บทที่ 7 ละอายใจไม่มีที่สิ้นสุด
“พวกแกสองคนอยู่กันที่นี่จริง ๆ ด้วย!” ชายเจ้าชู้ชี้ไปที่พวกของหลิงห้าวสองคนพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“กูบอกไปแล้วนะว่าจะต้องให้พวกมึงได้รู้ถึงจุดจบของการแตะต้องกู!”
“วันนี้ถ้าไม่ได้ถลกหนังมึงออกมา ก็อย่ามาเรียกกูว่าซุนหมิงเทาเลย!”
“รู้จักกันเหรอ?” หลิงห้าวกวาดตามองอีกฝ่ายทีหนึ่ง แล้วหันไปมองลู่เยว่
หน้าของชายเจ้าชู้แทบจะเปลี่ยนรูป แค่ไม่นานเขาก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร
“คุณชายใหญ่ตระกูลซุน!” ลู่เยว่ยักไหล่
“นายควรลงมือให้มันหนัก ๆ หน่อย” มุมปากของหลิงห้าวกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปพูดใส่ซุนหมิงเทาเสียงต่ำ
“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาเล่นกับแก ถ้าไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปซะ ไม่อย่างนั้นก็รอรับผลเอาเอง!”
“คุณ... คุณคือคุณชายเทา!?” หลังจากคนไม่กี่คนสนทนากันแล้ว ฉินหยู่เฟยก็ร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงดาวของหยุนเฉิง นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนกล้าต่อยตีจนคุณชายใหญ่ตระกูลซุนจนกลายเป็นแบบนี้ นี่คืออยากตายเหรอ!?”
ตระกูลซุนเป็นถึงตระกูลอันดับสองของหยุนเฉิงเชียวนะ!
ซุนหมิงเทาเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลซุน ปกติเวลาไปไหนก็มีแต่คนเงยหน้ามอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้
หลังจากได้ยินคำพูดของฉินหยู่เฟยแล้ว ฉินหงหยวนและภรรยาก็จำซุนหมิงเทาได้ สีหน้าตกตะลึงอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบเช่นเดียวกัน
“คุณชายเทา คะ...ใครทำให้คุณเป็นแบบนี้คะ?” เสิ่นชิวหนานลากประตูเหล็กออกแล้วก็เดินก้าวเร็ว ๆ ออกมา
“ถามลูกสาวของตัวเองสิ!” ซุนหมิงเทาตอบด้วยความเดือดดาล
“มะ... หมายความว่ายังไง!?” เสิ่นชิวหนานตะลึงไปเล็กน้อยแล้วหันไปมองฉินหยู่ซิน “หยู่ซิน ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“คุณน้า ไม่ต้องถามแล้วครับ ผมทำเอง!” หลิงห้าวเอ่ยเรียบ ๆ
“หา!?” ฉินหงหยวนกับภรรยาร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ฉินหยู่เฟยที่อยู่ข้าง ๆ ร้องออกมาอย่างตกตะลึง
แน่นอนว่าทั้งสามคนคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของหลิงห้าว หมดคำพูดเลยจริง ๆ!
“ฉันขอเตือนพวกแก ไม่ว่าไอ้หมอนี่จะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัวของพวกแก!” ซุนหมิงเทามองปยังเสิ่นชิวหนานแล้วตะคอกเสียงดังต่อ
“เรื่องของวันนี้ ถ้าไม่อธิบายให้ฉันพึงพอใจ ฉันจะจัดการกับครอบครัวของพวกแกไปด้วยกันเลย!”
“คะ... คุณชายเทา คะ... คุณอย่าเพิ่งโกรธ ฉะ... ฉันจะรีบให้เขาโขกหัวขอโทษคุณเอง” เสิ่นชิวหนานสั่นสะท้านไปทั้งตัว
หลังจากนั้นก็รีบหันไปยังหลิงห้าว “ยังอึ้งอะไรอยู่อีก ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษคุณชายเทาอีกเหรอ?”
“ตัวแกอยากรนหาที่ตายก็อย่ามาทำให้พวกเราต้องซวยไปด้วย!”
“แม่คะ พวกเรามาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นแล้วค่ะว่ากันไหมคะ?” ฉินหยู่เฟยพูดอยู่ข้าง ๆ
“แกกลับห้องไป ที่นี่ไม่มีเรื่องที่แกต้องยุ่ง” เสิ่นชิวหนานจ้องเธออย่างดุดัน
“พี่คะ เขาเป็นคนทำคุณชายเทาจริง ๆ เหรอคะ?” ฉินหยู่เฟยไม่ได้สนใจมารดาของตัวเอง
“อื้ม!” ฉินหยู่ซินมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาซับซ้อน
ชี๊ด!
ฉินหยู่เฟยสูดไอเย็นเข้าไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ฉินหยู่เฟย ให้แกกลับห้องแกไม่ได้ยินเหรอ?” เสิ่นชิวหนานตะโกนเสียงดังออกมา
จากนั้นก็หันไปตะคอกใส่หลิงห้าวอีกครั้ง
“แกจะทำร้ายพวกฉันไปจนถึงเมื่อไหร่? ครอบครัวพวกเราถูกแกทำร้ายจนน่าสมเพชพอแล้ว แกจะเอายังไงถึงจะปล่อยพวกเราไปได้?”
“ต่อให้ชาติที่แล้วครอบครัวของพวกเราติดค้างแกเอาไว้ ห้าปีมานี้ก็น่าจะชดใช้จนหมดแล้วมั้ง!”
พูดมาจนถึงจุดที่ฮึกเหิมก็คุกเข่าให้กับหลิงห้าวไปตรง ๆ แล้วก็ร้องไห้ออกมาในเวลาเดียวกัน
“ขอร้องล่ะ ถือซะว่าฉันขอร้อง แกรีบไปโขกหัวขอขมาคุณชายเทาเสีย อ้อนวอนให้เขายกโทษให้แก!”
“ครอบครัวของพวกเรารับความทรมานมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว หรือว่าแกอยากจะเห็นพวกฉันตายไปจริง ๆ เหรอ?”
“คุณน้าครับ คุณอย่าทำอย่างนี้ รีบลุกขึ้นมาครับ!” หลิงห้าวคิดไม่ถึงว่าอยู่ดี ๆ อีกฝ่ายจะคุกเข่าให้กับเขา เขารีบดึงเธอขึ้นมา
เห็นท่าทางของครอบครัวของเสิ่นชิวหนานแล้ว ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็แดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง ในใจมีความละอายใจเพิ่มขึ้นมาไม่มีที่สิ้นสุด
ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาจริง ๆ!
“เชี่ย! พวกแกเล่นละครกันจบหรือยัง?” ซุนหมิงเทาเอ่ยเสียงเดือดดาล จากนั้นก็มองไปยังหลิงห้าว
“ไอ้หมอนี่ กูไม่มีเวลาจะมาสิ้นเปลืองอยู่ที่นี่กับมึงนะ!”
“ถ้าไม่อยากทำให้ครอบครัวของพวกมันลำบากไปด้วย รีบทำลายแขนหับขาของตัวเองอย่างละข้างซะ ฉันจะเห็นแก่หน้าของหยู่ซินแล้วปล่อยพวกมันไป!”
“ไม่อย่างนั้นละก็ ตั้งแต่พรุ่งนี้ทั้งครอบครัวของพวกมันก็อย่าได้คิดจะอยู่ในหยุนเฉิงเลย!”
“คะ.. คุณชายเทา พวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับเขาจริง ๆ นะคะ ขอร้องคุณล่ะ ไว้ชีวิตพวกเราเถอะ...” เสิ่นชิวหนานตะโกนออกมาอีกครั้ง
“คุณน้า คุณอย่ากังวลไปเลยครับ มีผมอยู่ เขาไม่กล้าทำอะไรกับพวกคุณแน่ครับ” หลิงห้าวพูดจบแล้วก็หันไปมองยังซุนหมิงเทา “แกแน่ใจเหรอว่าจะไม่ไป?”
“ยังมีเวลาอีกหนึ่งนาที ถ้าแกยังไม่ทำลายแขนขาของตัวเองอีก ฉันจะให้คนไปทุบบ้านของพวกมันทิ้ง” ซุนหมิงเทาไม่ได้ตอบรับคำพูดของหลิงห้าว
“อย่านะ...” เสิ่นชิวหนานรีบหันไปปิดประตูบ้าน
“เขาชอบหักแขนหักขาคนขนาดนั้น นายก็ทำให้เขาสมหวังเถอะ!” หลิงห้าวมองลู่เยว่ “คนอื่น ๆ ทำลายแขนข้างหนึ่งแล้วไล่ไป!”
“รับทราบครับ!” ลู่เยว่ที่หักห้ามใจตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่แรกยกมือขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าไปทางฝ่ายตรงข้าม
กร๊อบ ๆ ๆ!
นาทีต่อมา บริเวณทางเดินก็มีเสียงกระดูกหักดังขึ้นมาในทันที เสียดหูเป็นพิเศษ
ชายชุดดำแต่บะคนยังตั้งสติไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เห็นแค่เงาเหงาหนึ่งวาบผ่านตัวเองไป หลังจากนั้นแขนข้างหนึ่งของตัวเองก็ห้อยลงจากไหล่ของตัวเอง มีดที่อยู่ในมือก็ตกลงไปบนพื้นจนหมด
“อ๊าก...” ถัดจากนั้น เสียงร้องอย่างน่าเวทนาก็ดังทะลุทั้งอาคารเหมือนกับโรงฆ่าสัตว์อย่างไรอย่างนั้น
ไม่ถึงสองนาที ซุนหมิงเทานำคนทั้งหมดขดตัวร้องโหยหวนไม่หยุดอยู่บนพื้น
อา!
พอเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้ว ทั้งครอบครัวของฉินหยู่ซินก็อ้าปากค้างอยู่กับที่ แต่ละคนตะลึงตาค้าง
เวลาเพียงชั่วพริบตา นึกไม่ถึงว่าคนมากมายขนาดนั้นจะถูกหักแขนหนึ่งข้างกันจนหมด?
นี่ถ่ายหนังกันอยู่เหรอ!?
คนที่มีท่าทางโอเวอร์ที่สุดอย่างฉินหยู่เฟย ในดวงตามีประกายกระตือรือร้นสุด ๆ วาบึ้นมาเหมือนได้ดูหนังฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
“มึง... มึงจะทำอะไร กู... กูขอเตือนมึง ถะ... ถ้ามึงยังกล้าทำอะไรกูอีก ตะ... ตระกูลซุนไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่...”
มองลู่เยว่ที่เดินมาทางตัวเองแล้ว ซุนหมิงเทากันสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาภายหลังนิด ๆ ถ้ารู้ว่าไอ้หมอนี่สู้เก่งขนาดนี้เขาน่าจะพาคนมาที่นี่เยอะ ๆ หน่อย
กร๊อบ! กร๊อบ!
เขายังพูดไม่ทัน และก็ไม่เห็นว่าลู่เยว่ลงมืออย่างไร หลังจากที่เสียงกังวานผ่านไป ซุนหมิงเทาก็นอนอยู่บนพื้นแล้ว แขนและขาข้างหนึ่งถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว
“อ๊าก...” เสียงร้องอย่างน่าเวทนาเหมือนเป็นโรคประสาทผ่านพ้นไปแล้ว ดวงตาทั้งคู่ของซุนหมิงเทาก็เหลือกขึ้น เขาสลบไปในทันที
“นะ... นึกไม่ถึงเลยว่าแกจะทำลายแขนและขาข้างหนึ่งของเขาไปตรง ๆ อย่างนี้จริง ๆ?” เสิ่นชิวหนานสั่นสะท้านไปทั้งตัว จ้องมองไปทางด้านหน้าพลางพูดพึมพำด้วยอาการตะลึงตาค้าง
“จบสิ้นแล้ว นี่... นี่มันจบสิ้นแล้วจริง ๆ... ตระกูลซุนจะต้องไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่...”
“พวกเราตายแน่ ๆ... พวกเราคงต้องตายกันจริง ๆ แล้ว...”
ตึง!
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ดวงตาทั้งคู่ก็เหลือกขึ้นแล้วเป็นลมล้มพับลงไปบนพื้นเหมือนกับซุนหมิงเทา
“ชิวหนาน!”
“แม่!”
ฉินหงหยวนกับฉินหยู่ซินและน้องสาวร้องด้วยความตกตะลึงออกมาพร้อมกัน