บทย่อ
การย้อนเวลาของจักรพรรดิเทพแห่งแดนสวรรค์ ในโลกที่เต็มไปด้วยการต่อสู้แย่งชิงของตระกูลใหญ่ เปิดศึกกับซูเปอร์ฮีโร่ในตำนานทั่วโลก " พวกเจ้า...ช่างอ่อนแอยิ่งนัก"
บทที่1 มหาเทพจุติ
“ ข้าคือราชันสวรรค์ผู้ปกครองทั้งเก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดิน มหาเทพตี้เทียน ”
“ ทุกสรรพสิ่งต้องดับสูญและถือกำเนิดตามเจตจำนงแห่งเต๋าสวรรค์อย่างเท่าเทียม ”
“ ไม่มีข้อยกเว้น! ”
…
จนกระทั่ง..
เปรี้ยง ! ตูม!
เสียงแห่งความพินาศของแดนสวรรค์สูงสุดดังก้องไปทั่ว กองทัพกบฏนับล้านได้ปะทะกับกองทัพเทพสวรรค์อย่างดุเดือด เขตอาคมป้องกันหลายสิบชั้นแตกสลายกลายเป็นฝุ่น
เก้าท้องฟ้าทรยศ…
สิบแผ่นดินทรยศ…
กองทัพกบฏรุกคืบอย่างรวดเร็วด้วยความร่วมมือจากขุนนางสวรรค์ที่แปรพักตร์ จนพระราชวังสวรรค์อันยิ่งใหญ่พังทลายเป็นเศษซาก
บนสนามรบแห่งดวงดาวเหนือแดนสวรรค์ บุรุษผู้หนึ่งในชุดจักรพรรดิสีทองกำลังกำลังต่อสู้กับเทพอสูรผมสีแดงอย่างดุเดือด ทุกครั้งที่กระบี่และหอกเข้าปะทะกันทำให้ดวงดาวหลายสิบดวงระเบิดเป็นจุล
เนื่องจากทั้งสองสู้กันด้วยร่างทิพย์แห่งเทพเจ้า ซึ่งมันมีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากกว่าดวงดาวนับสิบเท่า จึงทำให้ต้องออกมาต่อสู้กันนอกแดนสวรรค์
“ ยอมจำนนได้แล้วมหาเทพตี้เทียน…พวกข้าชนะแล้ว! ” เทพอสูรผมแดงพูดขึ้น หอกของเขาแทงออกอย่างดุดัน มืออีกข้างคว้าจับไปที่ดาวดวงหนึ่งแล้วบีบเบาๆ ดาวดวงนั้นก็สลายกลายเป็นละอองแสงเข้าไปในร่าง ช่วยฟื้นฟูบาดแผลที่ได้รับ
“ ชะตาสวรรค์ห้ามฝ่าฝืน วันนี้พวกเจ้าต้องถูกทำลายสิ้น ” มหาเทพตี้เทียนพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา กระบี่ของเขายังคงฟาดฟันอย่างรวดเร็ว ทำให้จักรพรรดิแห่งท้องฟ้าทั้งเก้าคน ที่ลอบโจมตีกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง และได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
ฟิ้ว!
ลูกธนูเก้าดอกเปลี่ยนเป็นมังกรดำเก้าตัว พุ่งเข้าใส่ด้านหลังของมหาเทพตี้เทียนด้วยความรวดเร็ว มันทะลุสนามพลังเทพเจ้า และปักเข้าไปที่กลางหลังของมหาเทพ หยดเลือดสีทองพุ่งออกมาเป็นสาย
แววตาอันเย็นชาของมหาเทพทอประกายขึ้น เขาใช้กระบี่ราชันสวรรค์แทงใส่ปลายหอกของเทพอสูรผมแดงอย่างรุนแรง จนหอกถูกเบี่ยงกระเด็นออกไป
จากนั้นหมุนตัวชกหมัดไปยังจุดที่ขุนพลเทพผู้ทรยศที่ยิงธนูลอบโจมตี กำปั้นขนาดยักษ์สีทองระเบิดพลังทำลายล้างออกมา เพียงชั่วพริบตาเดียวดวงดาวนับร้อยที่อยู่ในเส้นทางที่กำปั้นนั้นพุ่งผ่านไป ถูกทำลายกลายเป็นฝุ่นผงทันที
ขุนพลเทพราชันธนูเก้ามังกร พยามที่จะถอยหนีแต่ก็ถูกผนึกด้วยกฏเกณฑ์มิติเทพเจ้า จึงทำได้แค่ยกธนูเก้ามังกรขึ้นมาป้องกันไว้เบื้องหน้าเท่านั้น
ตูม! แคร่ก!
ธนูเก้ามังกรอาวุธระดับเทพเจ้า หักออกเป็นสองส่วน ขุนพลเทพได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ บัญชาแห่งสวรรค์ ควบคุมสรรพสิ่งเหตุใดจึงฝ่าฝืน! ” น้ำเสียงอันเย็นชาของมหาเทพดังขึ้น มันเป็นเสียงเฉยชาไร้ความรู้สึก ไม่มีทั้งความโกรธหรือเกลียดในน้ำเสียงแม้แต่น้อย
“ สวรรค์ของเจ้า ไม่อาจควบคุมข้า ”
เสียงตระโกนแห่งความโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมาจากด้านหลังของมหาเทพ
ฉึก!
คมหอกสีแดงแทงทะลุอกซ้ายออกมา เลือดสีทองสาดกระจายไปทั่ว
เพล้ง!
บางสิ่งที่ถูกผนึกเอาไว้ในจิตวิญญาณของมหาเทพตี้เทียนถูกทำลาย ความทรงจำในอดีตอันไกลโพ้นถูกปลดผนึกออก ร่างของมหาเทพตี้เทียนสั่นสะท้านอย่างแรง
ใบหน้าที่เคยเย็นชาไร้อารมณ์อยู่ตลอดเวลา กลับมีน้ำตาหยดหนึ่งไหลซึมออกมาจากหางตา
แปะ!
น้ำตาหยดนั้นตกลงไปบนคมหอกที่แทงทะลุ ภาพความทรงจำมากมายที่เคยถูกผนึกเอาไว้ในส่วนลึกสุดของจิตวิญญาณ ระเบิดออกมาจากน้ำตาหยดนั้น
“ นี่…เจ้าคือ ” เทพอสูรผมแดงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะน้ำตาหยดนั้นที่ตกลงมายังปลายหอกของเขา ทำให้ได้รับรู้ถึงความทรงจำของมหาเทพตี้เทียนที่ถูกผนึกไว้
เขาจึงพยายามที่จะดึงหอกออกมา เพื่อที่จะช่วยชีวิตมหาเทพตี้เทียนเอาไว้
หมับ!
แต่มืออันแข็งแกร่งได้คว้าจับคมหอกเอาไว้ ไม่ให้ถูกถอนออกไป
!!
“ ไม่ต้องหรอก…” เสียงนิ่งสงบออกมาจากมหาเทพ เมื่อผนึกถูกทำลายเขาก็ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง อารมณ์ความรู้สึกก็ฟื้นคืนกลับมา
“ แต่พวกเราสามารถร่วมมือกันได้ ” เทพอสูรผมแดงพูดขึ้น ในตอนนี้เขาได้รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว รวมไปถึงศัตรูที่แท้จริงอันน่าหวาดกลัว หากได้ความช่วยเหลือจากมหาเทพตี้เทียนจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมาก
…
ร่างทิพย์ของมหาเทพได้สลายเป็นละอองอย่างช้าๆ มือที่จับหอกเอาไว้ก็ดึงกลับไป คมหอกสีแดงจึงถูกถอนออกไปในที่สุด
แต่เวลานี้มันก็ได้สายไปแล้ว เพราะพลังทำลายล้างในคมหอกมันได้ทำลายดวงวิญญาณของมหาเทพไปแล้ว
มหาเทพตี้เทียนได้มองลงไปยังความพินาศของแดนสวรรค์เบื้องล่าง เขาเห็นกองทัพของเก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดินที่โห่ร้องในชัยชนะ โดยมีกองทหารบางส่วนกำลังเร่งมือช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ
หากเขายังมีชีวิตอยู่สงครามมันจะอาจจะปะทุขึ้นมาอีก การที่เขาดับสูญไปในเวลานี้มันคงจะดีที่สุดแล้ว
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังทองฟ้าเบื้องบน ดวงตาเขาทอประกายสีทองข้ามผ่านแม่น้ำแห่งดวงดาว ทะลุม่านหมอกแห่งกาลเวลา ที่นั่นเขาเห็นภาพดวงตาขนาดใหญ่ เท่ากับกาแล็กซี่ แววตาเขาได้เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที
“ เจ้าเพียงแค่รอ…เต๋าสวรรค์จอมปลอม...ข้าจะกลับมาทำลายเจ้า ” เสียงของมหาเทพตี้เทียนดังขึ้น ก่อนที่ร่างทิพย์ของเขาจะสลายหายไป
…
“ ข้าก็จะรอเจ้ากลับมาเช่นกัน…สหาย ” เสียงของเทพอสูรผมแดงพูดขึ้นเบาๆ เขามองไปยังทะเลดวงดาวเบื้องบน ตรงที่ตำแหน่งของศัตรูที่แท้จริง
วูป!
…
เฮือก! แสงสว่างอันเจิดจ้า ทำให้ดวงตาของเขาค่อยๆเปิดขึ้น
“ นี่ข้า…กลับมาได้จริงๆ” เพราะความทรงจำที่ถูกผนึกระเบิดออกมาก่อนตาย จึงทำให้มันตราตรึงอยู่ในสมอง เหมือนกับว่ามันพึ่งผ่านไปได้ไม่นาน
เขามองไปทางป้ายหลุมศพเบื้องหน้า ด้วยความเศร้าสร้อย มันเป็นเวลาเกือบแสนปีที่เขาอยู่ในแดนสวรรค์
“ พ่อครับ…ผมกลับมาแล้ว ” เขานั่งลงเอามือสัมผัสไปป้ายหลุมศพด้วยความอ่อนโยน น้ำตาหลายหยดค่อยๆไหลออกมา
วิ้ง! แคร่ก!
แหวนสีทองที่สวมอยู่บนนิ้วชี้ข้างขวาของเขา แปร่งแสงสีทองออกมาแล้วแตกสลายกลายเป็นฝุ่น
“ คงต้องขอบคุณท่านจริงๆท่านอาจารย์ ” เขาได้นึกถึงอาจารย์ของเขา ที่ได้ใช้เต๋าอันยิ่งใหญ่ต่อต้านสวรรค์เพื่อทำนายถึงอนาคตของเขา
ในตอนนั้นก่อนที่ร่างกายของท่านจะถูกสายฟ้าสวรรค์ทำลายไป ก็ได้มอบแหวนวงนี้ไว้ให้ พร้อมกับบอกไว้ว่าเมื่อถึงเวลาเขาจะรู้เองว่าควรใช้อย่างไร
“ มันได้ย้อนเวลากลับมา…ในวันฉันที่จะถูกฆ่าตาย ” เขาค่อยๆเช็ดน้ำตาแล้วยืนขึ้นเงยหน้ามองไปยังแสงของพระอาทิตย์เบื้องบน
“ ตอนนี้ฉันชื่อจ้าวเทียนสินะ มหาเทพตี้เทียนคือชื่อในแดนสวรรค์ ”
“ น่าจะยังพอมีเวลาอีกซักครึ่งชั่วโมง กว่าพวกมันจะมา ”
“ พอดีเลยฉันจะได้เรียนรู้เคล็ดวิชาจากมหาเทพยุคโบราณ ที่พบจากคลังลับจักรพรรดิสวรรค์” ตอนที่เขาได้ช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ มาจากมหาเทพคนก่อน ในคลังลับของมหาเทพคนนั้น เขาได้เจอเคล็ดวิชาหมื่นตะวัน ซึ่งมันทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ
แต่มันต้องเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ขั้นรวมลมปราณ ด้วยความที่ไม่อยากฝึกฝนใหม่ตั้งแต่ต้น จึงได้ท่องจำเคล็ดวิชาเอาไว้ แล้วทำลายตำราเล่มนั้นทิ้งไป
จ้าวเทียนได้นั่งลงทำสมาธิ ท่ามกลางแสงจากดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง พลังงานความร้อนได้ถูกดูดซึมผ่านทางผิวหนัง มันได้เข้าไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเผาทำลายสารพิษตกค้างทั้งหมด
รูปร่างที่ดูผอมบางของจ้าวเทียน เริ่มมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันดูสมส่วนไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
ผ่านไป30นาที
“ นี่ฉันสำเร็จขั้นแรกแล้วเหรอ มันช่างรวดเร็วจริงๆ คงเป็นเพราะประสบการณ์ฝึกฝนที่ผ่านมาเป็นแสนปีละมั้ง ” จากที่จะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ กลับเสร็จในสามสิบนาที
“ เอาละ…มันคงได้เวลาแล้ว ” เขาได้ลุกขึ้นยืน ขยับแขนไปมาเล็กน้อยแล้วเดินออกไปทางหน้าสุสาน
บรื้น! บรื้น!
เสียงรถมอเตอร์ไซด์สิบกว่าคัน ขับตรงมาหยุดยังหน้าทางเข้าสุสาน ตรงด้านหน้าของจ้าวเทียนพอดี
“ สวัสดีนายน้อยจ้าว มาเยี่ยมศพพ่อเหรอ ” เสียงหัวหน้ากลุ่มนักเลงดังขึ้น เขาถือไม้เบสบอลลงมาจากรถ พร้อมกับลูกน้องอีกสิบกว่าคน
“ ใช่ที่ไหนกันละลูกพี่ ครอบครัวมันล้มละลายไปแล้ว ขนาดเงินรักษาพ่อมันเองยังไม่มีเลย ”
ฮ่า ฮา ฮ่า
“ อ่าว…งั้นตอนนี้มันก็เป็นแค่เศษสวะตัวหนึ่งสินะ ” เจ้าหัวหน้ากลุ่มเดินมาถ่มน้ำลายลงตรงหน้าจ้าวเทียนด้วยสีหน้ายียวน
“ หลี่ตงเมื่อก่อนตอนนายถูกจับ พ่อฉันก็เป็นคนช่วยเหลือ วันนี้ทำไมนาย…” จ้าวเทียนพูดขึ้นแต่ก็โดนขัดขึ้น
“ หุบปากไปเลย…นั่นมันเรื่องในอดีตแล้ว ตอนนี้แกมันไปขัดหูขัดตาคุณชายจางเข้า วันนี้อย่าหวังว่าจะได้เดินกลับไปเลย ” หลี่ตงยกไม้เบสบอลขึ้นหวดไปที่ใบหน้าของจ้าวเทียนทันที วันนี้เขารับเงินคุณชายจางมาแล้ว ต้องจัดการจ้าวเทียนให้ปางตาย
หมับ!
มือของจ้าวเทียนจับไปที่ไม้เบสบอลที่ฟาดเข้ามาอย่างแรง เขาออกแรงบีบจนไม้เบสบอลที่ทำจากเหล็กยุบลงไปเป็นลอยนิ้วมือ
“ นั่นสินะ…มันเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ”
“ เพราะงั้นตอนนี้….ก็ถึงเวลากำจัดขยะ” หลังพูดจบ จ้าวเทียนก็ลงมืออย่างดุดันทันที
เขากระชากไม้เบสบอลออกจากมือของหลี่ตง แล้วถีบไปที่ใบหน้าของมันอย่างแรง
จนมันกระเด็นไปไกลเกือบสิบเมตร ดั้งจมูกหักเบี้ยวไปด้านข้าง ฟันหน้าหลายซี่กระเด็นออกมา
“ ไอบัดซบนี่…เล่นมันเลย” ลูกน้องสิบกว่าคนของหลี่ตง ถืออาวุธวิ่งใส่จ้าวเทียนทันทีเมื่อเห็นลูกพี่โดนถีบ
อาวุธมากมาย ทั้งไม้เบสบอล มีด โซ่เหล็ก ต่างฟาดใส่เป้าหมายเดียวคือจ้าวเทียน แต่มันก็ทำได้แค่เฉียดออกไปด้านข้างเท่านั้น
ด้วยเทคนิคการต่อสู้ของเขา นักเลงพวกนี้มันอ่อนแอเกินไป ทุกหมัดที่เขาชกออกไปจะได้ยินเสียงกระดูกแตกหักอยู่เสมอ
ผ่านไปเพียง5นาที นักเลงสิบกว่าคนก็ได้ลงไปนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้นหมดแล้ว จ้าวเทียนได้เดินไปหาหลี่ตง ที่ตอนนี้นั่งมองภาพด้านหน้าด้วยความไม่เชื่อสายตา ว่าทำไมคนอ่อนแออย่างจ้าวเทียนถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
เปรี้ยง!
เท้าจ้าวเทียนเตะไปลำตัวของหลี่ตงอย่างรุนแรง เสียงกระดูกหักดังออกมาพร้อมกับร่างของหลี่ตงที่กลิ้งไปชนกับกำแพง จนกระอั่กเลือดออกมาคำนึง
.
” ไว้ชีวิตด้วยพี่จ้าว…ได้โปรดผมสำนึกผิดแล้ว ” หลี่ตงได้คลานมาเอาหัวโขกพื้นให้จ้าวเทียนหลายทีด้วยความหวาดกลัว น้ำตาและน้ำมูกของมันไหลเป็นทาง
ตุบ!
เท้าของจ้าวเทียนได้เหยียบไปบนหัวของหลี่ตง จนใบหน้าของมันแนบสนิทไปกับพื้น เขาก้มดูคนที่เคยซ้อมเขาจนตายในอดีต ด้วยสีหน้าแปลกๆจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา
เอาเถอะหากเขาฆ่ามันตาย จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเอาได้ ตอนนี้ตัวเขายังอ่อนแอเกินไป หากมีตำรวจมายุ่งมันจะกระทบต่อแผนการแก้แค้นของเขา
อีกเหตุผลคือตัวการที่สั่งฆ่าเขาจริงๆคือจางถง มันได้แย่งคู่หมั้นเขาไปไม่พอ ยังสั่งคนให้มารังแกดูถูกเหยียดหยามเขาทุกวัน ชายชั่วหญิงเลวคู่นั้น วันนี้มันถึงกับต้องการให้เขาตาย
.
” เอาเงินทั้งหมดของพวกแกออกมา…อย่าเล่นลวดลายไม่งั้น ” จ้าวเทียนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน ตั้งแต่ครอบครัวเขาล้มละลายและพ่อเขาเสียชีวิตลง
จ้าวเทียนกับน้องสาวต้องออกมาใช้ชีวิตอยู่ในห้องแถวเล็กๆด้วยความยากลำบาก ตอนนี้สิ่งที่เขาขาดที่สุดก็คือเงินนี่เอง
ยิ่งถ้าหากต้องการฝึกวิชาขั้นต่อไป ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อที่จะซื้อสมุนไพรมาทำเป็นยา
“ สองแสนหยวน…พวกแกนี่รวยกันจริงๆ” จ้าวเทียนบ่นออกมาเบาๆ ในกระเป๋าเขายังมีไม่ถึงร้อยหยวนเลย
เมื่อมองเห็นหลี่ตงที่ถูกลูกน้องหามกลับไป เขาก็ส่ายหน้าเล็กน้อย ลุกเตะของเขาเมื่อกี้ได้ทำกระดูกสันหลังมันไปแล้ว ต่อไปมันก็ต้องนอนอยู่บนเตียงเหมือนคนไร้ค่าตลอดชีวิต นี่เป็นบทลงโทษที่เขาคิดว่าเหมาะสมกับมันที่สุดแล้ว
ในวันนั้นหลังจากที่จ้าวเทียนถูกซ้อมจนตาย วิญญาณก็ได้ถูกดึงไปที่แดนสวรรค์โดยอาจารย์ของเขา ตอนนั้นเขาได้เลือกที่จะผนึกความทรงจำอันแสนโหดร้ายของตัวเองไว้ แล้วใช้ชีวิตใหม่ในชื่อ ตี้เทียน
แต่ก็เพราะการเลือกผนึกความทรงจำนั้นเอง มันกลับกลายเป็นจุดอ่อนทำให้ถูกเต๋าแห่งสวรรค์ควบคุมเป็นหุ่นเชิด ต้องทำตามคำสั่งของมันทุกอย่าง
แต่ครั้งนี้เขาได้กลับมาแล้ว ก่อนที่จะกลับขึ้นไปแดนสวรรค์อีกครั้ง เขาจะต้องลบจุดอ่อนทั้งหมดทิ้งไป
พวกแกทั้งหลาย จะต้องชดใช้อย่างสาสม…