ยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น
ชิงหลิงนางวุ่นวายอยู่กับเรื่องทำสบู่อยู่หลายวัน จนวันที่จ้าวเจ๋อหยวนจะเข้าเมืองเพื่อไปทำบัญชีก็มาถึง
“เจ้าอยู่ที่เรือนก็ปิดประตูเรือนให้เรียบร้อย หากจะออกไปเก็บดอกไม้ก็รอข้ากลับมาก่อนก็แล้วกัน”
เพราะดอกไม้ที่นางหามาในครั้งนั้นถูกใช้จนหมดไปแล้ว เขากลัวว่านางจะขึ้นเขาไปคนเดียวจึงได้เอ่ยเตือนไว้เสียก่อน
อีกอย่างนางในตอนนี้ก็ใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กลงมากกว่าเดิมมากนักแล้ว ตอนที่ออกจากเรือนเพื่อไปเรือนตระกูลโจว เขาสังเกตเห็นว่าบุรุษในหมู่บ้านเริ่มที่จะมองนางด้วยสายตาจาบจ้วงแล้ว
“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านไปเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจะไม่ทันเกวียนวัว” ชิงหลิงนางโบกมือไล่จ้าวเจ๋อหยวนให้เร่งออกเดินทาง
“เช่นนั้นข้าไปแล้วเล่า” เขามองมาที่นางอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
จ้าวเจ๋อหยวนเมื่อมาถึงเมืองก็รีบเดินเข้าไปที่เหลาอาหาร เพื่อจัดการบัญชีเช่นทุกครั้ง
“อาหยวน เจ้าเข้าเมืองได้เสียที” ฟู่จิ้งเมื่อรู้จากเสี่ยวเอ้อเหลาอาหารว่าเจ๋อหยวนมาทำงานแล้วเขาก็รีบร้อนออกจากร้านค้ามาหาเขาทันที
“มีเรื่องอันใดหรือ” เขามองใบหน้าที่กระวนกระวายของสหายก็เอ่ยถามอย่างกังวลใจ เพราะกลัวจะเกิดเรื่องกับสบู่ที่เขานำมาฝากขาย หรือจะขายไม่ได้
“เจ้ามีสบู่อีกมากเพียงใด ข้าซื้อทั้งหมด ไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้น ทำสัญญากันเลยดีหรือไม่”
ฟู่จิ้งต้องการให้จ้าวเจ๋อหยวนขายสบู่ให้ตนเดือนละหนึ่งพันก้อนเป็นอย่างน้อย มารดาของเขานำสบู่ไปเสนอขายให้บรรดาฮูหยินกับคุณหนูที่อยู่ในเมืองได้ใช่
เพียงสองวันสบู่ที่เขามีสี่สิบก้อนก็หมดลงเสียแล้ว วัยต่อๆ ผู้คนยังมาถามหาซื้อกันให้วุ่นวายไปหมดในตอนแรกเขาก็คิดที่จะไปหาจ้าวเจ๋อหยวนที่หมู่บ้าน
หากสหายไม่ขอร้อง ให้เขาเก็บเรื่องที่จ้าวเจ๋อหยวนเป็นผู้นำมาขาย เขาก็คงไปหาด้วยตนเองแล้ว
“ข้าไม่รู้ว่าจะทำทันหรือไม่” จ้าวเจ๋อหยวนแสร้งทำสีหน้ากังวล
หากสหายของเขาใจร้อนเช่นนี้ แสดงว่าสบู่ที่เขานำมาสี่สิบก้อนต้องขายออกไปจนหมดแล้ว เจ๋อหยวนคิดจะเรียกราคาเพิ่มให้ชิงหลิงอีกหน่อย ให้คุ้มกับที่นางเหน็ดเหนื่อยอยู่ทุกวัน
“ข้าเพิ่มให้เจ้าสามตำลึงเงินต่อก้อน เจ้าก็ออกจากเสมียนบัญชีเสีย แล้วอยู่ช่วยภรรยาของเจ้าที่เรือนมิดีกว่าหรือ หากเจ้ากลัวว่านางจะทำไม่ทัน”
จ้าวเจ๋อหยวนเหมือนจะคิดเช่นเดียวกับฟู่จิ้ง แต่เรื่องนี้เขาต้องไปบอกเถ้าแก่เหลาอาหารเสียก่อน
เขารู้ว่าเดือนละหนึ่งพันก้อน ชิงหลิงนางทำทันอยู่แล้ว เพียงในห้องเก็บของตอนนี้ก็มีมากกว่าหนึ่งพันก้อนแล้วที่นางทำไว้
“เช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะนำมาส่งให้เจ้าห้าร้อยก้อน”
“ดีดี” ฟู่จิ้งตบบ่าสหายอย่างนึกขอบคุณ เพราะจ้าวเจ๋อหยวนทำให้ร้านที่เกือบจะปิดตัวลงของเขากลับมาขายดีอีกครั้ง
จ้าวเจ๋อหยวนก็ไปบอกเถ้าแก่เรื่องที่เขาจะทำบัญชีให้วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย เถ้าแก่ก็พอจะเข้าใจ แม้จะเสียดายจ้าวเจ๋อหยวนที่ทำงานรอบคอบมากก็ตาม
เมื่อกลับถึงเรือน จ้าวเจ๋อหยวนก็ส่งสัญญาในมือให้กับชิงหลิงนางดู
“มากเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อเมื่ออ่านสัญญาจบ
นางได้เพิ่มมาอีกก้อนละหนึ่งตำลึง ทั้งยังสั่งให้ส่งเดือนละหนึ่งพันก้อน พรุ่งนี้เจ๋อหยวนต้องนำไปส่งก่อนห้าร้อยก้อน
“เจ้าอ่านหนังสือออกด้วยหรือ” จ้าวเจ๋อหยวนมองนางอย่างแปลกใจ
เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ตั้งแต่ครั้งที่นางหนังสือหย่าแล้วเขาก็ลืมที่จะสังเกตนางในตอนนั้น
ชิงหลิงนางก็เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัวเช่นกัน เพราะเจ้าของร่างเดิมไม่สนใจเรียนรู้ที่จะอ่านตำรา แม้จะมีบิดาที่คอยสอน
“ข้าอยู่ที่เรือนไม่มีอันใดทำ จึงได้ให้บิดาสอนเจ้าค่ะ” ชิงหลิงนางหลบสายตาของจ้าวเจ๋อหยวน
แม้ในตอนนี้ทั้งคู่จะพูดคุยกันด้วยดีแล้ว แต่นางก็ยังไม่วางใจที่จะบอกเขาทุกเรื่องของนาง
“เช่นนั้นหรือ” จ้าวเจ๋อหยวนมองนางอย่างจับผิด แต่ในเมื่อนางไม่คิดอยากจะพูดเขาจึงไม่อยากจะสอบสวนนาง
จ้าวเจ๋อหยวนไปบอกพ่อตาของเขาเรื่องที่จะให้พาไปส่งสบู่ในวันพรุ่งนี้ แล้วก็รีบพาจ้าวเยี่ยนกลับเรือนมาช่วยชิงหลิงนางทำสบู่
ระหว่างทางที่เขากำลังกลับเรือนกับพบซูซินที่นางเดินมาทางนี้พอดี
“พี่หยวนประเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” นางเอ่ยร้องเรียกเสียงหวาน
“มีอันใดหรือ” เขาหันไปมองซูซินอย่างแปลกใจ ที่นางใกล้จะออกเรือนแล้วแต่ยังเรียกเขาเพื่อพูดคุยอีก
“ท่านเป็นเช่นใดบ้างเจ้าคะ” นางเอ่ยถามพร้อมทั้งมองจ้าวเจ๋อหยวนด้วยแววตาที่รักใคร่เช่นทุกครั้ง
“ซูซินเจ้าจะออกเรือนแล้ว ข้าว่าไม่เหมาะหากเจ้าจะพูดคุยกับข้าเช่นนี้” เขาบอกนางตามความจริง
“แต่ท่านก็รู้ว่าข้ารู้สึกเช่นใดกับท่าน” นางมองเขาอย่างตัดพ้อ
“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่พูดเช่นนี้กับข้าอีก ขอตัว” เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะพาบุตรชายกลับเรือน
“พี่หยวน ท่านอย่าใจร้ายกับข้าเช่นนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ” นางสวมกอดเขาจากด้านหลัง จ้าวเจ๋อหยวนยืนนิ่งอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่านางจะใจกล้าเช่นนี้
ตอนที่เขากำลังจะผลักตัวของซูซินออก เสียงเย็นด้านหลังของชิงหลิงก็เอ่ยขึ้น
“หากพวกท่านจะพลอดรักกันก็ไม่ควรทำต่อหน้าอาเยี่ยน อาเยี่ยนมาหาแม่ลูก”
ชิงหลิงโบกมือเรียกจ้าวเยี่ยนให้เดินไปหานาง ก่อนจะพากันเดินกลับเรือนไปโดยไม่สนใจท่าทางของจ้าวเจ๋อหยวนที่ตกตะลึงจนทำอันใดไม่ถูก
ชิงหลิงนางเห็นว่าสองพ่อลูกยังไม่กลับเรือนเสียที อาหารมื้อเย็นก็ถูกยกขึ้นโต๊ะจนเรียบร้อยแล้ว นางจึงคิดจะเดินไปดูที่เรือนของบิดา แต่ก็พบพวกเขาระหว่างทางเสียก่อน