บทที่ 9 จักรพรรดิใต้ดินแห่งหยุนเฉิง
โครม!
สิบนาทีให้หลัง หลิงห้าวที่ได้รับข้อความแล้วก็โยนหมอเข้าไปในรถ ขับรถไปยังจุดหมาย
กริ๊ง ๆ!
ขับรถไปได้ไม่ถึงสิบนาที โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา
“พูด!” กดปุ่มรับสายแล้วหลิงห้าวก็เอ่ยเสียงต่ำ
“ท่านเจ้าหน้าที่อาวุโส ผมคือจางหมิ่นห้าว ค้นหาตัวตนของสี่คนที่ลักพาตัวหรุ่ยหรุ่ยไปแล้วครับ” ปลายสายมีเสียงของจางหมิ่นห้าวส่งออกมา
“เรื่องในครั้งนี้น่าจะเป็นคนของต้วนซื่อไห่มาให้เขาลงมือครับ...”
“ฉันรู้แล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่ภัตตาคารเทียนห่าย อีกเดี๋ยวนายจัดคนไปเก็บกวาดให้ด้วย!” หลิงห้าวตัดบทอีกฝ่าย
หลังจากพูดจบแล้วก็วางสายไปทันที ออกแรงเหยียบคันเร่งไปจนสุด
ภัตตาคารเทียนห่าย หนึ่งในภัตตาคารระดับสูงสุดของหยุนเฉิง!
ในเวลาปกติคนที่มารับประทานอาหารถ้าไม่ร่ำรวยก็ต้องสูงศักดิ์ ไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปสามารถมาใช้จ่ายเงินได้โดยเด็ดขาด
วันนี้ตั้งแต่ตอนบ่าย ทางภัตตาคารก็ปฏิเสธลูกค้าที่มาที่หน้าภัตตาคารทั้งหมด
เหตุผลคือวันนี้คุณชายสี่จะจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่นี่
แขกที่มาหน้าร้านที่เดิมทียังมีคำพูดที่คับแค้นใจอยู่ พอได้ยินคำว่าคุณชายสี่ก็รีบหุบปากแล้วจากไป
คุณชายสี่ ในหยุนเฉิงคำนี้เป็นคำที่แค่พูดถึงคนก็หวาดกลัวขึ้นมาแล้ว!
อย่าว่าแต่คนธรรมดา ๆ เลยต่อให้เป็นคนในตระกูลใหญ่ไม่กี่ตระกูลในหยุนเฉิงก็ยังต้องไว้หน้าเขา!
หกโมงเย็น ห้องโถงของภัตตาคารมีคนมากมายจอแจแล้ว คึกคักไม่ธรรมดา
นอกจากคนในโลกใต้ดินของหยุนเฉิงแล้ว ทุกตระกูลใหญ่ก็ล้วนแต่ส่งคนมามอบของขวัญอันมีค่าให้ เพียงเพื่อให้หลีกเลี่ยงการสงสัยก็เท่านั้น หลังจากส่งของขวัญแล้วก็ทยอยกันจากไป
หกโมงแปดนาที ไมบัคคันหนึ่งจอดลงตรงประตูภัตตาคาร จากนั้นก็เห็นว่าต้วนซื่อไห่เดินเข้ามาภายในห้องโถงภายใต้การติดตามของลูกน้องคนสำคัญทั้งสี่
“ขอให้คุณชายสี่มีความสุขดั่งทะเล อายุยืนยาวราวภูเขา!” ตะโกนเสียงดังพร้อม ๆ กัน เสียงดังกึกก้อง
“ขอบคุณพี่น้องทุกคนครับ แก้วนี้ผมขอดื่มเพื่อคารวะ!”
ต้วนซื่อไห่เดินมาถึงข้างโต๊ะที่อยู่ตรงกลางสุด ยกแก้วเหล้าขาวขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วในทีเดียว
“คารวะคุณชายสี่!” ทุกคนยกแก้วขึ้นมาพร้อมกัน
เย่!
ในตอนนี้เอง ก้อนสีขาวก้อนหนึ่งก็ปลิวเข้ามาอย่างรวดเร็วจากทางหน้าประตูภัตตาคาร ก็คือคุณหมอที่สลบไปแล้ว
ตึง!
พุ่งลงไปกระแทกลงตรงกลางโต๊ะ ไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง อาหารกระเซ็นไปทั่ว
สิบคนที่โต๊ะหลักรวมต้วนซื่อไห่อยู่ในนั้นด้วย บนตัวของแต่ละคนล้วนแต่เรี่ยราดเลอะเทอะ
ขวับ!
มองเห็นภาพนี้แล้ว สายตาของคนทุกคนก็มองไปทางประตูในเวลาเดียวกัน บนใบหน้าล้วนแต่เป็นสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
นึกไม่ถึงว่าจะมีใครกล้ามาก่อเรื่องในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณชายสี่ด้วย?
นี่คืออยากจะตายแล้วใช่ไหม!?
ตึง ๆ ๆ!
ร่างสูงยาวร่างหนึ่งปรากฏตัวอยู่ที่ประตู บนใบหน้าไม่มีสีหน้าใด ๆ เลย เดินด้วยจังหวะฝีเท้าที่มั่นคงมาทางโต๊ะหลัก
ดวงตาของต้วนซื่อไห่หรี่ลงน้อย ๆ จ้องมองไปยังคนที่มา ภายใต้ความเดือดดาลอย่างถึงที่สุด ทำให้ใบหน้าของเขากระตุกขึ้นน้อย ๆ
แต่ว่าประสบการณ์หลายปีจากทุกหนทุกแห่งทำให้เขาไม่ได้กำเริบอะไรออกไป หยิบซิการ์ที่อยู่บนโต๊ะอันหนึ่งขึ้นมาสูดเข้าไปเต็มปอดหนึ่งที
ตั้งแต่หลังจากที่เขานั่งอยู่บนบัลลังก์จักรพรรดิใต้ดินของหยุนเฉิง ก็ไม่เคยพบเจอกับคนที่ยั่วยุเขาเช่นนี้อีกเลย!
นี่คือไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยเลยนี่!
เขาเกิดความแปลกใจอย่างเข้มข้นกับฐานะของผู้ที่มา ที่จริงแล้วเป็นคนแบบไหนกันนะถึงกล้าได้ถึงขั้นนี้!?
“รนหาที่ตาย!”
หลังจากที่ในห้องโถงใหญ่เงียบสงัดไปทั่วแล้ว คนสามสี่ร้อยคนก็ขยับกันขึ้นมาทั้งหมด ทยอยกันพุ่งไปทางหลิงห้าว เสียงโห่ร้องท่วมฟ้า พลังที่ออกจากผู้คนสาดซัดอย่างรุนแรง
ฟึ่บ ๆ ๆ!
นาทีต่อมา ทั้งห้องโถงใหญ่ก็เหมือนกับเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ในอากาศล้วนแต่เป็นเงาคนที่ปลิวกลับหัวกลับหางออกไป ในเวลาเดียวกันก็ปรากฏเป็นลำเลือดนับไม่ถ้วน
โครมคราม ๆ!
โต๊ะเก้าอี้แต่ละตัวถูกทุบจนพลิกคว่ำอยู่บนพื้น เงาแต่ละร่างขดอยู่บนพื้น ร้องอย่างเจ็บปวดไม่หยุด
ไม่ถึงสามนาที นอกจากสิบคนที่อยู่ข้าง ๆ โต๊ะหลักแล้ว คนอื่น ๆ นับร้อยล้วนแต่นอนนิ่งกันอยู่บนพื้น ไม่ตายก็พิการ เรี่ยราดไปทั่ว
อา!
คนที่โต๊ะหลักสิบคน นอกจากต้วนซื่อไห่แล้ว ทุกคนก็ล้วนแต่ร่วงลงที่พื้นกันทั้งหมด หน้าตาเหมือนเห็นผีตอนกลางวันแสก ๆ
แคก ๆ ๆ!
ต้วนซื่อไห่สำลักซิการ์จนน้ำตาไหล มือที่คีบซิการ์อยู่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ บนใบหน้าปรากฏความหวาดผวาอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้ขึ้นมา
คนคนเดียว ล้มลูกน้องนับร้อยของตนเองได้ในสามนาที!
นี่มันอะไรกัน?
เกินขอบเขตความรู้ของเขาไปแล้ว!
หยุนเฉิงมีผู้แข็งแกร่งระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?
“เชี่ย มึงมันไม่รู้จักที่ตาย!” ไม่นาน เสียงเสียงหนึ่งก็ดังมาจากโต๊ะหลัก
ปัง ๆ ๆ!
ถัดจากนั้น ลูกน้องคนสำคัญสี่คนก็ล้วง Desert Eagle บนร่างออกมาเหนี่ยวไกใส่หลิงห้าว ลูกกระสุนยิงออกไปราวกับห่าฝน
แก๊ง ๆ ๆ!
สิ่วที่ทำให้เขาหมดหวังก็คือ ตอนที่กระสุนอยู่ห่างจากหลิงห้าวไม่กี่เซนติเมตรก็ทยอยร่วงลงไปบนพื้นเหมือนชนเข้ากับกำแพงอย่างไรอย่างนั้น เกิดเป็นเสียงดังกังวานขึ้นมา
ฟู่!
หลิงห้าวยกมือขึ้นมาโบกตามใจ คลื่นพลังอันบ้าคลั่งกลุ่มหนึ่งก็ม้วนโต๊ะหลักกลิ้งออกไป
ตึง ๆ ๆ!
นอกจากต้วนซื่อไห่แล้ว อีกเก้าคนก็ล้วนแต่ถูกพลิกออกไปกลางอากาศ หลังจากตกลงมากระแทกพื้นแล้วก็กระอักเลือดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
บนใบหน้าของแต่ละคนล้วนแต่มีความหวาดผวาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
กระสุนยังเข้าใกล้ร่างกายเขาไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งถึงระดับนี้!?
นี่ยังเป็นมนุษย์ปกติอยู่ไหม!?
ตุบ!
ต้วนซื่อไห่ล้มลงไปกองกับพื้น สีหน้าซีดเผือดในทันที เหงื่อเย็นหลั่งออกมาทั้งร่าง
ตนเองไปยุแหย่ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ตั้งแต่เมื่ไหร่กัน?
“กะ... แกเป็นใคร?” รอจนหลิงห้าวมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ต้วนซื่อไห่ก็เอ่ยปากออกมาอย่างยากลำบาก
“ใครคือฮุยหล่าง!” เสียงของหลิงห้าวเยียบเย็นเสียดกระดูก
“กะ... แกจะทำอะไร?” ฮุยหล่างที่นอนอยู่บนพื้นเอ่ยปากออกมาอย่างยากลำบาก
“จำเอาไว้ ฉันจะถามแค่ครั้งเดียว!” หลิงห้าวกวาดตามองเขาหนึ่งที “หรุ่ยหรุ่ยถูกคนของแกจับไปไว้ที่ไหนแล้ว?”
“หรุ่ยหรุ่ยไหน? ฉัน... ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่...”
ในสายตาของฮุยหล่างและต้วนซื่อไห่ปรากฏความลุกลี้ลุกลนขึ้นมา
ฟู่!
ยังไม่ทันสิ้นเสียงของฮุยหล่าง ลมพายุลูกหนึ่งก็ซัดออกมาจากฝ่ามือของหลิงห้าว
เหมือนกับคลื่นความกดอากาศสูงปะทะเข้ามาในใจของเขา หมอกเลือดกลุ่มหนึ่งกระจายออกมา
ฮุยหล่างอ้าปากอย่างยากลำบาก ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว ล้มลงไปเสียชีวิตสิ้นลมหายใจ
ซี๊ด!
ต้วนซื่อไห่สูดไอเย็นเข้าไปอย่างรุนแรง
พูดไม่ถูกต้องหนึ่งคำแลกกับหนึ่งชีวิต โหดร้ายยิ่งกว่าเขาที่ปนเปอยู่ในโลกใต้ดินเป้นร้อยเท่า
“แกยังมีโอกาสครั้งสุดท้ายอยู่!” จากนั้นหลิงห้าวก็มองไปยังต้วนซื่อไห่ “ทางที่ดีอย่าท้าทายกับความอดทนของฉันจะดีกว่า!”
“เป็น... เป็นเหลยหงคุน นายท่านตระกูลเหลยที่ให้ฉันช่วยหลานสาวของเขาตามหาหัวใจที่เข้ากันได้ หรุ่ยหรุ่ยที่แกพูดถึงจับคู่กับหลานสาวของเขาได้สำเร็จ ดังนั้น...”
มองดูสภาพสยดสยองของฮุยหล่างที่อยู่ข้าง ๆ แล้ว ต้วนซื่อไห่ก็ไม่เหลือศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย เขารีบตอบ
“ตระกูลเหลย ตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งแห่งหยุนเฉิง?” หลิงห้าวตัดบทสนทนาของเขา
“ชะ... ใช่...”
“ตอนนี้หรุ่ยหรุ่ยอยู่ที่ไหน?”
“สะ... ส่งไปที่วิลล่าตระกูลเหลยแล้ว...” ต้วนซื่อไห่มีท่าทางเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไป “เธอ... ตอนนี้ได้...”
“แกอยากจะพูดอะไร!?” ได้ยินคำพูดของต้วนซื่อไห่แล้ว ในใจของหลิงห้าวก็มีความกระวนกระวายที่รุนแรงพุ่งขึ้นมา เลือดลมในหัวใจแปรปรวนขึ้นลง
“ระ... โรงพยาบาลของหยุนเฉิงไม่ได้มีฝีมือการเปลี่ยนถ่ายหัวใจ...” ต้วนซื่อไหเอ่ยอย่างยากลำบาก
“สองชั่วโมงก่อนหน้านี้ นะ... นายท่านเหลยได้พาหรุ่ยหรุ่ยไปเมืองเจียงห่ายด้วยตัวเองแล้ว หลานสาวของเขารอทำการผ่าตัดที่เจียงห่ายมาโดยตลอด...”
“คาดว่าอย่างมากก็ยังมีอีกหนึ่งชั่วโมงก็จะไปถึงห้องผ่าตัดแล้ว... ตะ... ต่อให้แกไล่ตามไปตอนนี้กะ... ก็คงจะไม่ทันแล้ว...”
บึ้ม!
ยังไม่ทันสิ้นเสียงของเขา พลังที่แฝงไว้ด้วยพลังงานล้นฟ้าก็ระเบิดออกมาจากร่างของหลิงห้าว ทำลายฟ้าและดิน!