บทที่5 ซุปเปอร์สตาร์ ลี่เหยาเหยา
“ งั้นเดี๋ยวอีก3วัน ฉันจะมารักษาท่านปู่ลี่ให้นะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้น ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับถุงสมุนไพร
หลังจากเดินออกไปส่งจ้าวเทียนเสร็จแล้ว ลี่เฟยก็ได้กลับมาที่ห้องโถงด้านใน เพื่อที่จะเข้ามาหาปู่กับพี่ชาย
ลี่หวูเฉินตอนนี้กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงไม้ โดยมีท่านปู่ลี่กำลังฝังเข็ม รักษาอาการบาดเจ็บที่แผ่นหลังให้
“ เด็กหนุ่มคนนี้ควบคุมพลังได้ดีมาก ไม่ได้กระทบถึงกระดูกเส้นเอ็นเลย ” ท่านปู่ลี่พูดขึ้นหลังจากที่สำรวจแผ่นหลังของหลานชาย
“ อูย…ปู่ครับเบาๆหน่อย ผมรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อหลังผมโดนฉีกเป็นชิ้นๆเลยตอนนี้ ” ลี่หวูเฉินร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
“ แกอย่ามาทำสำออยไปหน่อยเลย ช่างหน้าขายหน้าจริง คุยโม้ไว้ซะเยอะสุดท้ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว ” ปู่ลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ตอนนี้ในห้องนี้เหลือเพียงแค่ตัวท่านกับหลานทั้งสองคน ส่วนพวกบอดี้การ์ดนั้นได้หลบออกไปหมดแล้ว
“ ปู่ครับ…ปู่มองฝีมือที่แท้จริงของจ้าวเทียนออกไหม ” ลี่หวูเฉินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ลี่เฟยที่พึ่งเข้ามาในห้อง ก็ตั้งใจฟังคำตอบเช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่เธอสงสัยมานานแล้ว
“ ถ้านับจากที่เห็นพละกำลังและความเร็ว คงเป็นนักสู้ระดับ9ขั้นสูงสุดที่สามารถจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ทุกเมื่อ ”
“ เหมือนกับที่ผมคิดไว้เลย ที่จริงตอนแรกผมต้องการออมมือให้ เลยออกแรงไปแค่5ส่วน แต่เมื่อพบว่าผิดท่า ผมก็ตอบโต้อะไรไม่ได้แล้ว ” เขาพยายามนึกถึงความรู้สึกในตอนนั้น
หลังจากที่รู้สึกถึงแรงดึงจากข้อมือ เพียงแค่เสี้ยววินาทีหลังเขาก็กระแทกพื้นอย่างแรง จนแผ่นหลังรู้สึกชาไปหมด ขยับตัวไม่ได้เลย
“ นี่หมายความว่าจ้าวเทียน เขาจะเข้าสู่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญใน3วันได้ใช่ไหมค่ะท่านปู่ ” ลี่เฟยพูดขึ้นอย่างมีความหวัง
“ เรื่องนี้ปู่คงตอบไม่ได้ เพราะการจะเปิดจุดลมปราณได้นั้นมันยากเย็นจริงๆ ตัวปู่เองยังใช้เวลาถึง4ปีเลยทีเดียว ” ท่านปู่ลี่ตอบแบบไม่ค่อยแน่ใจ
“ ว่าแต่ที่น้องบอกพี่ว่าจ้าวเทียน ฝึกฝนมาเพียงสัปดาห์เดียวนี่จริงงั้นเหรอ ” ลี่หวูเฉินถามขึ้นด้วยความไม่เชื่อ ตัวเขากว่าจะถึงขั้นนี้ต้องฝึกหนักมาเกือบ 20 ปีเลยนะ
“ เรื่องนี้ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนจ้าวเทียนยังโดนหลี่ตงรังแกอยู่เลย ตอนฉันเข้าไปช่วย เห็นเพียงจ้าวเทียนถูกเตะต่อยโดยไร้ทางสู้ ตอนนั้นเขายังไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้แน่นอน ”
ท่านปู่ลี่ท่าทางเหมือนครุ่นคิดได้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าท่านก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นก็พูดขึ้น
“ ปู่คิดว่าบางทีจ้าวเทียนอาจจะได้รับเลือก ให้เข้าเป็นศิษย์ของสำนักโบราณ เพราะจากที่ปู่เคยได้ยินมา หากศิษย์คนไหนมีพรสวรรค์สูงส่ง จะได้รับเม็ดยาล้างไขกระดูกทันที ”
!!
“ ปู่หมายถึงยาเม็ดในตำนานที่ทำให้คนธรรมดา กลายเป็นนักสู้ระดับ9ได้ทันทีนะเหรอ มันก็แค่เรื่องหลอกเด็กน่า” ลี่หวูเฉินพูดออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ เขาเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่มีแต่ในภาพยนตร์มาโดยตลอด
“ ไม่งั้นแกจะอธิบายเรื่องพลังฝีมือ ของจ้าวเทียนยังไงล่ะ ” ปู่ลี่ตะคอกกลับไป จนลี่หวูเฉินหดคอด้วยความเกรงกลัว มีโอกาสถึง80%ที่จ้าวเทียนจะเป็นศิษย์ของสำนักโบราณ หรือต่อให้ไม่ใช่ แต่ด้วยพรสวรรค์ขนาดนี้อนาคตย่อมสดใสแน่นอน ตระกูลลี่เราต้องฉวยโอกาสเอาไว้
ตอนนี้แววตาของลี่เฟยนั้นดูมีความมั่นใจขึ้นมาก หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ปู่เธอเล่าให้ฟัง ว่าจ้าวเทียนจะต้องรักษาปู่เธอได้อย่างแน่นอน
…
“ จำไว้นะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ต่อให้อีกสามวันจ้าวเทียนจะไม่สามารถรักษาปู่ได้ก็ตาม ตระกูลลี่เราจะสนับสนุนจ้าวเทียนทุกอย่าง พวกเจ้าสองคนเข้าใจที่ปู่บอกใช่ไหม ” ท่านปู่ลี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เมื่อเห็นหลานทั้งสองรับคำแล้ว เขาก็ได้เดินออกไป
มีบางเรื่องที่เขายังไม่ได้บอกเกี่ยวกับสำนักโบราณ ซึ่งเป็นความลับที่หัวหน้าตระกูลใหญ่ๆรู้กันดี ครั้งหนึ่งเคยมีนายน้อยของตระกูลใหญ่ ไปทำร้ายศิษย์ของสำนักโบราณจนพิการ เพียงแค่สามวันตระกูลนั้นก็ถูกลบหายออกไปจากเมืองนี้ทันที
คนที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายศิษย์ของสำนักโบราณ ถูกฆ่าตายเกือบ30คน ด้วยฝีมือของผู้อาวุโสของสำนักนั้นเพียงคนเดียว แม้กระทั่งผู้คุ้มกันที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้ง2คน ก็ถูกฆ่าตายโดยไร้ทางสู้ นั่นคือความน่ากลัวของขอบเขตปรมาจารย์
ต่อให้ตัวเขาต้องตกตายไป แต่ถ้าหากสามารถได้จ้าวเทียนเป็นมาเสาหลักของตระกูลลี่ เขาก็จากไปแบบหมดห่วง
“ ไม่ได้การแล้วนังหนูลี่เฟยนิสัยเหมือนผู้ชายเกินไป จ้าวเทียนคงไม่สนใจ ” ท่านปู่ลี่พึมพำออกมาเบาๆ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดไปที่เบอร์หนึ่ง
ตู้ด ตู้ด!
“ สวัสดีค่ะคุณปู่ ” เสียงทักทายของหญิงสาวดังขึ้นจากโทรศัพท์
“ แค่กๆ…ปู่แค่อยากได้ยินเสียงหลานนะ ” ท่านปู่ลี่แกล้งไอออกมาเล็กน้อย
“ !! ปู่เป็นอะไรรึป่าวค่ะ….ตอนนี้ปู่อยู่ที่ไหนค่ะ ” เสียงหญิงสาวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เรื่องโรคประจำตัวของปู่ลี่นั้นทุกคนในตระกูลต่างรู้ดี
“ ปู่ไม่เป็นอะไร แค่กๆ …เหยาเหยาตอนนี้หลานอยู่ที่ไหน ” ปู่ลี่ถามขึ้น แกล้งไอเหมือนอาการบาดเจ็บกำเริบ
“ ตอนนี้หนูถ่ายโฆษณาอยู่ที่ฝรั่งเศสค่ะ…คุณปู่ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหมค่ะ ” เสียงหญิงสาวมีท่าทีกังวลเล็กน้อย
“ อีกสามวัน แค่กๆ…หลานกลับมาหาปู่ได้ไหม ” เสียงของปู่ลี่ดูสั่นเครือเล็กน้อย พร้อมทั้งไอเสียงดัง
เสียงจากปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมา
“ ตกลงค่ะ…หนูจะรีบกลับไปหาคุณปู่นะค่ะ ” เธอตอบด้วยเสียงที่แสดงถึงความห่วงใย
จากนั้นท่านปู่ลี่คุยกับหลานสาวต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะวางสายไป ใบหน้าของท่านมีรอยยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับคิดขึ้นในใจ
‘ จ้าวเทียนเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกลเช่นนี้ จะปล่อยให้ตระกูลอื่นแย่งไปไม่ได้เด็ดขาด ’
ณ โรงแรม5ดาวในฝรั่งเศส
ภายในห้องสูทสุดหรู มีหญิงสาวใบหน้างดงาม ผิวพรรณของเธอขาวนวลเนียนเหมือนกับเปล่งประกายออกมา ด้วยรูปร่างที่ผ่านการดูแลเอาใจใส่มาอย่างดี ทำให้เป็นขวัญใจของหนุ่มๆมากกว่าครึ่งประเทศ
ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนโซฟารับแขกด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย เธอรีบกดโทรศัพท์โทรหาญาติผู้น้องของเธอทันที
*( เสี่ยวแปลว่าน้อยเป็นคำเรียกแบบสนิทสนม) *
“ เสี่ยวเฟยอาการของปู่เป็นยังไงบ้าง…เล่าให้พี่ฟังหน่อย ” ลี่เหยาเหยารีบถามน้องสาว
หลังจากที่ผ่านไป10นาทีเธอก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด ตอนนี้ปู่ของเธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่เดือนเดียว ทำให้เธอเสียใจมาก
ตัวเธอนั้นรักและเคารพคุณปู่มาก เมื่อ5ปีก่อนตอนที่เธอตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อทำตามความฝัน พ่อกับแม่ของเธอต่างก็ค้านหัวชนฝา จนกลายเป็นเรื่องใหญ่
มีแต่เพียงปู่ของเธอคนเดียวที่เข้าใจและสนับสนุนเธออย่างเต็มที่ จนเวลานี้เธอทำตามความฝันเธอได้สำเร็จ มันก็มีผลมาจากความรักความเมตตาที่ปู่เธอมอบให้
เธอได้เรียกผู้จัดการส่วนตัวมาให้ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศจีนทันที โชคดีที่การถ่ายทำทุกอย่างนั้นเสร็จหมดแล้ว เหลือเพียงแค่งานเลี้ยงฉลอง และพบเจอผู้มีอำนาจ ซึ่งเธอได้ยกเลิกทั้งหมด ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปู่ของเธอ
‘ จ้าวเทียนฉันขอให้นายรักษาคุณปู่ให้ได้นะ ’ เธอคิดขึ้นด้วยความคาดหวัง
…
“ ฮัดเช่ย!”
จ้าวเทียนจามออกมาเสียงดัง
“ แปลก…ร่างกายฉันแข็งแรงขนาดนี้แล้วจะเป็นหวัดได้ไง ” เขาบ่นออกมาเบาๆ
ตอนนี้เขากำลังเดินกลับห้องเช่าของเขากับน้องสาว ระหว่างได้ผ่านย่านการค้าที่มีคนกำลังเดินซื้อของมากมาย เพราะอยู่ในช่วงเวลาตอนเย็น
เขามองไปที่ป้ายโฆษณาขนาด20เมตร ที่ติดอยู่บนตึกสูง
“ หญิงสาวคนนี้งดงามมาก ทัดเทียมกับหญิงสาวที่แดนสวรรค์เลย บนโลกมนุษย์มีคนสวยขนาดนี้ทำไมฉันไม่รู้จัก ” เขาพูดขึ้นด้วยความชื่นชม หลังจากที่ลองนึกย้อนไปค้นหาความทรงจำในอดีต ไม่นานเขาก็ได้คำตอบ
เวลานั้นตัวเขามอบความรักให้กับคู่หมั้นของเขาซุยหลิงเพียงคนเดียว โดยไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นเลยตลอด4ปี และก็เพราะเหตุนั้นเองหลังจากที่โดนผู้หญิงคนนั้นหักหลัง มันจึงกลายเป็นความทรงจำอันเลวร้ายสำหรับเขา
ตอนนี้พอมาลองเปรียบเทียบระหว่าง หญิงสาวที่อยู่บนป้ายโฆษณากับอดีตคู่หมั้นของตนเอง ความแตกต่างมันช่างเหมือนแสงจันทร์กับหิ่งห้อย เพียงแต่ในตอนนั้นตัวเขาตาบอดเพราะความรัก มองซุยหลิงเป็นเหมือนเทพธิดาที่สูงส่งกว่าหญิงสาวคนอื่น
‘ รอก่อนเถอะจางถงกับซุยหลิง พวกแกจะต้องเสียใจ ’
“ หืม…ลี่เหยาเหยา ” มองชื่อที่อยู่บนป้ายโฆษณา เขารู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นมาก เหมือนว่าจะเคยได้ยินลี่เฟยเล่าให้ฟัง ว่าลูกพี่ลูกน้องเธอเป็นดารา แต่เขาก็จำชื่อไม่ได้
“ ช่างเถอะ…มันก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้ว”
ผ่านไป10นาที ตอนนี้เขาเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่เป็นแหล่งของห้องเช่าราคาถูก หลังจากที่เดินมาถึงตัวห้องเช่าเก่าๆที่เขาอาศัย ก็ได้ยินเสียงผู้ชายคุยกัน
“ พี่ฉีเราจะทำจริงๆเหรอพี่ ” เสียงที่ดูคล้ายเด็กหนุ่มถามขึ้น
“ เออสิวะ…ได้ทั้งเงินได้ทั้งสาว หรือแกไม่เอา ” เสียงของชายวัยกลางคนตอบ
“ โห..เอาสิพี่แต่ผมกลัวตำรวจมากกว่า ”
“ ฮ่า ฮา ไม่ต้องกลัว…พอเสร็จเรื่องเราก็จัดการปิดปากมันสิวะ ข้าทำมาเยอะแล้ว แถวนี้มันย่านสลัมมีคนสูญหายเป็นเรื่องปกติ ถ้าจัดการศพดีๆไม่มีใครรู้หรอก ” เสียงชายวัยกลางคนหัวเราะขึ้นอย่างชั่วร้าย
“ งั้นจัดการเลยพี่…ผมเล็งนังหนูนี่มานานแล้วอายุแค่13-14 แต่สวยอย่างกับนางฟ้า ”
!!
เมื่อจ้าวเทียนเดินขึ้นบันไดมาถึงชั้นที่เขาอยู่ ก็พบว่าหน้าห้องของเขามีผู้ชายสองคน กำลังพยายามงัดห้องเขาอยู่ ซึ่งวันนี้น้องสาวของเขานั้นไม่สบาย จึงนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง
ความโกรธเกรี้ยวของเขาระเบิดออกมาทันที เมื่อคิดไปถึงสิ่งที่พวกมันคุยกัน
“ พวกแกมันสมควรตาย ”