เหตุใดถึงไม่ระวังเช่นนี้
จ้าวเจ๋อหยวนไม่รอให้ชิงหลิงนางพูด เขาอุ้มจ้าวเยี่ยนที่กินนมเสร็จเรียบร้อยแล้วขึ้นแนบอก เดินไปที่เรือนของตระกูลโจวทันที
ชิงหลิงนางจึงเก็บถ้วยชามไปล้าง แล้วไปจัดการงานที่เหลือต่อ
ยังดีที่ในห้องครัวมีเตาอยู่สองเตา นางจึงสามารถตุ๋นกลีบเหมยกุ้ย และต้มโซดาไฟเพื่อทำสบู่พร้อมกันไปได้เลย
นางเลือกใช้วิธีกวนร้อน โดยนางนำโซดาไฟที่ทำไว้ ตวงสองถ้วย น้ำเปล่าหกถ้วย แล้วขึ้นต้ม กวนจนเข้ากัน จะได้น้ำด่างเพื่อนำมาทำสบู่
เมื่อน้ำด่างที่ได้มีอุณหภูมิลดลงแล้ว ชิงหลิงนางน้ำมันเหมยกุ้ยที่ทำไว้ ประมาณสิบหกถ้วยตวง นางนำน้ำมันเทลงไปในน้ำด่างที่เตรียมไว้แล้วคนไปเรื่อยๆ จนมีลักษณะเหนียวข้น จึงนำมาเทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้
ระหว่างที่ชิงหลิงนางกำลังคนน้ำด่างที่ทำในขั้นตอนแรกอยู่นั้น จ้าวเจ๋อหยวนที่ไปส่งจ้าวเยี่ยนก็กลับมาถึงพอดี
“มาข้าช่วย” ชิงหลิงไม่ได้ยินเสียงที่เดินเข้ามาในครัวของเขา
เพราะนางกำลังคิดเรื่องอัตราส่วนของที่นางจะต้องใช้อยู่ จึงทำให้เผลอปล่อยทัพพีในมือทิ้งลงไปในหม้อที่ใช้กวนน้ำด่าง
“โอ๊ยย” น้ำด่างที่กำลังเดือดกระเด็นขึ้นมาโดนมือของนางจนเกิดรอยแดงขึ้น
“เหตุใดถึงไม่ระวังเช่นนี้” จ้าวเจ๋อหยวนรีบเดินเข้ามาดูมือของชิงหลิงที่ตอนนี้เริ่มแดงขึ้นแล้ว
ชิงหลิงนางแสบร้านจากการที่ถูกโซดาไฟกัด นางจึงให้จ้าวเจ๋อหยวนไปตักน้ำเย็นมาให้นางแช่
จ้าวเจ๋อหยวนเมื่อตักน้ำเย็นมาถังหนึ่งแล้ว ก็รีบดึงมือของชิงหลิงลงไปแช่ทันที เขาค่อยๆ ล้างมือที่เกิดผื่นแดงของนางอย่างแผ่วเบา
ชิงหลิงนางไม่เคยถูกสัมผัสเช่นนี้จากชายใดมาก่อนก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูกแล้วรีบดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว
“ข้าทำเอง” นางเอ่ยด้วยเสียงอันแผ่วเบา พร้อมทั้งก้มหน้าลง
“ข้า ข้าจะไปหายามาให้” จ้าวเจ๋อหยวนก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเขาเพียงสัมผัสมือของนาง จึงรีบร้อนเข้าไปในเรือนเพื่อหายามาให้ชิงหลิง
ชิงหลิงเมื่อเห็นว่าจ้าวเจ๋อหยวนเดินหายไปแล้ว ก็เป่าปากออกมาอย่างโล่งอก
ยังดีที่โซดาไฟถูกทำให้เจือจางแล้ว นางจึงไม่ได้เกิดอันตรายมากนัก เพียงไม่นานความแสบร้อนก็หายไป เหลือเพียงรอยแดงเท่านั้น
“มาข้าทำต่อเอง” จ้าวเจ๋อหยวนกลับมาจากหายาให้นาง เขาก็จัดการทำต่อโดยมีชิงหลิงนางร้องบอกอยู่ด้านนอกของห้องครัว
“เสร็จแล้วหรือ” จ้าวเจ๋อหยวนมองสบู่ตรงหน้าที่ถูกเทลงพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
“รออีกเจ็ดวันก็ใช้ได้แล้ว ท่านว่าข้าจะขายเช่นไรดี” นางไม่รู้ว่าควรเปิดร้านเองหรือฝากร้านเครื่องประทินโฉมขายก่อนดี
“ข้าจะลองนำไปฝากที่ร้านของสหายเสียก่อน” เพราะหากให้นางออกไปเปิดร้านขาย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ ในช่วงแรกต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
ชิงหลิงเมื่อฟังสิ่งที่จ้าวเจ๋อหยวนพูดนางก็เห็นด้วย เงินในมือตอนนี้ก็เหลือเพียงไม่มากแล้ว
“ครั้งหน้า ข้าจะทำขั้นตอนแรกด้วยตนเอง” จ้าวเจ๋อหยวนบอกนาง ก่อนจะเก็บสบู่ที่เทลงพิมพ์แล้วกลับไปไว้ที่ห้องเก็บของ
ชิงหลิงนางก็ไม่เอ่ยแย้งดีเสียอีกที่มีคนช่วยนางจะได้ไม่เหนื่อยมากนัก
“เช่นนั้นท่านก็ทำให้ข้าอีกหม้อ ข้าจะไปสั่งช้างไม้ทำกล่องเพิ่ม”
“ได้”
ครั้งนี้ชิงหลิงนางให้เขาเตรียมน้ำด่างในจำนวนที่น้อยลง เพราะพิมพ์ที่เหลืออยู่มีเพียงสามชิ้นเท่านั้น และนางจะทำสูตรน้ำนมเพื่อไว้ให้จ้าวเยี่ยนใช้อาบ
ชิงหลิงนางสั่งทำกล่องเพิ่มอีกห้าสิบกล่อง ช้างไม้ที่ได้รับงานเยอะภายในเวลาไม่กี่วันก็ยิ้มรับอย่างดีใจ
“หากท่านทำวันนี้ได้เท่าใดก็เอาไปให้ข้าที่เรือนก่อนนะเจ้าค่ะ” เพราะเป็นงานที่ไม่ได้ทำยากเขาจึงรับปากนางทันทีว่าจะไปส่งให้ในวันนี้
เมื่อชิงหลิงนางกลับมาที่เรือนจ้าวเจ๋อหยวนก็เตรียมน้ำด่างไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว ชิงหลิงนางจึงนำน้ำมันงาที่ไม่ได้ตุ๋นกับเหมยกุ้ยมาตุ๋นกับนมแพะ
กว่าทั้งคู่จะจัดการสบู่ที่ทำรอบที่สองเสร็จก็เกือบจะเลยมื้อกลางวันเสียแล้ว
“ข้าทำเอง” จ้าวเจ๋อหยวนเห็นมือของชิงหลิงยังไม่หายแดงจึงลงมือเตรียมอาหารกลางวันด้วยตนเอง
สองคนในตอนนี้แม้จะนั่งกินข้าวกันเพียงสองคนก็ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนเช่นในตอนแรกที่กินข้าวพร้อมกันแล้ว
พอตอนเย็นช่างไม้ก็นำกล่องมาส่งให้ชิงหลิงสิบใบ นางตรวจความเรียบร้อยก็ส่งเงินให้เขาตามจำนวนของที่มาส่ง
“ข้าไปรับอาเยี่ยนก่อนแล้วกัน” ชิงหลิงนางเตรียมตัวจะออกจากเรือนไปรับบุตรชาย
“ข้าไปเอง ประเดี๋ยวท่านแม่ยายเห็นมือของเจ้า จะคิดว่าข้ารังแกเจ้า” ชิงหลิงนางก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะกลับไปทำอาหารรอบุตรชาย
ผ่านมาได้เจ็ดวันสบู่รอบแรกของชิงหลิงก็พร้อมจะให้นางได้ลองใช้แล้ว นางรีบตื่นขึ้นมาอย่างตั้งตาคอย แล้วรับไปที่ห้องเก็บของเพื่อนำสบู่ที่แข็งตัวจนพร้อมใช้ออกมาตัดแบ่งให้มีขนาดประมาณหนึ่งชุ่น
“ท่านนำไปอาบน้ำดู” ชิงหลิงส่งสบู่ในมือที่นางตัดไว้ให้จ้าวเจ๋อหยวนด้วยดวงตาเป็นประกาย
เพราะนางได้ลองใช้แล้วนับว่าไม่ต่างจากสบู่ออร์แกนิคที่นางทำเมื่อภพก่อนเลยสักนิด กลิ่นที่ได้จากน้ำมันเหมยกุ้ยก็หอมติดตัวอีกด้วย
จ้าวเจ๋อหยวนรับมาจากมือของชิงหลิง เขาอยู่ไม่ไกลจากตัวนางนัก ยังได้กลิ่นหอมของดอกเหมยกุ้ยออกมาจากตัวของนาง
เมื่อมองสำรวจชิงหลิงในตอนนี้ดีๆ ก็พบว่าใบหน้าของนางตั้งแต่ที่ใช้น้ำดอกเหมยกุ้ยทาใบหน้าทุกวัน ก็เริ่มจะกระจ่างใสเนียนขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนัก
ตัวของนางก็ผอมลงไปมาก จนเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ดูเทอะทะใหญ่โตเกินตัวไปมากนัก
“ได้” เขาก้มหน้าลง แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำด้วยสายตาที่คาดหวังของชิงหลิง