บทที่ 8 ข่าวคราวของลูกสาว
“คุณอาครับ คุณหนูทั้งสอง พวกคุณอย่ากังวลไป!” ลู่เยว่ประคองเสิ่นชิวหนานขึ้นมา
“คุณน้าเพียงแค่เลือดลมพลุ่งพล่านเกินไปหน่อยจึงสลบไปเท่านั้น ให้ท่านกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องก็จะหายได้เองครับ”
“นายรีบไปเถอะ รีบไปจากหยุนเฉิง” รอจนฉินหงหยวนกับลูกสาวพยุงเสิ่นชิวหนานเข้าไปในห้องแล้ว ฉินหยู่ซินก็มองไปยังหลิงห้าว
“ไม่อย่างนั้น ถ้าซุนหมิงเทาฟื้นขึ้นมาแล้วเขาจะต้องไม่ปล่อยนายไปแน่!”
“หยู่ซิน เรื่องของหรุ่ยหรุ่ยยังพูดไม่จบเลย คุณลองคิดให้ละเอียดสักหน่อย ช่วงนี้ได้มีเรื่องผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า?” หลิงห้าวไม่ได้ตอบคำกับเธอ
“ตระกูลซุนเป็นตระกูลใหญ่อันดับสองของหยุนเฉิง นายสู้กับพวกเขาไม่ได้หรอก นายรีบหนีไปเถอะ...” ฉินหยู่ซินสะอื้นไห้ขึ้นมา
“หยู่ซิน คุณอย่ากังวลไปเลย ผมรับรองว่าจะไม่เป็นอะไร หรุ่ยหรุ่ยเธอ...” หลิงห้าวพูดต่อ
“ตกลงนายฟังฉันพูดรู้เรื่องไหมเนี่ย! นายรีบหนีไปเถอะ ไม่อย่างนั้นนายจะตายนะ...” ฉินหยู่ซินร้องตะโกนเสียงดัง
“หยู่ซิน คุณใจเย็น ๆ ก่อน อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องของตระกูลซุน!” หลิงห้าวเสียงดังขึ้นหลายเดซิเบล “หรุ่ยหรุ่ยไม่มีเวลาให้ยืดอยู่มากแล้วนะ!”
“คุณคิดละเอียด ๆ ช่วงนี้พวกคุณได้ไปที่ที่แปลก ๆ ที่ไหนบ้างไหม!?”
“ไม่มีนะ ไม่ได้ไปที่ไหน...” ฉินหยู่ซินหยุดร้องไห้
เธอเห็นว่าโน้มน้าวหลิงห้าวไม่ได้แล้ว จึงไม่ได้ยืนหยัดต่อไป
แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค ก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นมา ดวงตาสว่างวาบ
“ถ้าจะต้องพูดว่าผิดปกติ ก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แปลกอยู่นิดหน่อย”
“เรื่องอะไร!?” หลิงห้าวถามขึ้นในทันที
“ไม่กี่วันก่อนหรุ่ยหรุ่ยไม่ทันละวังจึงหกล้ม ฉันพาลูกไปทำแผลที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าคุณหมอจะตรวจกลุ่มเลือดให้กับลูกด้วย”
ฉินหยู่ซินคิดอยู่เล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อ “ถ้าพูดตามปกติ แค่ทำแผลธรรมดา ๆ ไม่น่าจะต้องตรวจกลุ่มเลือดด้วย”
“อีกอย่าง ฉันเห็นในลิ้นชักของคุณหมอยังมีรายงานผลกลุ่มเลือดของเด็กหลาย ๆ คนอยู่ด้วย!”
“หืม!?” ได้ยินเรื่องพวกนี้แล้ว หลิงห้าวกับลู่เยว่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกัน ในใจของทั้งสองคนเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
“โรงพยาบาลอะไร หมอชื่ออะไร?ท” หลิงห้าวหยุดไปพักหนึ่งแล้วเอ่ยถามต่อ “คุณรีบพาผมไปเร็ว!”
“อื้ม!” หลังจากที่ฉินหยู่ซินได้คิดไตร่ตรองแล้วก็พยักหน้า
บรื้น!
สองนาทีผ่านไป ลู่เยว่ก็เหยียบคันเร่งลงไป
โรงพยาบาลที่ฉินหยู่ซินพูดถึงคือโรงพยาบาลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางเขตธุรกิจที่สองของหยุนเฉิง
ระยะทางที่ห่างจากบ้านของฉินหยู่ซินครึ่งชั่วโมง ลู่เยว่ใช่เวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาทีก็จอดรถอยู่ที่ประตูของโรงพยาบาลแล้ว
หลังจากที่ทั้งสามลงจากรถก็พุ่งเข้าไปที่บันได
“ห้องของเขาหมายเลข 406!” ฉินหยู่ซินเดินไปด้วยพูดไปด้วย สีหน้าซีดเผือดในทันที ทั้งร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด
เธอในตอนนี้ดูเหมือนจะคาดเดาความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมาได้อย่างราง ๆ เป็นไปได้มากว่าหรุ่ยหรุ่ยจะถูกคนจับตัวไปเปลี่ยนถ่ายอวัยวะแล้ว!
ปัง!
ทั้งสามคนมาถึงที่ประตูห้องหมายเลข 406 ลู่เยว่ยกฝ่ามือขึ้นซัดออกไป ประตูห้องทำงานก็แตกกระจายดังสะเทือนเลื่อนลั่น
“สารเลว พวกแกเป็นใครวะ!?”
คุณหมอคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของตัวเองตกใจ ยกมือขึ้นชี้พวกของหลิงห้าวสามคนแล้วตะโกนเสียงดัง
“ใช่เขาไหม?” หลิงห้าวหันไปมองทางฉินหยู่ซิน
“อื้ม!” ฉินหยู่ซินพยักหน้า
“พวกแกเป็นใครกันแน่ จะทำอะไร? ถ้ายังไม่พูดอีกผมจะเรียกรปภ.!” คุณหมอตะโกนเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
กร๊อบ ๆ!
เพิ่งจะสิ้นเสียง ลู่เยว่ก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้วคว้าข้อมือของเขาเอาไว้แล้วออกแรงบิด ข้อมือของฝ่ายตรงข้ามปรากฏให้เห็นเป็นรูปเกลียวทันที ดึงต่ำลงมา
“อ๊าก...” คุณหมอร้องขึ้นอย่างน่าเวทนา
“ฉันจะถามแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่พูดความจริงฉันจะส่งแกไปลงนรก!” หลิงห้าวมาอยู่ข้างหน้าแล้วเอ่ยเสียงต่ำ
บนร่างกายปล่อยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวออกมาในเวลาเดียวกัน ในชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั้งตัวคุณหมอ
ตึง!
ภายใต้อำนาจกดดันระดับนี้ คุณหมอก็รู้สึกราวกับตกอยู่ในนรกในทันที ราวกับถูกปีศาจร้ายมองอยู่รอบ ๆ ขาทั้งคู่อ่อนจนทรุดลงไปบนพื้น
“คะ... คุณอยากจะถามอะไรครับ...” อ้าปากพูดคำไม่กี่คำอย่างยากลำบาก
ปึง!
ลู่เยว่มาอยู่ตรงข้างโต๊ะทำงานของเขา ดึงลิ้นชักออกมาแล้วก็เอาเอกสารข้อมูลสิบกว่าชุดด้านในออกมาโยนเอาไว้บนพื้น ทั้งหมดล้วนแต่เป็นรายงานกลุ่มเลือดของเด็ก ๆ
เห็นรายงานของหรุ่ยหรุ่ยที่อยู่ในนั้นด้วยแล้ว น้ำตาของฉินหยู่ซินก็ร่วงลงมาอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้ง
ส่วนคุณหมอมองดูข้อมูลที่อยู่บนพื้นแล้ว ทั้งร่างก็สั่นสะท้านรุนแรงกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่ารู้แล้วว่าพวกของหลิงห้าวมาด้วยเรื่องอะไร
“แกกำลังทำงานให้ใครอยู่? เด็กที่มีความเข้ากันได้ถูกใครจับตัวไปแล้ว?” หลิงห้าวเอ่ยถามเสียงเย็น
“เป็น... เป็นคนของพี่ฮุยหล่างบังคับให้ผมทำ...” คุณหมอไม่ปิดบังใด ๆ
“ใคร?” หลิงห้าวถามอีกครั้ง
“เขา... เขาเป็นหนึ่งในลูกน้องคนสำคัญทั้งสี่ที่อยู่เคียงข้างคายสี่ ระ...เรื่องนี้น่าจะเป็นคุณชายสี่มอบหมายมา...” คุณหมอเอ่ยปากอย่างยากลำบาก
“คุณชายสี่ไหน?” ในสายตาของหลิงห้าวสาดประกายเย็นเยียบผ่านไป
“ตะ...ต้วนซื่อไห่...” คุณหมอตอบอย่างยากลำบาก “ขะ... เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ที่ทรงอิทธิพลใต้ดินของหยุนเฉิง...”
ตึง!
เพิ่งจะสิ้นเสียง หลิงห้าวก็สับมีดพกลงไปบริเวณลำคอของเขา คุณหมอตาเหลือสลบอยู่กับที่
“เอาตัวไป!” หลังจากที่หลิงห้าวพูดจบแล้วก็หันกลับไปมองฉินหยู่ซิน “หยู่ซิน คุณกลับไปรอผมที่บ้านก่อน ผมจะไปช่วยหรุ่ยหรุ่ย!”
“ฉันจะไปด้วยกันกับนาย!” ฉินหยู่ซินยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นแบบไหน คุณไปแล้วจะเป็นอันตราย” หลิงห้าวตอบเสียงต่ำ “เชื่อผมนะ ผมจะช่วยชีวิตหรุ่ยหรุ่ยกลับมาให้ได้!”
“ไม่ได้ ฉันจะต้องไปด้วย!” บนใบหน้าของฉินหยู่ซินปรากกสีหน้าความหนักแน่นขึ้นมา
กริ๊ง ๆ!
ยังไม่ทันสิ้นเสียง โทรศัพท์ที่ตัวก็ดังขึ้นมา เธอหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นสายที่โทรมาจากน้องสาวของตนเอง
“เสี่ยวเฟย มีเรื่องอะไร?” หลังจากที่กดรับแล้ว ฉินหยู่ซินก็เอ่ยปากถาม
“พี่คะ พี่กับหลิงห้าวรีบหนีไป รีบหนีไปจากหยุนเฉิง คนของตระกูลซุนกำลังตามหาพวกพี่ไปทุกที่...” ฉินหยู่เฟยตะโกนออกมาเสียงดัง
แป็ก!
ยังไม่ทันพูดจบ ปลายสายก็มีเสียงโทรศัพท์ตกลงที่พื้นส่งออกมา
“อ้า...” ตามมาด้วยเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกของฉินหยู่เฟยในเวลาเดียวกัน
“เสี่ยวเฟย เสี่ยวเฟย...” ฉินหยู่ซินตะโกนออกมาเสียงดัง
“ถ้าไม่อยากให้คนในครอบครัวของแกเกิดเรื่อง รีบพาไอ้แซ่หลิงนั่นกลับมา ฉันจะรอแกที่บ้านของแก!” ปลายสายส่งเสียงของผู้ชายวัยกลางคนออกมา
“หลังจากหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถ้ายังไม่เห็นแกกับไอ้แซ่หลิงนั่นโผล่หัวออกมา เตรียมเก็บศพของคนในครอบครัวของแกได้เลย!”
สิ้นเสียง อีกฝ่ายก็กดวางโทรศัพท์ไปทันที
“หยู่ซิน เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลิงห้าวขมวดคิ้วถาม
“อ้า...” ฉินหยู่ซินส่งเสียงตะโกนออกมาอย่างปวดร้าวหัวใจ
มือทั้งคู่ดึงทึ้งเส้นผมของตัวเอง บนใบหน้ามีสีหน้าเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด เธอมาถึงขอบของการพังทลายแล้ว
“หยู่ซิน คุณอย่าทำอย่างนี้!” หลิงห้าวกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกแน่น “บอกผมมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ผมช่วยคุณ...”
“ฉันไม่ต้องการให้นายมาช่วยฉัน!” ฉินหยู่ซินผลักหลิงห้าวออกไปแรง ๆ
จากนั้นก็ร้องไห้หนักพลางร้องตะโกนว่า “นายรีบไป นายรีบไปจากหยุนเฉิงซะ อย่ามาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉันอีก...”
“เป็นเพราะนายทั้งหมด ทั้งหมดล้วนแต่เป็นนายที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แม่ของฉันพูดถูก นายเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาลงโทษพวกเราทั้งครอบครัว...”
หลังจากที่พูดจบแล้วก็หันหลังวิ่งออกไปจากห้องทำงาน
“ตามไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!” หลิงห้าวสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วมองไปยังลู่เยว่
“นอกจากนี้ ให้คนหาตำแหน่งของต้วนซื่อไห่แล้วส่งมาให้ในมือถือของฉัน!”
“รับทราบครับ!” ลู่เยว่พยักหน้าแรง ๆ แล้วตามออกไป