บทที่ 2 - ฉุด
กองพลตื่นมาในตอนช่วงสาย เมื่อคืนก่อนจะถอดถอนตัวออกจากร่างน้อยที่หลับหมดสติเพราะอ่อนเพลียจากการรุกเร่าของตัวเอง เขาก็พรมจูบไปทั่วหน้างามของหล่อนในความมืด ไม่รู้อะไรทำให้เขาทำแบบนี้ แต่เขาเชื่อว่าสาวน้อยสวยงาม เมื่อพรมจูบจนพอใจก็จัดการแต่งตัวห่อหุ้มร่างเปลือยให้มิดชิดแล้วอุ้มพาดไหล่พร้อมหิ้วถือกระเป๋าเดินทางใบเล็กของหญิงสาวที่หมดสติเพราะเพลิงกามแล้วพากลับมาบ้านด้วยตอนตีสี่ และตอนนี้ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า เขาตื่นเวลานี้เป็นประจำ และพอตื่นมาภาพความเร่าร้อนเมื่อคืนข้างทางและที่พื้นหญ้าข้างพุ่มไม้ก็ฉายย้ำเข้ามาในหัวจนต้องพลิกร่างน้อยที่อุ้มพาดไหล่กลับมาด้วยให้หันหน้ามาหาตัวเอง เพราะหญิงสาวนอนหันหลังให้ตัวเอง
“สวยเป็นบ้า! ” เมื่อพลิกคนที่ตัวเองฉุดกระชากเข้าข้างทางให้นอนหันหน้ามาทางตัวเองเพื่อมองดูหน้าหญิงสาวที่อุ้มพาดไหล่กลับมาแล้วถึงกับไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เธอเป็นคนสวย ใบหน้าจิ้มลิ้ม ริมฝีปากกระจับน่าจูบที่เขาจูบแล้วจูบอีกเมื่อคืนและรู้ดีว่าปากน้อยๆ ของเธอหวานมากแค่ไหน มือใหญ่สากกร้านดึงกระชากผ้าห่มที่สาวน้อยห่มกอดไว้แน่นออกเพื่อดูรูปร่างของเธอ
“อ่ะ...อื้ม” ปากน้อยร้องครางไม่พอใจ แต่ก็ยังคงนอนหลับตา เธอขยับตัวเล็กน้อยแต่ไม่ยอมตื่น ส่วนเจ้าของเตียงก็ได้แต่ยกยิ้มเอ็นดูท่าทางของคนขี้เซาพร้อมกับลูบไล้มือสากกร้านไปตามลำคอระหงนวลเนียน ผิวของหล่อนขาวดุจน้ำนมก็ว่าได้และนุ่มน่าถนอมที่สุด มือใหญ่จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่ตัวเองเป็นคนใส่ให้เธอเมื่อคืนออก เพื่อจะมองร่างเปลือยของเธอให้เต็มตา เพราะเมื่อคืนอยู่ในความมืดจึงไม่ได้เห็นความงาม และตอนพากลับมาบ้านด้วยก็ไม่ได้สนใจเปิดไฟ อุ้มเธอโยนลงบนเตียงแล้วเขาก็ล้มตัวนอนข้างๆ อย่างหมดแรงไม่ต่างจากเธอ ก็หล่อนสูบพลังงานเขาไปเยอะเหลือเกินตอนอยู่ข้างทาง
“สวยมาก แม่งเอ๊ย! โชคดีของกูจริงๆ ที่ได้คนสวยๆ แบบนี้มานอนด้วย แถมยังซิงอีก...หึหึ” มือใหญ่สากกร้านลูบไล้ตามผิวนวลเนียนที่เปลือยเปล่าของหญิงสาวและโคตรภูมิใจในโชคดีของตัวเองที่ได้เจอเด็กสาวคนนี้
“แต่อายุสิบแปดปีรึยังวะ?” เขาพึมพำถามตัวเองพร้อมกับหยุดมือที่ลูบไล้ไว้กับอกอวบนุ่มของเธอพร้อมบีบนวดเร่าจังหวะไปด้วย
“อ่ะ...อื้อ” ใกล้รุ้งร้องครางกระเส่าด้วยความรู้สึกรำคาญและร้อนวูบไหวเรือนร่าง แล้วเธอก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อสมองสั่งการและเรื่องราวเมื่อคืนไหลย้อนเข้ามาในหัวตอกย้ำให้เธอตื่นมารับรู้ความจริงและมันไม่ใช่ฝัน
กรี๊ด!
พลั่ก!
ตุ้บ!
ด้วยความตกใจเมื่อเจอคนแปลกหน้าจึงรีบผลักอีกฝ่ายออกห่างเต็มแรง และด้านเจ้าของเตียงด้วยกำลังหลงใหลกับผิวงามๆ สองเต้าอวบอูมพอดีมืออยู่นั้นก็ถูกผลักหงายหลังกลิ้งตกเตียงไปแบบตั้งตัวไม่ทัน
โอ๊ย!
เสียงห้าวร้องออกมาด้วยความจุกเจ็บพร้อมดีดตัวลุกขึ้นกลับมาบนเตียง ส่วนใกล้รุ้งก็รีบคว้าดึงผ้าห่มมาห่มร่างเปลือยตัวเองไว้เมื่อเห็นสภาพตัวเองในตอนนี้ทั้งเขินทั้งอายและโกรธเกลียดชิงชังคนตัวใหญ่ที่ขึ้นมานั่งบนเตียง เขาใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เปลือยท่อนบนที่เต็มไปด้วยไรขนอ่อนและกล้ามแขน กล้ามอกก็เป็นมัดๆ เธอไม่อยากเชื่อว่าเธอได้ตกเป็นของผู้ชายร่างใหญ่คนนี้ ร่างใหญ่อย่างกับยักษ์และเลื่อนสายตาผละจากอกขึ้นไปมองหน้าของคนที่ปล้นฉุดพรหมจรรย์ตัวเองก็ต้องเบิกตาอ้าปากกว้าง เพราะเธอรู้จักเขาดีว่าเขาคือใคร
‘คุณหิน!’ ใกล้รุ้งร้องเรียกชื่อเขาในใจ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเจ้านายของพ่อแม่ ความจริงเธอเคยเห็นเขาในระยะไกลๆ หลายครั้ง และเธอเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก แต่เขาไม่รู้จักเธอ เพราะเธอค่อนข้างเก็บตัว พอเรียนจบมัธยมปลายก็สอบเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ พอติดก็ไปเรียนที่นั่นสี่ปีจนเรียนจบถึงได้กลับมาบ้าน เพราะเวลาปิดเรียนเธอจะหางานพิเศษทำไม่ได้กลับมาหาพ่อกับแม่ที่เหมือง
กองพลกัดกรามแน่นด้วยความขุ่นเคืองเมื่อคนตัวเล็กผลักตัวเองกลิ้งตกเตียงไม่เป็นท่า ทั้งเจ็บทั้งจุกและโกรธ ริ้วรอยแห่งความโกรธแสดงชัดเจนบนหัวคิ้วที่ย่นเข้าหากันทำให้ใกล้รุ้งขยับตัวที่ลุกขึ้นนั่งถอยห่างออกไปอย่างระแวดระวัง
“ผลักเมื่อกี้ต้องมีสิ่งตอบแทน ฉันตกเตียง เธอต้องทำหน้าที่เมียแล้วแหละเด็กน้อย เพราะตอนนี้ฉันกำลังโกรธเธอมากรู้ไหม” เขายื่นมือไปคว้าจับต้นแขนเล็กของหล่อนพร้อมบีบเต็มแรงจนใบหน้าสวยซับสีเลือดฝาดของเธอบิดเบ้ด้วยความเจ็บจากแรงบีบของมือใหญ่ของเขา
“อ่ะ...เจ็บนะคุณหิน!” ใกล้รุ้งหลุดปากพูดชื่อของเขาออกมา ส่วนกองพลถึงกับเลิกคิ้วเป็นคำถามเมื่อหญิงสาวรู้จักชื่อเล่นของตัวเอง
“เธอเป็นใคร?”
เขากระชากเสียงถามพร้อมกระชากร่างเล็กเข้ามาปะทะแผงอกแกร่งตัวเอง ส่วนมือเล็กของใกล้รุ้งก็รีบยกดันหน้าอกของเขาไว้ด้วยกลัวว่าร่างน้อยของตัวเองจะแนบเบียดไปกับหน้าอกเขา แต่ก็ลืมไปว่ามือตัวเองกำผ้าห่มอยู่จึงทำให้ผ้าห่มหลุดร่วงไปกองที่เอวเล็กคอดจนเปิดเผยสองเต้าอวดสายตาดุดันของกองพล
อึก!
กองพลกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบากทันทีเมื่อเห็นสองเต้าที่เด้งออกมาจากผ้าห่มที่ร่วงไปกองที่เอวเล็กคอดของเจ้าหล่อน แต่ก็แสร้งตีหน้านิ่งขรึมโกรธไว้เหมือนเดิมและถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันถามไม่ได้ยินรึไง เธอเป็นใครและรู้จักชื่อฉันได้ยังไงเด็กน้อย?”
“นะ...หนู...” เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงเข้มห้าวก็ดังแทรกขึ้นอีกครั้ง
“หนู?” ให้ตายสิ เขาเกลียดคำนี้ ‘หนู’ งั้นเหรอ นี่เธอแทนตัวเองแบบนี้ มันเท่ากับว่าเขาแก่น่ะสิ ให้ตายสิ เขายังไม่แก่สักหน่อย ยัยเด็กบ้านี่!
“แทนตัวเองใหม่ซะ! ฉันยังไม่แก่ อย่ามาแทนตัวเองกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ชอบ!” ทั้งๆ ที่ตัวเองมองหญิงสาวเป็นเด็ก แต่กลับไม่ชอบให้เธอแทนตัวเองกับตนว่า ‘หนู’ เพราะไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อน
“รุ้งเป็นลูกสาวของคนขับรถรับส่งคนงานที่เหมืองของคุณหิน และแม่ก็เป็นแม่ครัวที่โรงอาหารของเหมืองค่ะ”
เธอบอกตอบเขาเสียงสั่นและก้มหน้าหลบตา แต่ก็ต้องเขินอายเมื่อก้มลงไปเห็นความเป็นชายของเขาที่หว่างขามันกำลังผงาดดิ้นอยู่ใต้กางเกงบ็อกเซอร์ตัวบาง และใกล้รุ้งเพิ่งสังเกตเห็นรอยสักลวดลายสวยงามที่แขนข้างขวาของเขา เขาสักหลายลาย เธอมองไม่ออกว่าลายอะไรบ้าง แต่มันสวยงามมากเหลือเกิน และมันก็เข้ากับความดุดันของเขาเช่นกัน
“เธอเป็นลูกสาวของน้าตันกับน้าปองเหรอ?” เขาขมวดคิ้วนึกถึงคนงานเก่าแก่ของตัวเองทั้งสอง และเขารู้ว่าทั้งสองมีลูกสาว แต่ไม่เคยเจอหน้าตาเลยสักครั้ง และพอเจอเขาก็ฉุดหล่อนมาทำเมียเสียแล้ว
“ใช่ค่ะ รุ้งเป็นลูกสาวพ่อตันกับแม่ปอง” เธอบอกย้ำเขาเสียงสั่นหวาดกลัวร่างบึกบึนของชายหนุ่มตรงหน้า
หึหึ
กองพลทำเพียงยกยิ้มขำในลำคอไม่ได้พูดอะไรต่อ และใกล้รุ้งยิ่งกลัว เพราะไม่รู้ว่าคนตัวโตกำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้ และก็ต้องหดคอเมื่อมือใหญ่ที่นวดหน้าอกตัวเองเคลื่อนมาลูบลำคอตัวเองพร้อมบีบลำคอเธอไว้มือเดียวบังคับให้เชิดหน้าขึ้นสบตาดุดันสีทมิฬของเขา
“คะ...คุณหินจะทำอะไรรุ้งคะ?” เธอถามเขาเสียงแผ่ว
“แล้วเมื่อคืนเธอเป็นอะไรกับฉันล่ะ ฉันก็จะทำแบบนั้นกับเธอนั่นแหละเด็กน้อย หึ!” ท้ายประโยคเขาก็ยกยิ้มเย็นชาส่งให้เธอจนเธอรู้สึกหนาวไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่า
“มะ...ไม่นะคะ มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก” เธอส่ายหน้ารัวๆ พร้อมดันหน้าอกของเขาออกห่างและจับมือใหญ่ให้ปล่อยมือจากลำคอเล็กของตัวเอง แต่เขากลับกำแน่นจนรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อมือใหญ่เปลี่ยนจากจับกำหลวมๆ เป็นบีบแน่นเข้าหากัน
“อ่ะ...แค่กๆๆ รุ้งหายใจไม่ออกค่ะ”
เธอทุบตีมือใหญ่ให้ปล่อยพร้อมไอออกมาเมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ
“หายใจไม่ออกต้องผายปอดรู้ไหมเด็กน้อย ฉันเพิ่งรู้นะว่าเธอโตเป็นสาวขนาดนี้ แสดงว่าก็อายุยี่สิบกว่าแล้วสินะ ดี! ฉันจะได้ไม่ต้องโดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์ อ่ะ...อื้อ” ปากหนาประกบทาบทับลงมาบดขยี้กลีบปากอวบอุ่นนุ่มนิ่มของสาวน้อยตรงหน้าทันทีพร้อมผลักร่างเล็กให้นอนราบไปกับเตียงนุ่ม นาทีนี้เขาไม่อาจทนต่อแรงกดดันของความใหญ่โตกลางหว่างขาได้ ส่วนสาวเจ้าก็ดิ้นรนทุบตีอกเขาพยายามหาทางหนีเอาตัวรอด แต่ด้วยความที่กองพลมีตัวที่ใหญ่และพละกำลังก็เยอะมากกว่าด้วยความเป็นชายที่แข็งแรงออกกำลังกายเป็นประจำทำให้เคลื่อนตัวได้รวดเร็วมาคร่อมทับหญิงสาว ไม่ได้เชื่องช้าเลยสักนิด ถึงตัวเขาจะใหญ่เหมือนยักษ์ แต่ใช่จะเคลื่อนไหวช้าอย่างที่คิด