บทย่อ
"สวัสดีค่ะ วันนี้หลิงหลิงจะมานำเสมอการออกกำลังกายเพื่อให้คุณมีหุ่นเหมือนหลิงหลิงค่าาาา" ทุกวันของซิงหลิงนอกจากงานถ่ายแบบเดินแบบที่เธอยึดเป็นอาชีพหลักแล้ว ก็คงเป็นอีกอย่างคือการถ่ายทอดชีวิตในแต่ละวันของเธอลงโซเซียลให้คนติดตาม ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า เธอเริ่มตั้งกล้องเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าเธอดูแลตนเองเช่นไร ตั้งแต่ยาสีฟันที่ใช้เพื่อทำให้ฟันของเธอขาว (แต่ความจริงเธอก็เข้าคลินิกเพื่อทำวีเนียร์) หรือจะเป็นมาร์คหน้าที่ใช้ก่อนจะลงครีม ขั้นตอนการลงเซรั่มไปจนถึงครีม แม้แต่การแต่งหน้าที่ดูธรรมชาติจนเหมือนไม่ได้แต่ง เรื่องอาหารการกินเธอก็ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกซื้อผัก เนื้อสัตว์ไปจนถึงปรุงสำเร็จ การออกกำลังกายควรออกท่าไหน เพื่อให้ส่วนใดกระชับ ชิงหลิงเธอทั้งตั้งกล้องตัดต่อด้วยตนเองทั้งสิ้น ทุกคลิปของเธอสร้างรายได้มหาศาลมากกว่าเงินค่าจ้างเดินแบบเสียอีก หากผู้ติดตามเบื่อคลิปรูปแบบเดิมๆ เธอก็ออกไปถ่ายสิ่งต่างๆ เพิ่มเติมอยู่เสมอ แม้กระทั่งการขุดรากบัวขึ้นมาทำแป้งรากบัวเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสบู่ล้างหน้า อาบน้ำแบบออแกนิค เธอก็ถ่ายทำทุกขั้นตอนให้ได้ชม คนยุคใหม่ชื่นชอบคลิปของเธอมากนักจนมีคนทำตามวิธีของเธอจนสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้จริง จนทำให้ชื่อเสียงของเธอเพิ่มขึ้นอีกมาก วันนี้ก็เช่นกัน ชิงหลิง ตื่นขึ้นมาตั้งกล้องทำทุกอย่างเช่นปกติ ทั้งยังพูดแนะนำไปตามแบบของเธอ จนเมื่อถึงตอนที่ไลฟ์สดกินอาหารเพื่อให้ทุกคนได้ดู ชิงหลิงอ่านทุกคอมเม้นและโต้ตอบกับผู้ติดตามเช่นปกติ “พี่หลิงหลิง ไม่กลัวอาหารติดคอหรือคะ พูดไปกินไป” “ฮ่า ฮ่า ไม่ค่ะ ทุกครั้งหลิงหลิงก็ทำแบบนี้ แต่ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะคะ” เธอขยิบตาให้กล้องอย่างซุกซน แต่แล้วเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิด เนื้ออกไก่ชิ้นใหญ่หลุดเข้าไปในหลอดลมของเธอ คอมเม้นจากผู้ติดตาม กระหน่ำถามรัวๆ ว่าเธอเป็นอะไร ตอนนี้ชิงหลิง เธอหลบออกจากกล้อง เพราะเริ่มหายใจไม่ออก เธอพยายามล่วงคอเพื่อเอาเศษอาหารออกแต่ก็ไม่เป็นผล เธอใช้ท้องกระแทกกับพนักพิงของเก้าอี้อยู่หลายครั้ง แต่ที่ไม่ออกเสียที เพราะเธอไม่กล้าออกแรงมาก กลัวท้องจะเป็นรอยช้ำ เมื่อใส่เสื้อออกกำลังกายแล้วคนจะเห็น ครั้งนี้ชิงหลิงคิดน้อยไปเสียหน่อย เพราะมันไม่โชคดีเหมือนครั้งก่อนๆ เธอลืมหายใจไม่ออกจนล้มไปนั่งกลับพื้น เธอพยายามคลานไปที่โทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ติดตามที่กำลังดูไลฟ์สดอยู่ เพียงอีกแค่ช่วงมือเดียวที่เธอจะเอื้อมถึง แต่กลับหมดเรี่ยวแรงเสียก่อน เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายทุบไปที่โต๊ะทานอาหารเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ มีหนึ่งในผู้ติดตามพบความผิดปกตินี้ แล้วโทรตามรถพยาบาลให้เธอ แต่อนิจจา ไม่มีผู้ใดรู้ที่อยู่ของเธอ เพราะเธอหวาดกลัวพวกโรคจิตที่ชอบส่งข้อความแปลกมาหาเธอ ทุกครั้งที่ถ่ายคลิปหรือไลฟ์สด เธอจะไม่ถ่ายมุมกว้างเพื่อให้ผู้อื่นรู้ที่อยู่ของเธอ ชิงหลิงสิ้นใจลงในห้องพักของเธอในเช้าวันนั้น กว่าผู้จัดการของเธอจะรู้เรื่องก็เกือบจะถึงเวลานัดเพื่อไปถ่ายงาน แต่เธอไม่มาเสียทีเขาจึงมาดูที่ห้อง ไลฟ์สดของเธอก็ยังเปิดอยู่พร้อมทั้งคอมเม้นที่ยังเด้งไม่หยุดเพื่อถามว่าเธอเป็นเช่นไรกันแน่
โจวชิงหลิง
“หะ หิว”
เสียงแรกที่เธอได้ยินเมื่อเธอได้สติ หลิงหลิงถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าเธอรอดจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว
เธอได้แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ผู้จัดการมาช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน หลิงหลิงพยายามที่จะคลำหาโทรศัพท์เพื่อไลฟ์สดเช่นทุกที
ก่อนอื่นเธอต้องบอกผู้ติดตามว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่เธอจะรีบกลับไปลงคลิปใหม่ทันที
“โทรศัพท์อยู่ไหน” หลิงหลิงพยายามหรี่ตาเพื่อมองหาโทรศัพท์ของเธอ
ไม่ ไม่มี แล้วชั้นวางของในโรงพยาบาลหายไปไหน หลิงหลิงพยายามดันตัวขึ้น เพื่อจะกดสัญญาณเรียกพยาบาลเข้ามาถามว่าของเธออยู่ที่ใด
“แค่ก...แค่ก” หลิงหลิงสำลักสิ่งที่อยู่ในปากออกมา
เธอมองก้อนแป้งในมืออย่างงุนงง ที่เธอกินไปเป็นเนื้อไก่ ทำไมสิ่งที่ออกมาถึงกลายเป็นแป้งไปได้ แล้ว แล้ว นี่มือใครทำไมถึงบวมแบบนี้
หลิงหลิงยกมือที่อวบแน่นแทบจะระเบิดขึ้นมาดูอย่างไม่อยากเชื่อ เธอนอนโรงพยาบาลคืนเดียวหมอให้น้ำเกลือมากแค่ไหนถึงได้บวมเช่นนี้
“เฮ้ยยยย” สิ่งต่อมาที่ทำให้หลิงหลิงถอยหลังหนีอย่างทุลักทุเล เด็กผู้ชายอายุสองขวบนั่งมองหน้าเธออย่างสับสน
“มาจากไหน” เธอถามไปอย่างไม่เข้าใจ
จะบอกว่ามีรายการมาถ่ายทำก็ไม่ใช่ เธอไม่เคยรับงานแบบนี้ เด็กตรงหน้าเนื้อตัวมอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิง ชวนให้หลิงหลิงมองอย่างนึกรังเกียจ
พ่อแม่เด็กไปไหน ทำไมมาอยู่ในห้องของเธอได้ แล้วทำไมไม่อาบน้ำแต่งตัวให้มันดีๆ หรือจะมีกองถ่ายทำหนังจีนโบราณแถวนี้
แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะเธออยู่ในโรงพยาบาล
สิ้นความคิดของหลิงหลิง สิ่งที่เธอสงสัยทั้งหมดก็ถูกเฉลยเมื่อเธอปวดศีรษะจนแทบจะระเบิดออกมา ความทรงจำของใครก็ไม่รู้ไหลเวียนเข้าสู่สมองของเธอ
ใบหน้าของสตรีที่ชื่อชิงหลิงเหมือนเธอ แม้ใบหน้าจะเหมือนกัน แต่ แต่ รูปร่างของเธอทั้งคู่แตกต่างกับราวคนละคน
หลิงหลิงเธอเคยจินตนาการว่าหากเธออ้วนขึ้นมาจะเป็นเช่นไร ใช่แล้วเธอก็จะเหมือนชิงหลิงในภาพของหัวเธอตอนนี้
โจวชิงหลิงบุตรสาวของผู้นำหมู่บ้าน โจวตง เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาแต่ใจตัวเอง เมื่อเธอเข้าสู่วัยออกเรือนกลับชื่นชอบ จ้าวเจ๋อหยวน จนไม่ยอมเชื่อบิดามารดาที่เอ่ยห้ามปราม เพราะรู้ดีว่า เจ๋อหยวนไม่ได้รักบุตรสาวของตนเลย
บิดามารดาก็ไม่อยากเห็นบุตรสาวช้ำใจ จึงคิดจะส่งนางไปอยู่ที่บ้านท่านตาท่านยายที่อยู่หมู่บ้านใกล้กัน เพื่อให้เจ๋อหยวนที่ใกล้จะสอบซิ่วไฉเดินทางออกจากหมู่บ้านไปสอบเสียก่อน
แต่แล้วบุตรสาวก็ทำเรื่องที่เขาไม่คาดคิด เมื่อนางไม่รู้ไปหายากำหนัดมาจากไหน ใส่ลงไปในอาหารแล้วนำไปส่งให้เจ๋อหยวนที่เรือน
เจ๋อหยวนก็คิดว่าเป็นกัวซูซินหญิงงามในหมู่บ้านที่ทั้งคู่ชอบพอกันฝากมาให้ตามที่ชิงหลินนางกล่าวอ้าง
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้เสียกัน เพราะเจ๋อหยวนก็ไม่ประสาเรื่องเช่นนี้ เขาจะต้านทานฤทธิ์ของยาที่รุนแรงได้อย่างไร
เมื่อแต่งเข้าไปแล้วเจ๋อหยวนก็ไม่ได้ดูแลนางอย่างที่นางคิด เพราะการหลับนอนในครั้งนั้นชิงหลิงนางก็ตั้งครรภ์อย่างไม่น่าเชื่อ
มารดาเลี้ยงของเจ๋อหยวนก็ไม่ชอบชิงหลิงอยู่แล้ว ต่อให้ช่วงแรกนางจะยอมทำทุกอย่างที่พวกเขาสั่งนานวันเข้าจากที่เคยอยู่สุขสบายโดนกลั่นแกล้งมากเข้านางก็เอาเรื่องไปฟ้องบิดามารดา
นางเหยียนมารดาเลี้ยงของเจ๋อหยวนรังเกียจลูกเลี้ยงอยู่แล้วก็หาทางแยกบ้านกับทั้งคู่เสียเลย
เจ๋อหยวนจึงต้องพานางออกมาอยู่ที่กระท่อมเดิมของมารดาท้ายหมู่บ้าน เขาที่ออกมาแต่ตัวไม่มีสิ่งใดมาด้วย
ทุกอย่างในเรือนทั้งอาหารก็ได้บิดามารดาของชิงหลิงหยิบยื่นให้อยู่ตลอด
แต่เพราะความหึงหวงของนางที่มีต่อเจ๋อหยวนทำให้เขาไม่อาจใช้ชีวิตอ่านตำราอย่างสงบได้ เขาจึงเดินทางเข้าไปทำงานเป็นเสมียนอยู่ในเหลาอาหาร เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูนางและเป็นค่าเดินทางไปสอบของตน
ชิงหลินนางไม่ใช่คนสะอาดนัก ทุกสิ่งอย่างก็เป็นมารดานางที่นานๆ ครั้งจะแวะมาดูแลทำความสะอาดเรือนให้บุตรสาว
วันที่นางสิ้นใจ นางสำลักอาหารเช่นเดียวกับหลิงหลิงจนตาย วิญญาณของหลิงหลิงจึงเข้ามาอยู่ในร่างของนางแทน
“หะ หิว” เด็กน้อยเขยิบตัวเข้ามาดึงเสื้อของชิงหลิงเพื่อเรียกสตินาง
“ละ แล้ว ให้ฉัน ขะ ข้า หรือ มะแม่เล่า โอ๊ยยยย” ชิงหนิงนางไม่รู้จะแทนตัวอย่างไรดี จึงดึงทึ้งผมตัวนางอย่างหงุดหงิด
“มะ แม่ หิว” จ้าวเยี่ยนส่งสายตาน่าสงสารมองมาที่นาง
ชิงหลิงนางมองเขาอย่างใจอ่อน ก่อนจะอุ้มตัวเขาแล้วลุกขึ้นไปหาอะไรในครัวให้เขากิน แต่ร่างกายของนางนั้น มันทำให้นางเดินไม่สะดวกนัก
เพียงอุ้มจ้าวเยี่ยนได้ไม่เท่าไหร่นางก็เหนื่อยเสียแล้ว
“เคยขยับตัวบ้างไหมเนี้ย” นางพึมพำออกมาอย่างหัวเสีย
“อาเยี่ยนอยู่ตรงนี้ได้หรือไม่ ห้ามไปที่ใดรู้ไหม” นางวางจ้าวเยี่ยนลง ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว เดินไปสองก้าวก็หันกลับมามองเขาครั้งหนึ่ง
จ้าวเยี่ยนจึงเดินเตาะแตะไปหานาง
“เดินได้ก็ไม่บอก มา ไปด้วยกัน” นางจูงมืออาเยี่ยนไปที่ครัว และหาเก้าอี้ให้เขานั่งรออยู่ด้านหน้า
เมื่อชิงหลิงเห็นครัวก็แทบจะเป็นลมภายในห้องครัวข้าวของวางระเกะระกะไปทั่ว หม้อ ก็ดำจนนางไม่กล้าจะจับ ทั้งชามที่ทำมาจากไม้ยังราขึ้นแบบนี้ใครจะกล้ากิน
“ทนได้หรือไม่ แม่จะพาเจ้าไปที่เรือนท่านตาท่านยาย” นางหมดหนทางแล้วจริงๆ
ชิงหลิงจับจ้าวเยี่ยนแอบน้ำพร้อมกับนาง ฝักเจ้าเจี่ยวที่ขึ้นอยู่หลังเรือนใช้ถูไปตามเส้นผมและร่างกายของทั้งคู่
กว่าจะสะอาดน้ำในโอ่งก็หมดลงพอดี สองแม่ลูกเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ชิงหลิงนางคิดว่าสะอาดที่สุด ก่อนจะเดินไปที่บ้านบิดามารดาตามความทรงจำของร่างเดิม