บทที่ 6 ฟ้อง
ในความเห็นต่าง ยังมีความเป็นห่วง โครทิส เวเดโน่ ผู้เป็นพ่อตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับทีม เพื่ออย่างน้อยเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น จะได้เห็นเจตนารมณ์ของเขา ซึ่งนั่นทำให้เรกาโด เรอัสซ์ หนึ่งในทีมนั่งต่อไปไม่ติด เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเล่า เขาเดินไปเดินมาอยู่หลายนาที ก่อนจะฉวยกุญแจรถ
เฮ้ย เรสจะไปไหน "
" ผมปล่อยให้เขาทำมันคนเดียวไม่ได้จริงๆ ครับอา ขอโทษนะครับ รบกวนอาโทรบอกเมียให้ผมด้วย"
สุดท้ายคนที่ต้องถอนหายใจพรืดตามกันก็คือซันดรู นอกจากจะทำตามคำขอของเขาแล้ว ยังโทรหาลูกชายของตัวเองอีก
(ฮะพ่อ)
" คาล ลูกอยู่ไหน "
(ผมเล่นเกมอยู่)
" เออดี งั้นเล่นไปยันเช้าเลยนะ!"
(ครับ?)
ซึ่งนั้นเขาจะไม่รู้เลยว่าพาสคาลกำลังโกหก คนที่บอกพิกัดให้บรูโน่ก็คือเขา เพียงแค่จับใจความได้ ก็ตัดสายทิ้ง ก่อนจะเปิดจอคอมทุกตัว เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของเหล่าทีม
ด้านของบรูโน่
ความแค้นเป็นแรงผลักดันทั้งหมด ก่อนจะรุดหน้ามายืนตระหง่านอยู่ข้างหน้า รังของศัตรู ก็ใช่จะไม่ทบทวน เขาคิดแล้วคิดอีกมากกว่าสามครั้ง ท้ายที่สุดคำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม เมื่อไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่มีอะไรต้องเสีย
" มีคนมาป้วนเปี้ยนอยู่หน้าประตูครับนาย "
ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงาน สร้างความหงุดหงิดให้แก่ผู้เป็นนายไม่น้อย ในขณะเขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับร่างบางนางหนึ่งอยู่ในห้อง กลับต้องเดินออกมาตามเสียงรายงาน โดยไม่วายหยิบเสื้อคลุมขึ้นสวมใส่ พอให้ได้ปกปิด
" ใคร? "
" ไม่มีข้อมูลครับ"
"ว่าไงนะ?!"
ก่อนจะตะโกนลั่นห้อง แม้แต่คนในห้องยังสะดุ้งสุดตัว
" พะ พวกผมพยายามสืบค้นแล้วครับ แต่ไม่พบข้อมูล "
นิสัยโมโหง่ายของเขา ทำลูกน้องตรงหน้าเกิดความประหม่า รายงานน้ำเสียงตะกุกตะกัก มือกุมต่ำ
" ใหญ่มาจากไหนวะ พวกมันมากันกี่คน "
" สองคนครับ"
ผั๊วะ!
ก่อนฝ่าเท้าเปล่าของคนเป็นนายจะพุ่งเร็วไปโดนท้อง
" สองคนพวกมึงยังจัดการกันไม่ได้เรอะ! "
" จะให้ฆ่าเลยไหมครับ "
" ก็เออสิวะ! คนที่ไม่มีข้อมูลก็คือคนแปลกหน้า คนแปลกหน้าก็คือศัตรูกู!"
และเตรียมจะง้างมือตบอีกครั้ง ให้กับคำถามที่โง่เขลา โชคดีที่เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้นเสียก่อน
"ไป ออกไป "
" ครับนาย "
เขาเดินมากดรับด้วยอารมณ์คุกรุ่น ก่อนจะรู้ว่าเรื่องที่ลูกน้องนำมารายงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ก็ตอนปลายสายพูด พร้อมกับบานประตูระเบียงเปิดออก
" ไง ไอ้เวร "
แลดูเรื่องนี้แค่ลูกน้องของเขาคงจัดการเองไม่ได้เสียแล้ว สองคนนั้นที่ลูกน้องเขาเห็นเป็นแค่ลูกสมุน จ่าฝูงน่ะอยู่ที่นี่ ซึ่งเข้ามาตอนไหนมิอาจรู้ และกำลังใช้ปืนชนิดเก็บเสียงจ่อมาที่เขา
" มึงเป็นใคร?"
" ยมบาลไง "
แกรก~
" อย่า..."
แน่นอน ไม่ทันได้อ้าปากเพื่อร้องขอ กระสุนนัดแรกถูกปล่อยจากกระบอกไปเจาะขาเขา
" อ๊ากกก! มึง!"
เครเอ็ท* ร้องลั่น แต่นั่นคงดังไม่พอที่ลูกน้องจะได้ยิน
คนเหนี่ยวไกพอใจในเลือดสดๆ ที่ไหลจากขาออกมานองพื้น ก่อนจะหันไปทางประตูห้อง
" ใส่เสื้อผ้าซะ แล้วเดินออกมา "
กดเสียงลงต่ำ ที่ทำให้นางบำเรอในนั้นถึงกับสะดุ้งเฮือก เร่งสวมเสื้อผ้าอย่างที่เขาว่า ยอมเดินออกมาแต่โดยดี ด้วยสภาพดูไม่จืด ผมชี้ฟู และลิปสติกเลอะริมฝีปาก ร่างสูงถึงกับยกยิ้ม ก่อนจะหันมามองเครเอ็ท
" ว้า~ ทำบาปเข้าให้แล้วสิ "
ความแค้นกระหน่ำเข้ามาหาคนเจ็บ มาเฟียรุ่นราวคราวเดียวกันกัดฟันกรอดมองเขา มือยิงจิตใจโหดเหี้ยม ที่ไม่คิดจะถามกันหรือแนะนำตัวก่อน
" มึง..เป็นใคร"
มิหนำซ้ำยังทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่เขาอีก
" เป็นใครน่ะเหรอ? "
ยกปืนเกาศีรษะตัวเอง แต่หันปลายกระบอกไปหาเขา ยิ้มเยาะล้อเลียนเสมือนในอุ้งมือคือของเล่น ไม่ใช่วัตถุสามารถทำให้ตาย
" บอกชื่อไปจะรู้จักหรือเปล่า เสียเวลาเปล่าๆน่า "
" ที่นี่ไม่ได้มีแค่กู"
ต่างกับคนเจ็บที่ดูเหมือนจะโกรธแค้นมากกว่า ทว่าเสียงสบถที่เปล่งออกมาแทบจะไม่มีแรงหลงเหลือ โครทิสได้ยินอย่างนั้นจึงเลิกคิ้วสูง ปรายตาไปหาผู้หญิงอีกคนที่กำลังกอดตัวเองยืนตัวสั่น
" ใคร? ... หมายถึงยัยนี่เหรอ" ชี้ปลายกระบอกปืนไปหาหล่อน ทำสาวเจ้าเข่าแทบทรุด " หรือว่า..พ่อของมึง ที่นอนกกผู้หญิงอยู่อีกห้อง"
" อย่า..อย่ายิงนะคะ ฉันไม่เกี่ยว ฉันเป็นแค่นางบำเรอ "
กลับกลายเป็นความเกรี้ยวกราดเมื่อได้ยินเสียงของหล่อน เสียงร้องฟูมฟายอย่างกับคนขาดสติและประโยคที่บาดลึกเข้าไปในใจเขา ราวกับตอกย้ำอะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยยอมรับมันซึ่งน้องสาวเขามี หากหล่อนยังมีชีวิต นี่อาจเป็นสาเหตุของการตายส่วนหนึ่งก็ได้ ก่อนจะตะเพิดกลับไป ทำหล่อนตกใจรีบเก็บปากเงียบ
" หุบปาก!"
ตาลุกวาวเผยม่านข้างในแดงก่ำ ความโกรธแค้นนั้นทำให้เขาหมดสนุก คิดหยอกเล่นคู่อริในทีแรก กลับต้องเปลี่ยนเป็นการตีหัวเขาแทน
ผั้วะ!
เป็นการระบายอารมณ์
เครเอ็ทถึงกับหน้าหัน จนจุดนั้นแตก เลือดค่อยๆไหลลงมาเป็นเส้น และเขาไม่ได้หยุดมันแค่นั้น กลับใช้ปืนจ่อขมับอีกที
" รู้อะไรไหมไอ้สวะ มึงจะไม่มีวันกลับไปเสวยสุขกับผู้หญิงคนไหนได้อีก เพราะนาทีชีวิตของมึงกำลังจะหมดตั้งแต่วันนี้ กูจะฆ่ามึง ฆ่า! ให้สมกับความชาติชั่ว อยากตายแบบไหนเลือกมาเลย"
พร้อมประโยคเล็ดลอดจากไรฟัน พอๆกับแรงกดของปลายกระบอกปืน
เครเอ็ทถึงกับตาเหลือก ทำได้แค่เหลือบตามองเนื่องจากขยับหน้าไม่ได้ ต่างกับอีกคนในห้อง ที่ตกใจหนักถึงกับตัวสั่น ก่อนจะสลบเหมือดก็ตอนกระสุนนัดที่สองถูกเล็งไปยังขาอีกข้าง
" อ๊ากกก!"
แน่นอน เสียงร้องโหยหวนคือความทุกข์ทรมานทว่าคนใจโหดเหี้ยมอย่างเขา เมื่อความโกรธเข้าครอบงำจนถึงขีดสุดแล้ว ก็ยากต่อการควบคุม
บรูโน่ขบฟันกรอด นัยย์ตาไม่หลงเหลือความเป็นเขา เปรียบเสมือนซาตานในคราบเทพบุตร ที่พร้อมจะพรากชีวิตคนตรงหน้าตลอดเวลา เพื่อให้สาแก่ใจ ทุเลาความเครียดแค้นของตัวเอง
ฉะนั้นถึงเวลาที่เครเอ็ทไม่มีอารมณ์มานั่งล้อเล่น เขาเจ็บเกินกว่าจะมานั่งหัวเราะเยาะเขา
" ฆ่ากูให้ตายตอนนี้ น้องสาวมึงก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก!"
" ก็ดีกว่าเห็นมึงมีชีวิตอยู่"
แกรก~
เสียงขึ้นแม็กกาซีนดังพร้อมกับเสียงขบกราม นิ้วสากจ่อเตรียมยิงอยู่ตลอดเลื่อนใกล้เข้ามาค่อยๆ หวังกดให้จมฆ่าให้ตายก็คราวนี้
แต่แล้ว..
เสียงหนึ่งกลับดังขึ้นเสียก่อน
ติ้ดๆๆๆ
เครเอ็ทที่เบิกตาโพลงด้วยความกลัวปล่อยเสียงหัวเราะอย่างสะใจ
" ฮ่าๆๆ แกไม่รอดแน่ "
เมื่อเสียงสัญญาณในบ้านร้องขึ้น บ่งบอกถึงการตัดผ่านเลเซอร์ที่มีอยู่ทั่วบ้านด้วยการกระทำของใครที่แปลกหน้าบางคน หรือเรียกง่ายๆ เป็นบุคคลที่เลเซอร์ไม่รู้จัก
บรูโน่ชะงักงันไปเล็กน้อย ละสายตาจากคู่กรณี กวาดตาไปทั่ว ก่อนจะก้มกลับมายกยิ้มดังเดิม
" สัญญาณฟ้องพ่อมึงสินะ ถ้างั้นก็ตายซะตอนนี้เลยเป็นไง "
พร้อมถอดปลอกเก็บเสียงออกลั่นไกใส่เขา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เรอัสซ์เข้ามาพอดี จากทางระเบียง
" บรูส อย่า! "
ปัง!
แต่เหมือนจะสายเกิน เมื่อศัตรูล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ด้วยวิถีกระสุนพุ่งทะยานเจาะกระโหลกแสกหน้า ท่ามกลางความตกใจของคนมาใหม่ ที่ทำอะไรไม่ถูก ถึงกับยกมือกอดศีรษะของตัวเอง เดินไปเดินมา
" ไอ้บรูส ไอ้บ้าเอ๊ย!! "
ทว่า ยังคงมีสติพอที่จะถลาเข้าไปลากคอเพื่อน ทั้งที่เจ้าตัวไม่รู้สึกสะทกสะท้านด้วยซ้ำ
" ลุก! "
เขาโกรธหหน้าดำหน้าแดง จนขาดสติไปแล้ว
" บรูสไป! หนีก่อน! "