ผีเข้าหรือขอรับ
ชิงหลินนางทั้งอุ้มทั้งปล่อยให้จ้าวเยี่ยนเดินด้วยเอง กว่าจะมาถึงเรือนของบิดามารดานางก็แทบจะสิ้นแรง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ อยู่หรือไม่เจ้าคะ” นางพยายามเลียนแบบคำพูดของคนโบราณทั้งวิธีการพูดของเจ้าของร่างเดิม เพื่อไม่ให้ผู้ใดจับผิดนางได้
เพราะตลอดทางที่เดินมา นางก็ได้รับสายตาดูแคลนจากชาวบ้านมานับไม่น้อย แต่คนอย่างชิงหลิงนางจะไปสนสายตาของผู้ใด
เมื่อก่อนตอนนางไลฟ์สดทั้งสายตาและคำพูดมากมาย พูดกระทบนางจนนางเลิกเก็บคำพูดคนอื่นมาคิดเสียแล้ว
“หลิงเออร์ เข้ามาก่อนลูก เหตุใดถึงมาที่เรือนได้เล่า”
จงเยว่รีบมาเปิดประตูเรือนเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของบุตรสาว ยิ่งเห็นใบหน้าของนาง เนื้อตัวสองแม่ลูกที่อาบน้ำจนสะอาดหน้ามอง ผมที่เก็บเรียบของทั้งคู่ นางก็อดจะอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงไม่ได้
เมื่อก่อนชิงหลินนางก็รักสวยรักงามเช่นสตรีทั่วไป แต่พอเจ๋อหยวนไม่สนใจนาง นางก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนมีสภาพไม่น่ามอง
“อาเยี่ยนหิวข้าวเจ้าค่ะ ในเรือนข้า...” นางไม่รู้จะพูดเรื่องขายหน้าออกมาเพื่ออันใดจึงเงียบปากลง
จงเยว่รับหลานชายไปอุ้มพร้อมทั้งพาสองแม่ลูกเข้ามาในเรือน ก่อนจะรีบไปหาอาหารมาให้พวกเขาได้กิน
ชิงหลิงนางไม่ได้ลงมือกินก่อนเช่นทุกครั้งที่มารดานำอาหารมาให้ เพราะครั้งนี้นางตักข้าวต้มป้อนบุตรชายเสียก่อน จงเยว่อดจะมองนางอย่างพิจารณาไม่ได้
“หลิงเออร์มารึ” โจวอู๋หลางกลับมาจากสวนก็เดินเข้ามาหาบุตรสาวที่อยู่ในห้องโถง
เขาก็มีอาการเช่นเดียวกับภรรยาที่มองบุตรสาวอย่างตกตะลึง ยิ่งหลายชายแล้วด้วย ทุกทีจะมีสภาพไม่ต่างจากขอทาน
“ท่านพ่อ ท่านกินอะไรมาหรือยังเจ้าคะ” ชิงหลิงเอ่ยถามบิดาเสียงหวาน
โจวอู๋หลางมองบุตรสาวด้วยน้ำตาคลอเบ้า นานเพียงใดแล้วที่เขาไม่ได้เห็นบุตรสาวร้องเรียกเสียงหวานเช่นนี้
“กำลังหิวอยู่พอดี” โจวอู๋หลางนั่งลง จงเยว่ก็รีบร้อนหาข้าวมาให้เขาทันที ทั้งสี่นั่งลงกินข้าวพร้อมกันอย่างมีความสุขในรอบสามปีก็ว่าได้
“ท่านแม่ ท่านจะไปไหนหรือไม่ ข้าจะฝากอาเยี่ยนเย็นๆ ข้าจะมารับเจ้าคะ”
“เจ้าจะไปที่ใด” เพราะบุตรสาวไม่ยอมออกไปข้างนอกมานาน จงเยว่จึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
“ข้าจะกลับไปเก็บเรือนเจ้าค่ะ”
โจวอู๋หลางเกือบจะพ่นชาในปากออกมา เมื่อได้ยินสิ่งที่บุตรสาวเพิ่งพูดไป
“ดีดีดี แม่จะดูอาเยี่ยนให้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่ต้องมารับ ประเดี๋ยวอาเทียนกลับจากสำนักศึกษา แม่จะให้เขาพาหลานไปส่ง” จงเยว่กลัวบุตรสาวจะเดินเหนื่อยเพราะน้ำหนักตัวของนางที่เคลื่อนไหวลำบากจึงจะให้น้องชายเขาไปส่งจ้าวเยี่ยนให้
“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ” นางยิ้มหวานอย่างยินดี ก่อนจะหันไปมองอาเยี่ยนให้เป็นเด็กดีแล้วกลับเรือนของนางไป
“ตาเฒ่า ข้าหูฟาดไปหรือไม่” จงเยว่หันไปหาสามี
“เจ้าได้ยินเช่นใด ข้าก็ได้ยินเช่นนั้น” โจวอู๋หลางมองแผ่นหลังของบุตรสาวที่เดินกลับเรือนของนางไป
“อาเทียนกลับมา เจ้าก็ให้เขาเอาแป้ง ข้าวไปให้ หลิงเออร์มากเสียหน่อย นางคงกินไม่อิ่มถึงได้เป็นเช่นนี้” โจวอู๋หลางเอ่ยกลับจงเยว่อย่างปลงตก
หากชิงหลิงนางมาได้ยินเข้าคงได้โมโหจนได้ ยิ่งวันนี้สองสามีภรรยาเห็นบุตรสาวกินข้าวน้อยกว่าทุกครั้งก็ยิ่งเป็นห่วงนางมากขึ้น
ชิงหลิงเมื่อกลับมาถึงเรือน นางก็จัดการเก็บกวาดภายในห้องของนาง เพียงแค่ก้มๆ เงยๆ นางก็แทบจะหลังเสียแล้ว
นางรื้อของที่ชิงหลิงคนเดิมแอบเก็บไว้กินจนเหม็นเน่าทิ้งทั้งหมด ทั้งจะนำเสื้อผ้า ผ้าห่มออกไปซักก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อเดินมาที่โอ่งน้ำ นางก็แทบจะลมจับ เมื่อน้ำในโอ่งถูกนางสองแม่ลูกอาบไปจนหมดแล้ว ชิงหลิงจึงต้องแบกของทั้งหมดไปที่แม่น้ำ เพื่อซักผ้า
ยังดีที่เป็นเวลาสายแล้วชาวบ้านที่ริมน้ำจึงไม่เหลือสักคน ไม่เช่นนั้นพวกนางคงได้ตกใจจนตาย เพราะพบเจอเรื่องประหลาด ที่ชิงหลิงนางออกมาซักผ้า
ชิงหลิงใช้ฝักเจ้าเจี่ยวที่นางเก็บมาจนหมดกว่าเสื้อผ้าและผ้าห่มของนางจะสะอาด เมื่อกลับถึงเรือนเรี่ยวแรงที่นางทั้งซักผ้าทั้งแบกของ เดินกลับก็แทบจะไม่เหลือ
แต่ชิงหลิงก้ไม่อาจจะหยุดพักได้ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ต้องเดินไปขอข้าวบิดามารดากินอีก นางต้องเดินกลับไปหาบน้ำที่แม่น้ำ เพื่อมาเติมให้เต็มโอ่ง
ยังดีที่แม่น้ำอยู่เพียงหลังเรือนไม่เช่นนั้นนางคงถอดใจ ไม่ล้างมันแล้วจาน แต่ก็ต้องท่องไว้ ไม่ล้างก็ไม่มีกิน
ฝักเจ้าเจี่ยวหลังเรือนถูกเด็ดมาใช้จนแทบจะเกลี้ยงต้น นางทั้งขัดทั้งต้มน้ำร้อนลวกจานชาม หม้อ ไห ตะเกียบ จนคิดว่าเชื้อโรคคงตายไปบ้างแล้วจึงได้นั่งพักอย่างเหนื่อยหอบ
เพียงนาน โจวเทียนก็พาอาเยี่ยนมาส่งให้นาง
ชิงหลิงหันไปมองด้วยแววตาที่อยากจะร้องไห้ นางยังไม่ได้หยุดพักเลยบุตรชายก็กลับมาเสียแล้ว
“พี่หญิง ผีเข้าหรือขอรับ ท่านถึงได้ลุกขึ้นมาเก็บกวาดเรือนเสียเรียบร้อยเช่นนี้”
โจวเทียนมองเรือนที่สะอาดตาของชิงหลิง พร้อมทั้งพูดเย้านางอย่างอดไม่ได้
“แล้วนั้นเจ้าเอาอะไรมาด้วย” ชิงหลิงถลึงตามองน้องชาย ก่อนจะถามถึงของที่อยู่ในตะกร้าด้านหลังของเขา
“ท่านพ่อท่านแม่ คิดว่าท่านอดข้าวจะเสียสติ จึงให้ข้าเอาของมาให้ท่าน”
“ห๊า” ชิงหลิงร้องออกมาอยากไม่อยากเชื่อ แต่เมื่อนั่งคิดก็คงไม่แปลกอันใด เพราะอยู่ๆ คนขี้เกียจจะลุกขึ้นมาขยันก็คงจะแปลกอย่างที่เขาว่า
“ช่างเถิด เจ้าช่วยข้าหาบน้ำได้หรือไม่” ชิงหลิงนางกะพริบตาปริบๆ มองน้องชายเพื่อให้เขาเห็นใจ
“ทำยังกับท่านไม่เคยใช้ข้าเสียอย่างนั้น” โจวเทียนแบกถังน้ำออกไปหาบน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะทุกครั้งที่เขามาที่เรือนของพี่สาวเขาก็ต้องทำเช่นนี้ทุกครั้ง