ฉุดกระชากปล้ำ

127.0K · ยังไม่จบ
ณิการ์
77
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“กองพล” ผู้สะกดคำว่า “อ่อนโยน” ไม่เป็น ส่วน “ใกล้รุ้ง” เธอผู้กำลังมีชีวิตที่สดใสหลังเรียนจบ แต่ก็ต้องมาเจอกับคน “โฉด” อย่างนายเหมืองกองพล แล้วเรื่องระหว่างทั้งคู่จะเป็นยังไง เมื่อเริ่มต้นด้วยการ “ฉุด!” #ฉุด —————- “บอกฉันมาสิว่าเธอไม่ได้ท้องกับมัน” พอดึงลากออกมานอกบ้าน เขาก็ปล่อยมือที่จับกระชากดึงออกมาจับที่หัวไหล่เล็กเขย่าแรงๆ เพื่อเอาคำตอบจากหญิงสาว “แล้วทำไมคะ จะท้องกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณหิน ปล่อยรุ้งค่ะ อย่ามาทำแบบนี้กับรุ้ง รุ้งไม่ใช่ของคุณ ไม่ใช่นางบำเรอหรือของเล่นของคุณแล้วค่ะ” เธอปัดแกะมือเขาออกจากหัวไหล่ทั้งสองแล้วผลักเขาออกไปให้ห่างตัวเอง ”เธอใจร้ายกับฉันมากนะรุ้ง ขนาดฉันโดนยิงเกือบตาย เธอก็ไม่คิดจะมาดูแลฉัน มาเยี่ยมฉัน” “ก็ไม่เห็นตายนี่คะ ก็เห็นคุณหินสบาย แข็งแรงดี” “แข็งแรงดีเหรอ เธอดูแผลก่อน ฉันเกือบตายนะรุ้ง” เขาเจ็บกับคำตอบของหล่อนพร้อมกับถลกถอดเสื้อยืดสีดำคอวีของตัวเองออกให้เธอดูแผลเป็นที่อกซ้ายตัวเอง “ดูซะ! ดูแผลเป็นที่อกผัวเธอซะว่ามันใหญ่แค่ไหน เธอใจร้ายมากนะที่อยากให้ฉันตาย” ส่วนใกล้รุ้งถึงกับตกใจกับแผลเป็นที่หน้าอกของเขาจนเผลอตัวยกมือขึ้นลูบแผลของเขาอย่างลืมตัวและถามออกไปด้วยความเป็นห่วง “ยังเจ็บอยู่ไหมคะ?” เธออดลูบไล้สงสารเขาไม่ได้ และรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้มาดูแลเขาในช่วงที่รักษาตัว เธอแหงนเงยหน้าสบตากับคนตัวสูงที่ก้มมองตัวเองก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น เมื่อน้ำตาอ่อนแอกำลังไหล ให้ตายสิ เธออ่อนแอทุกครั้งที่เจอเขา และหัวใจก็เจ็บปวดเพราะเขาเช่นกัน ทำไมห่างไปนานหลายเดือนขนาดนี้ยังไม่ตัดใจจากกองพลอีก “เธอเป็นห่วงฉันใช่ไหมรุ้ง?” กองพลใจครึกครื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำถามอ่อนโยนและสายตาห่วงใยตัวเอง เขาจับมือเล็กที่ทาบทับอกตัวเองพร้อมกับอีกมือประคองดวงหน้าสวยให้หันกลับมาสบตาตัวเอง และเขาก็ได้เห็นว่ามันมีน้ำตาคลอ “ร้องไห้ทำไม ฉันยังไม่ตายสักหน่อย มันผ่านมาแล้วทูนหัว” เขาป้ายมือสากเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมานอกดวงตาให้เธออย่างอ่อนโยน อึก! ใกล้รุ้งกลืนก้อนสะอื้นลงคอแล้วปัดมือเขาออกจากแก้มแล้วดันเขาออกห่างพร้อมพูดตอบกลับ “ไม่ได้ร้องไห้เพราะคุณหินสักหน่อย ปล่อยได้แล้วค่ะ เรื่องของเราให้มันจบไปเถอะค่ะ ตอนนี้เราต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเองแล้ว และรุ้งก็ไม่ได้ต้องการจะกลับไปเป็นของเล่นชั่วคราวของคุณหินอีกแล้วค่ะ ไม่ต้องการเป็นนางบำเรอรอให้คุณเบื่อแล้วเฉดหัวทิ้งอย่างไร้ค่าค่ะ” เธอบอกเขาทั้งๆ ที่อยากโถมกายโอบกอดเขาเหลือเกินตอนนี้ คิดถึงโหยหาวงแขนแข็งแรงและอกแน่นๆ ของเขา และเพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่าหน้าเขาซูบตอบลงกว่าเมื่อก่อน เขาผอมลง หรืออาจเพราะทำงานหนักถึงผอมโทรม หนวดเคราก็ขึ้นรกรุงรังเต็มหน้าไปหมดตอนนี้ ความครึกครื้นได้ห่อเหี่ยวอีกครั้งเมื่อเธอตอบกลับมา เขาเจ็บร้าวขึ้นมาเมื่อเธอไม่ต้องการตัวเองอีกแล้ว ไม่ต้องการช่างมันสิวะ ก็เขาอยากได้หล่อนนี่ และใกล้รุ้งก็เป็นเมียเขา เขาก้มมองท้องที่ซ่อนอยู่ในชุดคลุมท้องของเธอแล้วก็ถามถึงเรื่องพ่อของเด็กในท้องเธอ “เด็กในท้อง ฉันหรือมันเป็นพ่อ” เผียะ! “คุณไม่มีสิทธิ์มาถามถึงพ่อของเขา คนใจร้าย!” เธอยกมือขึ้นตวัดแก้มสากจนหันไปตามแรงและกองพลก็สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอดเมื่อได้รับคำตอบเป็นลูกตบหนักๆ ของแม่คนตัวเล็ก “โอเค รู้แล้วว่าเด็กในท้องคือลูกฉัน ไม่ใช่ลูกมันแน่นอนทูนหัว” เขาโยนเสื้อทิ้งแล้วตวัดแขนโอบกอดเธอเข้ามาหาแล้วย่อตัวยกอุ้มร่างอวบอิ่มขึ้นแนบอกทันที ว้าย! ด้วยความตกใจและห่วงว่าจะกระทบกระเทือนถึงลูกน้อยในท้องก็รีบตวัดแขนโอบกอดลำคอหนาของคนเถื่อนทันที “ปล่อยรุ้งนะคุณหิน” “ไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่องรุ้ง บอกฉันมาสิว่าทิ้งฉันไปทำไม หนีไปทำไม รู้ไหมฉันแทบคลั่งแทบบ้าเพราะเธอ รู้ไหมว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน รู้ไหมรุ้ง” เขาสาวเท้าเดินลงส้นเท้าหนักๆ ตรงกลับไปทางบ้านตัวเองโดยไม่สนใจสายตาของคนงานที่เดินผ่านมา ส่วนใกล้รุ้งก็เขินอายสายตาคนงานก็ได้แต่ซุกหน้ากับอกแกร่งเปลือยเปล่าของเขา เขามันห่ามเหลือจะทนจริงๆ ทำไม...ทำไมกันต้องใจเต้นแรงกับท่าทางห่าม ดิบ ถ่อยของเขาด้วยเล่า..... #กระชาก แม้ทุกอย่างจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตาก็ไม่รู้ "กองบิน" ถึงได้ "กระชาก" เธอเข้าห้อง การถูกคนแปลกหน้ากระชากฉุดเข้าห้องทำให้ "คำเอื้อง" ตกใจตื่นกลัว และยิ่งไปกว่านั้นมันก่อให้เกิดความรู้สึกซึ้งกับคนป่าเถื่อน หลังจากนั้นมีเรื่องราวมากมายตามมาจนทำให้เธอหนีไปพร้อมกับ "ลูก" ในท้อง... +++++++ “ยะ…อย่าค่ะ” เธอผลักกองบินออกห่าง แต่เขาก็เด้งกลับมาเหมือนเดิม “ทำไมฮึ?” เขาก้มโน้มหน้ากระซิบข้างแก้มนวลของคนที่ตัวเองดันเข้าชิดผนังลิฟต์กระจกด้านหลังพร้อมอีกมือลูบไล้เรียวขาเล็กผ่านเนื้อผ้าที่ห่อหุ้ม “ยะ…อย่าค่ะ เดี๋ยวมีคนเห็น ในลิฟต์มีกล้องวงจรปิด แถมเป็นลิฟต์กระจกอีก” เธอบอกเขาเสียงสั่นพร้อมใจที่เต้นแรง “หึหึ...แต่วันนี้กล้องวงจรปิดมันไม่ทำงานน่ะสิ มาเถอะ กว่าจะถึงชั้นเจ็ดสิบสาม ฉันคงดำว่ายลึกในตัวเธอแล้วเด็กน้อย” แล้วปากหนาก็ทาบทับปิดกลืนเสียงค้านของเธอที่กำลังเอ่ยทันที พร้อมมือสากกร้านก็เริ่มเคลื่อนไหว #ปล้ำ เห็นครั้งแรกก็สะดุด ’ใจ’ จนต้องอุ้มไป ‘ปล้ำ’ ให้มันรู้แล้วรู้รอด “กองทัพ” ไม่เชื่อว่าตัวเองจะมีความรักให้กับสาวน้อย “บูรณิการ์” เพราะสำหรับเขาแล้วความ ‘รัก’ คือเรื่องไกลตัว แต่กว่าจะรู้ตัวเธอกับ ‘ลูก’ ในท้องก็ไปซะแล้ว +++++++ “ไม่ต้องมานั่งใกล้ฉัน” “จะเขินอายและหวงเนื้อหวงตัวไปทำไม เมื่อคืนเราเบียดกันกว่านี้ บีบียังแอ่นเด้งรับเอารับเอา” “ทะลึ่ง!” “ก็ ‘เมีย’ สวยนี่” เขาตอบกลับเย้าหยอกแกล้งให้บูรณิการ์เขินอายตนหนักกว่าเดิม +++++ “สารเลว! คุณมันเลว! ฮือๆๆ” บูรณิการ์ทุบตีอกแกร่งด้วยความโกรธและเสียใจเมื่อเขาผลักตนออกจากอก “ว่ามา พี่เหิมทำอะไรให้ไม่พอใจ หรือว่าโดนไล่ออกจากงาน ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่เลี้ยงเอง” “เลี้ยงฉันในฐานะอะไรมิทราบ นางบำเรอน่ะเหรอ อึก! ฮือๆๆ” “แล้วฐานะอะไรล่ะ หรือจะอยากเป็น ‘เมีย’ ถ้าเป็นเมียลับๆ น่ะได้ แต่ให้แต่งออกหน้าออกตาและจดทะเบียนสมรสน่ะไม่มีทาง พี่เหิมไม่พร้อมที่จะมีโซ่คล้องคอตอนนี้” ยิ่งกองทัพพูด บูรณิการ์ก็ยิ่งเจ็บปวดเสียใจ เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเปิดกระเป๋าหยิบที่ทดสอบการตั้งครรภ์ที่ขึ้นสองขีดแดงออกมาจากกระเป๋าแล้วปาใส่หน้าคนที่นั่งอยู่ ตุ้บ! ที่ทดสอบการตั้งครรภ์กระแทกโดนอกกองทัพก็รีบหยิบมันขึ้นมาดูว่ามันคืออะไร แต่เขาก็ไม่รู้จักอยู่ดีว่ามันคืออะไรจึงเลิกคิ้วเป็นคำถามส่งให้เธอพร้อมชูที่ทดสอบการตั้งครรภ์ให้เธอ แต่เธอก็ปัดมือเขาออกห่าง “เพราะคุณ เพราะคุณ ชีวิตฉันถึงเป็นแบบนี้คุณกองทัพ ไปตายซะ!” แล้วเธอก็เดินจากไปทันที ส่วนกองทัพว่าจะเดินตามไปก็ต้องหันมาสนใจที่ทดสอบการตั้งครรภ์ในมือตนอีกครั้งว่ามันคืออะไรกันแน่ ที่ตรวจโควิดเหรอ ตอนนี้ใครๆ ก็ไปไหนมาไหนกันสะดวกแล้วไม่ได้เข้มงวดเหมือนก่อน แต่ขึ้นสองขีดมันคืออะไรกัน “ติดโควิดเหรอวะ?” เขาพึมพำกับตัวเอง

นิยายรักประธานคนต่ำต้อยมาเฟียพาลูกกหนีเลือดร้อนมีลูกเศรษฐีดราม่า18+

บทที่ 1 - ฉุด

อร้าย!

กรี๊ด!

ตุ้บ!

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็ว ร่างเล็กถูกฉุดกระชากดึงเข้าข้างทางพร้อมกับเงาดำๆ ในความมืดคร่อมทับเธอที่ล้มกระแทกกับพื้นหญ้า ทั้งเจ็บทั้งจุกและหวาดกลัว พอจะร้องขอความช่วยเหลือก็ต้องเบิกตาในความมืดเมื่อปากหนาของคนร้ายกระแทกจูบหนักหน่วง

“อ่ะ...อื้อ” มือน้อยทุบตีคนเหนือร่างพร้อมพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีปากของคนร้าย วันนี้เธอเพิ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ มาถึงหน้าทางเข้าเขตเหมืองแร่สุปรีย์ เหมืองดังของจังหวัดกำแพงเพชรก็มืดแล้ว รถเข้ามาไม่ถึง พอมันมืดดึกจะโทรไปบอกพ่อแม่ก็เกรงใจท่านทั้งสองเพราะมันดึกแล้ว ท่านทั้งสองทำงานเหนื่อยจึงอยากให้นอนพักผ่อน อีกอย่างเธอก็โตมากับเหมืองแร่แห่งนี้และคุ้นเคยกับเส้นทางเป็นอย่างดีเลยตัดสินใจถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตัวเองเดินเข้าไปด้านในเหมืองแร่ แต่ใครจะคิดว่าจะมาโชคร้ายเจอกับโจรดักฉุดแบบนี้

เดินอีกแค่สองร้อยกว่าเมตรก็จะถึงที่พัก แต่ต้องมาเจอกับสิ่งไม่คาดคิดเสียก่อน เสื้อผ้าของหญิงสาวหลุดลุ่ยตามแรงกระชากฉีกของคนที่บดจูบปากตัวเอง หล่อนรังเกียจขยะแขยงเหลือเกิน พยายามดิ้นผลักไสคนเหนือร่างออก แต่ก็ไม่อาจหนีรอดและห้ามให้คนสารเลวหยุดได้ และยิ่งกลิ่นเหม็นของเหล้ายิ่งทำให้หล่อนต้องเบ้หน้าและปาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเมื่อเรียวลิ้นน่ารังเกียจสอดแทรกเข้ามาในปากตนเอง

“อ่า...อื้อ” เสียงครางจากการจูบเอาแต่ใจและปล้นจูบของคนที่มึนเมา เพราะเพิ่งดื่มโด่ไม่รู้ล้ม พญาเสือโคร่ง และม้ากระทืบโรงกับคนงานกำลังจะเดินทางกลับบ้านไปพักผ่อน แต่รู้สึกกระหายน้ำคอแห้งกระสับกระส่ายและขณะที่แวะฉี่ข้างทางแล้วหันมาเจอหญิงสาวพอดีกับจังหวะที่เจ้าโลกของเขามันกำลังผงาดและหิวโหยจนอยากระบายความอัดแน่นของท่อนเนื้อเลยฉุดเจ้าหล่อนเข้ามาสนองอารมณ์หิวกระหายของตัวเอง

ปกติเขาดื่มกับคนงานจะไม่มีอาการแบบนี้ แต่ครั้งนี้มันเหมือนว่าตัวเหล้ายาดองจะแรงกว่าเดิม กองพล สุปรีย์ หรือหิน วัย 39 ปี ย่าง 40 ปี รับรู้ได้ตั้งแต่อึกแรกที่สัมผัสลิ้น แต่ด้วยคิดว่ามันคงไม่เป็นไรจึงดื่มกับคนงานไปหลายแก้ว ถามว่าเมาไหมก็ไม่เมามากเท่าไร แค่พอกรึ่มๆ แต่ร่างกายส่วนนั้นมันผิดปกติ ชายหนุ่มรับรู้ได้ ร่างใหญ่บึกบึนสมส่วนของคนรูปร่างดีและหน้าตาดีจึงควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ไม่สนใจว่าผู้หญิงที่ฉุดเข้ามาสนองอารมณ์เป็นใคร ยอมรับว่าทำไม่ถูก แต่ตอนนี้ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป ไม่อาจจะเดินกลับบ้านได้แน่นอน

“อ่า...ฉันต้องการตอนนี้”

เขาผละออกมาเอ่ยเสียงเหี้ยมแหบพร่ากระเส่ารดใบหน้าของหญิงสาวในความมืดเมื่อจัดการกับเสื้อผ้าของหล่อนออกไปให้พ้นทางได้ และตัวเขาเองก็ใช้มือปลดถอดกางเกงตัวเองออกพอให้ท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่แข็งแรงของตัวเองออกมาเสียดสีกระแทกเร่าในกายสาวใต้ร่างได้

“อ่ะ...อื้อ” ยังไม่ทันได้อ้าปากจะประท้วงและร้องขอความช่วยเหลือ ปากน่ารังเกียจก็ทาบทับประกบลงมาอีกพร้อมเรียวลิ้นน่าขยะแขยงสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากที่กำลังอ้ากว้างหอบหายใจของหล่อน ใกล้รุ้ง นภาศิริ หรือรุ้ง วัย 22 ปี ลูกสาวคนงานเก่าแก่ประจำเหมืองกำลังถูกฉุดคร่าพรหมจรรย์ สาวน้อยดิ้นสุดแรงเกิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อตอนนี้ความใหญ่โตอัดกระแทกสอดแทรกเข้ามาอัดแน่นในท้องน้อย ทั้งจุกทั้งเจ็บเมื่อความใหญ่โตสอดลึกเข้ามากระแทกอัดลิ้นปี่ตนเอง

“อ่ะ...อ้า” อยากจะร้องแต่มีปากน่าขยะแขยงประกบปิดกลืนเสียงร้องเจ็บปวดของเธอไว้ เอวเล็กคอดบิดดิ้นถอยหนี แต่เอวหนาก็ขยับตัวตาม สองมือเล็กกำไหล่หนาจิกทึ้งเล็บสั้นตัวเองแน่นเพื่อระบายความเจ็บร้าวกลางลำตัว น้ำใสๆ ก็ไหลอาบล้นออกทางหางตา

ท่อนเนื้ออวบใหญ่เคลื่อนตัวตามเอวเล็กคอดที่บิดเร่าดิ้นถอยหนี วงแขนแข็งแรงของกองพลตวัดโอบกอดอุ้มร่างน้อยกลิ่นกายหอมจรุงขึ้นหาตัวเอง แม้ร่างน้อยจะมีกลิ่นเหงื่อมาผสม แต่มันหาได้ลดความหอมของตัวหล่อนลงไม่ กองพลรับรู้ได้ถึงเยื่อของพรหมจรรย์ที่ตัวเองกระแทกผ่านเข้ามา เขากระหยิ่มยิ้มพึงพอใจกับสาวน้อยในวงแขน ปากหนาบดจูบคลอเคลียดูดรัดเรียวลิ้นเล็กพร้อมขยับโยกเร่าเอวสอบให้เป็นจังหวะ

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

เสียงกระแทกเนื้อดังหนักหน่วงดุดันตามแรงเคลื่อนไหวของคนดิบเถื่อน ชายหนุ่มกำลังเคลื่อนไหวตามแรงตอดรัดเร่าภายในของสาวน้อยในวงแขนที่กำลังตอดรัด เขารู้ว่าหล่อนเจ็บเมื่อถูกกระแทกกายสอดลึกและแถมยังใหม่ไม่คุ้นชิน แต่กองพลเชื่อว่าหล่อนจะมีความสุขและสนุกกับสิ่งที่เขาป้อนให้ตอนนี้

“อ่า...แน่นดีเหลือเกิน อ่า...เธอแน่นมากเด็กน้อย อ่า...อายุสิบแปดรึยัง อ่า...” เขาไม่ลืมถามอายุของสาวน้อยในวงแขนที่ตนกอดรัดแน่นจนจะแหลกละเอียดคาวงแขน

“อ่ะ...เจ็บ! ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่แจ้งความหรอก อ่า...เจ็บ อ่า...” ทั้งเจ็บทั้งรู้สึกร้อนในช่องท้องน้อย สองมือเล็กยังคงจิกทึ้งไหล่กว้างของคนเถื่อนที่โอบกอดรัดตัวเองแน่น

“เสียใจด้วย ตอนนี้ไม่ได้เด็กน้อย และที่ฉันถามอายุถึงสิบแปดรึยัง อ่า...แน่นมากเด็กน้อย อ่า...เสียว ชูว์...”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

ใกล้รุ้งไม่ตอบในคำถามของเขา เธอเกลียดและรังเกียจเหลือเกิน แต่ก็เกลียดตัวเองด้วยที่ต้องเผลอร้องครางออกมา แถมยังแอ่นเด้งตอบสนอง เธอเกลียดที่ตอนนี้ตัวเองควบคุมตัวเองไม่ได้ ความเจ็บปวดรวดร้าวในตอนแรกมันได้หายไปแล้ว มันไม่เหลือให้เจ็บแค้น แต่มันมีความรู้สึกราวกระแสไฟฟ้าช็อตร่างที่ไหลเวียนไปทั่วร่างยามเอวหนาของคนสารเลวกระแทกจ้วงลึกอัดแน่นในท้อง

“อ่า...ไม่ตอบไม่เป็นไร อ่า...เด็กน้อย อ่า...แน่นเสียว อืม...เสียวเหลือเกิน ความสุขใกล้เข้ามาแล้ว โอว์...แน่น”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

กองพลยกยิ้มในความมืดเมื่อร่างน้อยในวงแขนเด้งเร่ากระแทกกลับแม้จะผิดจังหวะ แต่มันก็ทำให้เขาคึกคะนองอยากกระแทกกายสอดเร่ารัวถี่นำพาเจ้าหล่อนและตัวเองไปให้ถึงสวรรค์ ความคับแน่นภายในของสาวน้อยในอ้อมกอดยิ่งตอดรัดเร่าหนักหน่วงจนเขาอยากปริแตกในตัวเธอ และยิ่งไปกว่านั้นหล่อนรัดคลึงเร่าร้อนดีเหลือเกินยามเขาสอดเร่าลึก

“โอว์...ดีมากเด็กน้อย อ่า...เสียว แน่น ไม่ไหวแล้ว อยากแตกในตัวเธอที่สุด อ่า...ไม่ไหวแล้ว”

“อือ...ได้โปรด...ปล่อยฉันไปเถอะนะ อ่า...ฉันจะไม่แจ้งความ อ่ะ...อ่อย”

ใกล้รุ้งร้องครางเสียวร้อนในท้องน้อย เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันเป็นการถูกข่มขืน เพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกดีร่วมไปกับโจรสารเลวเหนือร่างที่โอบกอดตัวเอง ครั้งแรกของเธอต้องมาเสียให้กับคนป่าเถื่อนแบบนี้เหรอ ต้องมาเสียให้กับคนไม่รู้จักแบบนี้เหรอ ใกล้รุ้งได้แต่ถามตัวเองในใจพร้อมปล่อยร่างกายให้คนน่าขยะแขยงค้นหาความสุขในร่างตัวเองกับพื้นหญ้า

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอไม่อยากให้ฉันปล่อยเธอหรอก อ่า...เด็กน้อย ไปพร้อมกัน ไปสวรรค์พร้อมกัน ครั้งแรกของเธอมันจะเป็นสวรรค์ที่งดงามเชื่อฉัน อ่า...เสียว แน่น โอว์...ไม่ไหวแล้ว อยากแตก อ่า...”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

กองพลร่อนเอวบดหนักหน่วงกระแทกเร่า ปากหนาประกบปิดปากน้อยสอดเรียวลิ้นไปควานกินความหวานในโพรงปากน้อยเหมือนเดิม ปากหวาน ตัวหอม เป็นอะไรที่เขาไม่เคยเจอ และเขาแทบสร่างเมายาดองก็ว่าได้ ตอนนี้คือความต้องการของเขาโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับยาดองที่ดื่มไปก่อนหน้านี้ ความคับแน่นและพรหมจรรย์ที่ได้แทรกผ่านเข้ามาทำให้เขาหวงแหนร่างน้อยในวงแขน จนอยากเก็บไว้บนเตียงไม่อยากให้ใครได้พบเห็น แต่เสียดายหล่อนเป็นแค่ผู้ผ่านทางและเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าจะผูกติดกับผู้หญิงคนไหน สำหรับนายเหมืองอย่างกองพลแล้วผู้หญิงก็เป็นเพียงแค่ที่ผ่อนคลายยามเครียดจากงานเท่านั้น

“อ่า...อื้ม”

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากของทั้งคู่ที่จูบเร่าคลอเคลียกัน แม้ปากน้อยของหญิงสาวจะจูบตอบกลับเงอะงะ แต่มันก็เร่าร้อนอารมณ์ดีเหลือเกินในความรู้สึกของนายเหมืองอย่างกองพล และเอวก็ทำหน้าที่เด้งเร่ากระแทกสาวจังหวะเพื่อส่งตัวเองและสาวแรกแย้มไปให้ถึงสวรรค์ที่สวยงาม

“โอว์...อ่า”