข้าใจคนตัวโตที่เดินจากไป แต่พอพลิกตัวนอนคว่ำหน้าเหมือนเดิม เสียงสั่นเตือนของโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอจำได้ว่าเป็นของตัวเองจึงรีบลุกขึ้นมองหากระเป๋าตัวเอง พอเห็นว่ากระเป๋าสะพายใบเล็กตัวเองวางกองที่พื้นก็หมายจะลุกขึ้นไปรับสายที่โทรเข้ามา แต่ก็ต้องสูดปากเจ็บกลางร่างตัวเองเมื่อขยับตัวเร็ว
“อ่า...เจ็บ!” เธอพึมพำกับตัวเองแล้วกัดฟันแน่นหอบผ้าห่มห่มร่างตัวเองลุกก้าวลงจากเตียงไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิด แต่แล้วสายก็ตัดไป แต่เธอก็เปิดดูหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูสายที่ไม่ได้รับ พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มมุมปากแล้วกดต่อสายกลับทันที
“ค่ะพี่โอม” เธอทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงสดใสเหมือนปกติที่คุยกับรุ่นพี่หนุ่ม
“ถึงบ้านยังครับน้องรุ้ง”
“ถึงแล้วค่ะพี่โอม พี่โอมไม่ต้องห่วงรุ้งนะคะ”
“ครับ”
“รุ้งมาพักผ่อนหลังเรียนจบสักอาทิตย์ก็กลับกรุงเทพเริ่มงานใหม่ที่สมัครไว้ก่อนจะกลับค่ะ และที่ทำงานเขาก็ตอบรับรุ้งทำงานแล้ว ขอบคุณพี่โอมที่แนะนำให้รุ้งไปสมัครงานที่บริษัทญาติพี่โอมนะคะ”
“ยินดีครับ ก็เราไม่ยอมมาทำงานเป็นผู้ช่วยพี่นี่”
“ไม่อยากเป็นเด็กเส้นค่ะ อีกอย่างไปที่นี่ก็เส้นเหมือนกัน...คิกๆ”
เสียงหัวเราะและคำเรียกปลายสายอย่างสนิทสนมของเธอทำให้คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำได้ยินและยืนกอดอกพิงประตูตั้งใจฟังว่าเธอโต้ตอบกลับคนในสายยังไง และก็เผลอกัดกรามแน่นไม่พอใจเมื่อได้ฟังรวมๆ แล้วใกล้รุ้งคุยกับผู้ชายและเหมือนว่าเธอจะสนิทกับคนในสายมากเสียด้วยสิ