บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ผู้ชายหน้าไม่อาย (2)

อนามิกากลับมายืนหายใจหอบหน้าตาตื่นอยู่ในห้อง ทำให้อรณีที่เดินออกมาหาน้ำดื่มพลอยหน้าตื่นรีบถลาเข้าไปถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง

“ยัยน้องมีอะไรหรือเปล่า ทำไมแกทำหน้าอย่างกับวิ่งหนีใครมาอย่างนั้นแหละ”

อนามิกากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอก่อนจะพยักหน้าแล้วเล่าเรื่องราวให้ฟัง เท่านั้นแหละ อรณีก็จับเพื่อนรักหมุนซ้ายหมุนสำรวจไปทั่วร่างหาสิ่งผิดปกติหรือบุบสลาย

“แล้วนี่แกโดนมันทำอะไรหรือเปล่า”

“ไม่ ฉันกระแทกเข่าใส่ตรงนั้นมันแล้วก็วิ่งหนีมา” อนามิกาตอบเสียงสั่น ก่อนจะเดินตามแรงพยุงของอรณีไปนั่งที่โซฟา หัวใจของเธอยังเต้นรัวราวกับมีกลองนับสิบใบมาตีอยู่ในอก ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องนะ วันศุกร์ที่สอบสามก็ไม่ใช่

“ดื่มน้ำก่อน ดีนะที่แกหนีรอดมาได้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่อยากจะคิด เอาเป็นว่า คราวหน้าคราวหลังถ้าจะออกข้างนอกตอนกลางคืน แกก็ชวนฉันกับคุณหมอไปด้วย ไม่ต้องเกรงใจ เห็นไหมล่ะว่าเกรงใจแล้วเกิดเรื่องจนได้ ที่พูดก็เพราะเป็นห่วงแกจริงๆ หวังว่าแกคงเข้าใจและไม่โกรธนะ”

“ฉันจะโกรธแกทำไม ก็มันเรื่องจริงทั้งนั้นนี่นา เอาเป็นว่า ฉันเข็ดแล้วล่ะ ถ้ามีคราวหน้าถึงแกกับคุณหมอไม่อยากจะไปฉันก็จะลากไปย่ะ” อนามิกาบอกเสียงกลั้วหัวเราะ รู้สึกร่างกายและจิตใจเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ

“ได้อยู่แล้ว เอาละ...ฉันว่าแกไปอาบน้ำนอนพักผ่อนเสียนะ เรื่องอะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ลืมๆ มันเสีย เอ้อ...แล้วเรื่องหาคนมาจดทะเบียนสมรส คุณหมอบอกว่าจะพยายามช่วยนะ แต่ก็คงยากหน่อยเพราะคนโสดก็ไม่ค่อยจะมี แถมแกต้องการจดแค่ชั่วคราวเท่านั้น อย่างไรก็ทำใจให้สบายๆ ก่อนนะเรายังเหลือเวลาอีกระยะหนึ่งแหละ”

“จ้ะ ขอบใจแกมาก และฝากขอบคุณคุณหมอด้วยนะ ในความโชคร้ายฉันก็ยังมีความโชคดีที่ได้มาเจอเพื่อนที่ดีอย่างแกกับคุณหมอ ไปนอนเถอะดึกแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นก็ราตรีสวัสดิ์ ฝันดี...ขอให้ฝันว่ามีงูมารัดนะ จะได้เจอเนื้อคู่ไวๆ เอาเป็นวันพรุ่งนี้มะรืนนี้เลยแล้วกัน” อรณีบอกพลางตบไหล่บอบบางของเพื่อนรักเบาๆ ด้วยสีหน้าทะเล้น

“ขอบใจ แต่ถ้างูไม่รัด ฉันนี่แหละจะรัดมันเอง เอาให้ดิ้นไม่หลุดเลยคอยดู ไปนอนได้แล้วไป ยิ่งคุยยิ่งเลอะเทอะ” อนามิกาดุนหลังเพื่อนรักกลับห้องแล้วเดินกลับเข้าห้องปิดประตูลงพร้อมกับถอนหายใจออกอย่างรู้สึกเหนื่อยไปทั้งใจ เห็นทีพรุ่งนี้เธอคงต้องหาข้อมูลการจ้างผู้ชายอเมริกันสักคนมาจดทะเบียนสมรสเสียแล้วสิ

New York 10.00 AM สำนักงานใหญ่ ดาเวนพอร์ต คอร์ปอเรชั่น

ประตูห้องทำงานของท่านประธานใหญ่อย่างเคเลอร์ วิล ดาเวนพอร์ตที่ตอนนี้ถูกครอบครองโดย เอลีเนอร์ ปุษยา ดาเวนพอร์ต คนเป็นน้องสาวถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของซาร่านางแบบสาวสวยคนดังที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนี้

“ยัยเอลีน ทำไมเธอไม่บอกฉันว่า เคเลอร์หนีไปพักร้อนยาว ฉันต้องมารู้เรื่องจากแม่เลขาฯ หน้าห้องน่ะ” ทันทีที่เจอหน้าซาร่าก็ต่อว่าเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดระคนไม่พอใจพลางถอดแว่นตากันแดดสีชาแบรนด์เนมราคาแพงออก เผยนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนที่ใครๆ หลายคนบอกว่ามันมีเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหล และผู้ชายส่วนใหญ่มักตกเป็นทาสของเธอเพียงแค่ได้สบตา แต่ต้องยกเว้น ‘เคเลอร์’ เป็นกรณีพิเศษ

“ขอโทษทีซาร่า ฉันว่าจะโทร.บอกเธอหลายครั้งแล้ว แต่ฉันก็ลืม เพราะงานฉันยุ่งมาก เธอก็เห็น” เอลีเนอร์พูดพลางผายมือไปที่โต๊ะทำงาน

ตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้ลุกออกจากเก้าอี้ตัวนี้เลย ทุกครั้งที่ได้มาทำงานแทนพี่ชายในช่วงพักร้อน เธอมักจะแอบชื่นชม และทึ่งในความสามารถของพี่ชายอยู่ทุกครั้งไป เพราะเธอได้มารับรู้และสัมผัสว่า งานส่วนนี้มันเป็นงานที่หนัก และเหนื่อยมาก แม้จะมีมือดีอย่างลูคัสมาคอยช่วยเหลือแทบจะทุกเรื่อง เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังเหนื่อยและยุ่งอยู่ดี แล้วพี่ชายของเธอที่อยู่กับมันทุกวี่วันจะเหนื่อยขนาดไหน ดังนั้นเธอจึงไม่คิดจะตำหนิ เมื่อพี่ชายหนีงานไปพักผ่อนยาวปีละสองเดือน กลับรู้สึกว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับภาระหน้าที่ที่พี่ชายของเธอต้องแบกรับเอาไว้

“ฉันไม่ชอบเลย พักร้อนยาวทีไร ฉันโทร.ติดต่อเขาไม่เคยได้ แล้วนี่เธอรู้ไหมว่า เขาไปพักร้อนที่ไหน เผื่อฉันได้ไปถ่ายแบบนอกสถานที่จะได้แวะไปหา”

“ที่...”

“เมืองไทย รู้สึกจะเป็นที่ภูเก็ตอะไรนี่แหละ” เสียงทุ้มจากชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทแบรนด์เนมราคาแพงแทรกขึ้นก่อนที่เอลีเนอร์จะเอ่ยจบ

“มันไม่ใช่...” เอลีเนอร์พยายามจะแย้ง แต่ก็ถูกมือใหญ่ตะปบปากเอาไว้พร้อมกับกระซิบสั่งแกมขู่ให้เธอไปทำงานที่ค้างต่อได้แล้ว

“ตกลงว่าเคเลอร์อยู่ที่ไหนกันแน่” ซาร่ามองตามหลังเพื่อนที่เดินกลับไปทำงานที่โต๊ะแล้วหันมามองหน้าเพื่อนสนิทอดีตคนรักที่เธอไม่ยอมให้เป็นอดีตอย่างต้องการคำตอบ

“ก็อยู่ที่ภูเก็ตอย่างที่ผมบอก แต่มันอยู่ส่วนไหนของภูเก็ต ผมเองไม่รู้เหมือนกัน เพราะมันไม่ได้บอกไว้”

“คุณไม่รู้หรือไม่บอกกันแน่” ซาร่าถามพลางเบ้ปากอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อนักว่า ลูคัสที่เป็นเพื่อนสนิทของเคเลอร์จะไม่รู้ว่าชายหนุ่มพักอยู่ที่ไหน แต่จะง้างปากคนอย่างลูคัสให้พูดในสิ่งที่ไม่อยากพูดคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเธอเลยเบนเข็มไปที่เอลีเนอร์ “แล้วเธอรู้ไหมเอลีน”

“ไม่รู้หรอก พี่เคไม่ได้บอกเอาไว้ เขาคงต้องการความเป็นส่วนตัวเลยไม่ได้บอกใคร” เอลีเนอร์ตอบพลางเหลือบมองเพื่อนของพี่ชายเป็นระยะๆ เพราะเขาขู่เธออยู่เสมอว่า หากเขาเตือนอะไรแล้วเธอไม่ฟัง เขาจะ ‘ปิดปากด้วยปาก’ เธอเป็นสาวเวอร์จิ้นนะ ทำไมจะไม่กลัว

“แล้วฉันจะหาเขาเจอได้อย่างไร มือถือก็ติดต่อไม่ได้” ซาร่าสบถออกมาอย่างหัวเสีย

“เรื่องนั้นคงไม่มีใครช่วยคุณได้หรอก เพราะเราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เหมือนกัน” ลูคัสยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบแฟ้มงานบนโต๊ะทำงานที่เอลีเนอร์นั่งอยู่มาเปิดดูอย่างไม่คิดจะสนใจนางแบบสาวอีกต่อไป

“ถ้าอย่างนั้นฉันกลับล่ะ จะเตรียมตัวบินไปเมืองไทย” เอ่ยจบ ซาร่าก็ลุกจากโซฟาพร้อมกับหยิบแว่นกันแดดสีชาขึ้นมาสวม เอลีเนอร์รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนโดนหลอก แต่ก็น้ำท่วมปากพูดไม่ได้ รีบถลาเข้าไปเกลี้ยกล่อมเพื่อนรักไม่ให้ตกหลุมพรางผู้ชายเจ้าเล่ห์อย่างลูคัส

“เธอจะไปจริงๆ หรือซาร่า ฉันว่าเธออย่าไปเลยนะ เธอไม่รู้ทั้งที่พักและติดต่อพี่เคไม่ได้ ไปถึงที่โน่น เธอจะทำอย่างไร อีกแค่เดือนกว่าๆ พี่เคเขาก็จะกลับมาทำงานเหมือนเดิมแล้ว”

“ไม่ต้องห่วง ถ้าเคเลอร์เขาไปพักผ่อนที่นั่นจริงๆ ฉันตามหาเขาเจอแน่ๆ ไปล่ะ เดี๋ยวถ้าไปถึงเมืองไทยเมื่อไรจะโทร.หานะ”

เอลีเนอร์มองตามร่างสูงโปร่งของเพื่อนจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินลับตาไปพร้อมกับประตูห้องถูกปิดลง และเมื่อได้อยู่ตามลำพัง เอลีเนอร์ก็หันมาแว้ดใส่เพื่อนพี่ชายอย่างไม่พอใจทันที

“ทำไมคุณต้องหลอกให้ซาร่าไปไกลถึงเมืองไทย แล้วทำไมต้องห้ามไม่ให้ฉันบอกว่าพี่เคอยู่ที่ลาสเวกัส”

“แล้วทำไมต้องบอก เธอน่าจะรู้ดีนะว่าไอ้เคมันต้องการความสงบสุขตลอดการพักร้อนยาว แล้วถ้ายัยซาร่าโผล่ไปมันจะเกิดอะไรขึ้น ที่จริงเธอควรเลิกล้มความตั้งใจที่จะจับคู่แม่นางแบบนั่นกับไอ้เคเสียที เพราะมันไม่ชอบ”

“คุณรู้ได้อย่างไรว่าพี่เคไม่ชอบ”

“แล้วทำไมมันต้องชอบ” ลูคัสถามต่ออย่างท้าทาย จะมีใครรู้ใจคนอย่างเคเลอร์ดีไปมากกว่าเขาที่เป็นเพื่อนสนิทกินนอนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเกรดเจ็ดในโรงเรียนประจำ

“ทำไมจะไม่ชอบ ที่สำคัญคุณอย่าลืมสิว่าสองคนนี้เขาเคยคบกันเป็นแฟนมาก่อน”

“ก็แค่เคย และคุณก็อย่าลืมนะว่า สองคนนั้นเลิกกันไปแล้ว ทุกวันนี้มีแต่เพื่อนคุณเท่านั้นแหละที่ยังตามเกาะแกะไอ้เคไม่เลิก ไม่รู้อะไรนักหนา” ลูคัสบ่นอย่างรู้สึกรำคาญแทน

“ก็ซาร่ายังรักพี่เคอยู่นี่ คนเคยรักกันแล้วอยากกลับมาคืนดีกันมันผิดตรงไหนไม่ทราบ” เอลีเนอร์ถามด้วยน้ำเสียงกระแทกแดกดันกลับไปบ้าง

“ก็ไม่ผิดถ้าไอ้เคมันเล่นด้วย แต่นี่มันไม่เล่นด้วย แถมตั้งแต่เลิกกันเพื่อนคุณก็ยังแอบอ้างเป็นแฟนมันตลอด ไม่รู้ว่าจะเรียกหน้า…โอ๊ะ! เอาละ...ผมว่าเราเลิกคุยเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว งานในแฟ้มนี่ผมจะช่วยอ่านให้เอง ถ้าอันไหนที่ต้องผ่านการตัดสินใจหรืออนุมัติจากคุณโดยตรง ผมจะเอามาให้อีกทีแล้วกัน” เอ่ยตัดบทเสร็จร่างสูงก็หอบแฟ้มงานบนโต๊ะกลับห้องตัวเองไปเกินกว่าครึ่ง ทำให้เอลีเนอร์ที่จะอ้าปากจะต่อปากต่อคำกับเขาหุบปากฉับลงทันที อย่างน้อยเขาก็คอยช่วยงานเธอตลอด ครั้งนี้ยกให้อีกครั้งก็แล้วกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel