ฉีกกฎรักมาเฟียปากแข็ง S2

109.0K · จบแล้ว
เกศิณี@สกั้ง
60
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเล็กวิ่งเร็วแล้วชะลอหยุด พร้อมลมหายใจถี่ยิบคล้ายคนหอบ ท่าทางหวาดกลัว เหงื่อไหลเป็นทาง ก่อนทรุดตัวลงนั่งยอง เมื่อพบซอกตึกซึ่งเป็นมุมอับ ทั้งลึกและมืด สามารถเป็นที่กำบังให้ได้ แต่เหมือนจะพักพิงได้เพียงชั่วคราว หลังสการ์เล็ตต์ โคลนี* ได้ยินเสียงฝีเท้าของกลุ่มคนวิ่งใกล้เข้ามา " ไปไหนแล้ว!" เธอนั่งตัวสั่นราวกับหนาวเหน็บ ทั้งที่ยามนี้เป็นช่วงฤดูร้อน พื้นทะเลทรายร้อนระอุ ท้องฟ้ามืดมิด ไม่มีดวงดาวแม้แต่ดวงเดียว " ตัวเล็กนิดเดียวทำไมวิ่งเร็วนักวะ " " ตะกี้เห็นหลังแวบๆ ครับ" " หามันให้เจอ อย่าให้มันหลุดไปได้" สิ้นเสียงคำราม หนึ่งในสามของชายฉกรรจ์ สร้างความเกรงกลัวให้แก่เธอจนเผลอสะดุ้ง ขนตาแพยาวที่เคยเปียกชุ่ม ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เหือดแห้งไปเมื่อสิบนาทีก่อน กลับมาเปียกใหม่อีกครั้ง พร้อมหัวคิ้วผูกชนเป็นปม เธอจะทำอย่างไรดี? คงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ! และเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เมื่อหนึ่งในนั้นมองเห็นเงาของเธอ เล็ดลอดออกมาจากช่องเล็กๆ ว่างเปล่าจนผิดสังเกต ก่อนยกยิ้ม กำมือยกขึ้นเป็นสัญญาณ " ไปกันเถอะ " ใช้กลอุบายหลอกล่อ เสมือนคนวิ่งออกไป ได้ผล เธอตายใจ ร่างบางที่กำลังนั่งตัวแข็งทื่อ กำลังเอี้ยวหูฟังพวกเขาและถอนหายใจพรืด รอให้แน่ใจอีกสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นมา หลังเห็นทุกอย่างเงียบสงัด แต่แล้ว.. กลับต้องเบิกตากว้างให้กับภาพเบื้องหน้า ใครคนหนึ่งซึ่งยืนพิงผนังตึกอยู่ไม่ห่าง ด้วยท่ามือล้วงกระเป๋ากางเกงสบายใจเฉิบ ทว่า ใครจะรู้เท่าเธอว่านั่นคือ มัจจุราช! พญาซาตานที่กำลังมาเอาชีวิตเธอ! " ไง..." พร้อมคำทักทาย และรอยยิ้มมุมปาก ชวนหนาวเย็นแปลกๆ " O.O" " คิดว่าหนีกูพ้นหรือ?" กับคำว่าชะตาขาด ที่ออกมาจากแววตาของเขาคู่นั้น เธออยากจะร้องไห้ แต่กลับทำได้แค่ยืนอึ้ง " ยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว" เมื่อหนีไม่รอด ท้ายที่สุดสัญชาตญาณสั่งให้เธอต้องอ้อนวอน ยกมือบางขึ้นมาบังหน้า แต่เหมือนคนตรงหน้าไม่เห็นใจ เขาไม่สนใจไม่พอ ยังจะจับท้ายทอย ดึงผมเธอ จนหน้าแหงนคอตั้งบ่าอีก " กลัวหรือ?" กัดฟันกรอด ใช้สายตาคมกริบจ้องเขม็งมายังเธอบ่งบอกถึงความคับแค้นใจ ที่อัดแน่นจวนจะปะทุ สการ์เล็ตต์ ใจหายวาบมองเขากลับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ภาพสุดท้ายที่เธอจดจำ คือเขาผลักเธอล้มลง ศีรษะกระแทกพื้นและทุกอย่างก็ดับมืด ตุบ! .....มืด ไร้แสงดาวเหมือนท้องฟ้าในคืนเดียวกัน

18+นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันมาเฟียโรแมนติก

บทที่ 1 ขอร้อง

ราตรีเดือนมืด ไม่ใช่แค่ความเงียบสงัดเป็นตัวปลุกร่างบางที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ต้องสะดุ้ง หรือกลิ่นอับชื้นบริเวณรอบๆ โชยมาแตะจมูกจนต้องตื่น แต่เป็นเพราะผ้าสีเดียวกันกับที่ปิดตาของเธอ รัดแน่นเสียจนมองอะไรไม่เห็น พอขยับตัวจึงรู้ทันทีตนนั้นกำลังถูกพันธนาการ

" ตื่นแล้วหรือ?"

และไม่ทันได้หายงง เรียบเรียงความจำไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าได้สำเร็จ เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งกลับดังขัดขึ้นมาเสียก่อน สร้างความหวาดกลัวให้เธอไม่น้อย

โคลนีเม้มริมฝีปากแน่น ความตื่นเต้นเริ่มเล่นงานเธอ บีบหัวใจจนชาลามไปทั้งแขนและขา ฝ่าเท้าใต้รองเท้าผ้าใบเหยียบไม่ติดพื้น รู้สึกเบาหวิวนับตั้งแต่ได้ยินเสียงนั้น

เธอจำได้แม่น เขาเป็นคนเดียวกันกับที่บุกเข้ามาทำร้ายพี่ชายของเธอ สการ์เล็ตต์ โจอี้* เมื่ออาทิตย์ก่อน

หญิงสาวไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ทว่าสัญชาตญาณสั่งให้เธอพูดประโยคหนึ่งออกไป ซึ่งเป็นประโยคราวกับเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล!

" หยุดนะ! อย่าทำเขา ได้โปรดเถอะ เขาไปทำอะไรให้ ถึงได้เอาปืนจ่อหัวเขาแบบนี้ "

ไม่รู้อะไรเข้าสิงเธอให้มีใจกล้าบ้าบิ่น ถึงขนาดไม่กลัวความตายวิ่งเข้าหากระสุนปืน เลือกปกป้องพี่ชายทั้งที่รู้ดี เขาอาจไปก่อเรื่องร้ายแรงไว้จริงๆ ก็ได้ ไม่อย่างนั้นกลุ่มคนที่ดูปราดเดียวก็รู้ต้องเป็นผู้มีอิทธิพล ไม่มายืนอยู่ที่นี่หรอก

" อยากรู้งั้นหรือ?"

เสียงหนึ่งถาม ไม่ใช่เสียงของคนถือปืนเพราะเขาไม่ได้ขยับปาก แต่ฟังแล้วทรงพลังพิลึกพิลั่น สามารถทำคนเหล่านั้น โดยไม่ต้องออกคำสั่งให้ทำตาม หันปลายกระบอกปืนด้ามนั้น มาทางเธอ จ่อที่ขมับข้างซ้ายแทนพี่ชาย

หญิงสาวเหลือบตามองหน้าเขา หางตาหวาดหวั่นสั่นระริก หวังตั้งคำถาม ต้องการคำอธิบาย ทว่าคงไม่สะท้อนในตาให้เห็นแม้แต่น้อย เพราะสภาพสะบักสะบอม จะเป็นจะตายร้ายดีไม่อาจรู้ค้ำคอเขาอยู่ นาทีนั้นสการ์เล็ตต์รู้ทันทีว่าตนจะต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน หันกลับมามองหน้าคนถือปืน ก่อนจะมองเลยไปยังใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง จุดนั้นเป็นโซฟาของเธอซึ่งอยู่ในห้องของพี่ชาย

เธอมองไม่เห็นเขา เพราะถูกคนพวกนี้บดบัง แต่หากให้เดาคงกำลังนั่งสบาย ใช้แขนแผ่วางบนพนัก และเป็นเจ้านายของชายฉกรรจ์เหล่านี้!

" จะเอากันถึงตายเลยหรือ? เขาไปทำอะไรให้พวกคุณ "

แม้จะรู้ดี สถานการณ์แบบนี้จะต้องกลัว ไม่ควรพูดอะไรแบบนี้ แต่เธอกลับท้าทายไปถามเขา ผลที่ได้กลับมาคือเสียงแค่นหัวเราะ

" หึ! อยากรู้ว่ามันทำอะไรน่ะเรอะ ก็ปลุกมันขึ้นมาถามซิ เฮ้ย! ทำให้มันฟื้นขึ้นมาหน่อย"

" ไม่! .."

กลายเป็นว่าคำถามของเธอ ทำให้เธอเดือดร้อนเสียเอง เมื่อพวกเขาขยุ้มคอเสื้อของพี่ชายขึ้นมา ง้างมือเตรียมชกลงไปอีกรอบ

หญิงสาวสั่นหน้าเป็นพัลวัน น้ำตาไหลพราก

" ไม่ อย่าทำเขา ฉันไม่อยากรู้แล้ว "

ทิ้งตัวเปลี่ยนจากท่าคุกเข่า เป็นนั่งทับส้นเท้าแทน ทั้งหมดแรง ทั้งยกมือไหว้

คนเหล่านี้ดูน่ากลัวกว่าพวกที่แล้วมาเป็นไหนๆ ภูมิฐานไม่ใช่แค่เจ้าหนี้กระจอกๆ คุมแค่ซอกตรอกซอย แต่นี่พวกเขา..อย่างกับมาเฟีย

" เขาไปติดการพนัน เขาไปยืมตังค์พวกคุณมาใช่ไหม? ฉันขอโทษนะ จะหาคืนให้ แต่ขอร้องเถอะอย่าทำเขาเลย อีกนิดเดียวเขาจะตายอยู่แล้ว"

ขณะนั้นโคลนีคิดว่าอาจจะได้ผล หลังสิ้นสุดคำขอของเธอเห็นเขาเงียบไป เปล่าเลย นั้นยิ่งขยี้ความแค้นให้มีมากยิ่งกว่าเดิม จนนั่งอยู่ไม่ติด จำต้องเดินมาหาเธอ

หญิงสาวชะงักค้างจริงๆ ก็คราวนี้ เมื่อเห็นหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน ตอนที่เขาแหวกลูกน้อง ย่างสามขุมมานั่งชันเข่าตรงหน้า

เขาเหมาะจะเป็นเทพบุตรมากกว่าซาตาน

ยิ่งน้ำเสียงของเขา ยิ่งไม่เหมาะสม มันดูเย็นชาเกินไป และไม่คู่ควร

" เธอกำลังขอร้องฉันหรือ?"

และสายตายามจับจ้องมายังเธอนั้น ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เปรียบเสมือนลำแสงวิเศษบางอย่าง สีขาวเจิดจ้าชวนน่ามอง แต่แสบตาในเวลาเดียวกัน

" หะ ให้ไม่ได้เหรอ?"

ทว่าแลดูดวงตาของเธอจะเหนือกว่าเป็นไหนๆ หากยามนี้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า คือบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง...ที่มีหัวใจ

ไม่ใช่มาเฟีย!

ดูน่ากลัว แม้กระทั่งเสียงพูด ชนิดไม่ต้องปรุงแต่งถ้าใช้เสียงดังขึ้นมาอีกหน่อย ไม่สะดุ้งโหยงหัวใจของเธอก็ต้องหลุดออกมานอกเบ้า

" ไม่ใช่เรื่องเงินเหรอ?"

เพราะมันเป็นสายตาอ้อนวอน ดูน่าสงสารจับใจ ทว่ากลับเป็นท่าทางแลดูน่าสมเพชในสายตามาเฟียหนุ่ม เขายกยิ้ม ส่ายหน้า

" ถ้าอย่างนั้น..เขาไปทำอะไรให้ ถึงได้ซ้อมกันปางตายแบบนี้"

" เธอไม่รู้จริงๆ หรือ..." เลิกคิ้วขึ้นสูง "เธอคงเป็นน้องสาวหัวอ่อนที่ถูกพี่ชายไถเงินทุกวันสินะ "

"....."

" เอาเถอะ ไม่ต้องพูดหรอก เอาเป็นว่าเธอกล้าขอ ฉันก็กล้าให้ ไปถามกันเอาเอง...ฉันจะกลับมาอีกทีอาทิตย์หน้า หวังว่าวันนั้นถ้าเธอเห็นภาพนี้ จะไม่งอแงแบบวันนี้อีก "

" ฮึก.."

" แล้วอย่าหนีล่ะ เพราะสิ่งที่พี่เธอทำหนียังไงก็หนีไม่พ้น.."

ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกไปอย่างง่ายดาย ทิ้งเธอให้อยู่กับพี่ชายตามลำพัง พร้อมความหวาดกลัวสุดขีด เธอก้มลงมองร่างที่ไร้สติข้างกาย ปล่อยโฮหยดน้ำตาไหลแมะลงบนพื้น

" คราวนี้.. ไปทำอะไรเอาไว้อีกล่ะ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะพี่!"