บทที่ 4 ชายผู้มีนัยน์ตาสีแดง
ลูเซียสหรี่ตามอง ดูท่าความทรงจำของนางคงหายไปด้วย หรืออาจจะติดๆ ดับๆ เลยจดจำคนที่ตัวเองเสี่ยงชีวิตเขาช่วยไมได้ คงเพราะพิษจากเขี้ยวแวมไพร์สายพันธ์ใหม่พวกนั้นแน่
เขาแสร้งยักไหล่
“ผมว่าคุณอย่ามัวแต่คิดอะไรเลย ลงไปทานอาหารกับผมไหม” ชายหนุ่มเอ่ยชวน แล้วกระถดกายลงมาจากเตียง
อรุณลักษณ์รีบขยับหนี แววตาหวาดระแวง เขาหัวเราะในลำคอเพราะตลกท่าทางระวังตัว
“ตกลงจะไปไหม ผมให้คนเอาเสื้อผ้าใหม่มาให้คุณแล้ว จะได้ไม่โป๊” เขาบอก แล้วกวาดตามองเรือนร่างเกือบเปลือย คนถูกมองหน้าแดงซ่าน
“มองอะไร! ฉันรู้แล้ว คุณออกไปก่อนสิ เดี๋ยวฉันตามออกไป!”
เธอไม่กล้าโวยวาย ถ้าหากลงไม้ลงมือมีแต่ตัวเองเสียเปรียบ เกิดถูกฆ่าหมกอยู่ที่นี่ใครจะรู้ ไม่ว่าเสียอะไรไปต้องหาทางเอาตัวรอดจากที่นี่ให้ได้เสียก่อน
ลูเซียสปราศจากเสื้อผ้าท่อนบน มีเพียงกางเกงขายาวเท่านั้น สองเท้าก้าวมายืนตรงประตูเปิดออกแล้วปิดลงตามเดิม คนในห้องระบายลมหายใจโล่งอกที่ชายคนนั้นไม่ได้คิดทำร้าย
ก๊อก ก๊อก
อรุณลักษณ์สะดุ้ง จนกระทั่งประตูเปิดออก สาวใช้หน้าตาสะสวยก้าวเข้ามา วางเสื้อผ้าไว้บนเตียง แล้วเดินออกจากห้องไป ไม่ทันได้ถามไถ่ ว่าเธอจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร
เธอหยิบเสื้อผ้านั้นมา เป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้ม และมันพอดีกับตัวเธอ อรุณลักษณ์อดแปลกใจไม่ได้ แต่เธอไม่มีเวลามาชื่นชม นอกจากลงไปเผชิญหน้ากับชายผู้นี้ที่ด้านล่าง แล้วหาทางกลับบ้านอย่างละมุนละม่อมที่สุด
ลงมาถึงบันไดชั้นล่าง กวาดมองรอบๆ บรรยากาศภายในค่อนข้างมืด เธอคิดว่ากลิ่นควรอับชื้น แต่ไม่เลย มีกลิ่นดอกไม้หอมอวลตลอดเวลา
“เชิญทางนี้เลยค่ะ”
อรุณลักษณ์สะดุ้ง ตอนแรกไม่เห็นว่ามีใครอยู่ แล้วสาวใช้คนนี้โผล่มาจากไหนกัน ไม่มีเวลามาคิดมาก สองเท้าก้าวตาม จนกระทั่งถึงห้องอาหาร ให้ตายสิเธอไม่อยากเชื่อ เจ้าของบ้านนั่งอยู่มุมโต๊ะฝั่งโน้น เก้าอี้มีทั้งหมดสามสิบสี่ที่ ทำราวกับโรงแรมก็ไม่ปาน
“เชิญนั่งได้เลยค่ะ” สาวใช้ลากเก้าอี้ให้ เธอหย่อนกายลง
สเต็กเนื้อมีเลือดไหลซึมถูกนำมาวาง ตามด้วยแก้วไวน์สีเดียวกัน ตรงหน้ามีเชิงเทียนจุดส่องแสงสว่าง ชายผู้เป็นเจ้าของบ้าน อยู่ในชุดสีดำสนิท ผมของเขาก็เช่นเดียวกัน มีเพียงดวงตาที่แดงฉานราวกับสีโลหิต เธอไม่เข้าใจ อยู่มาจนอายุยี่สิบหกปี ไม่เคยพบคนมีนัยน์ตาสีแดงมาก่อนนี่เป็นครั้งแรก
เจ้าของบ้านผายมือ “เชิญทานอาหารสิ”
อรุณลักษณ์มองอาหาร กลืนน้ำลายลงคอ เธอไม่อยากกินไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปหรือเปล่า เท่าที่ผ่านมาก็มากเกินพอแล้ว เธอมาที่นี่ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ไม่รู้สักอย่าง จนถึงตอนนี้ยังสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่เลย
ให้ตาย ไม่อยากเชื่อตัวเอง นอนกับคนแปลกหน้า หน้าตาหล่อเหลาถึงเพียงนี้ ดวงตาเขามีมนต์เสน่ห์อย่างประหลาด หัวใจมันเต้นหนักไม่หยุดเลย ทว่าเธอไม่มีเวลา
“ไม่ทานหรือไงครับ ทานสิอร่อยนะ” ฝ่ายเจ้าของบ้านเอ่ยชวน เมื่อเห็นเธอเอาแต่นั่งถือมีดกับซ่อม สีหน้าครุ่นคิด
“คือ...” ริมฝีปากบาง ไร้การแต่งแต้มใดเม้มสนิท เอาจริงๆ เธออยากกลับบ้านมากที่สุดในตอนนี้
เขาขมวดคิ้ว วางมือจากอาหาร
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันอยากกลับบ้านน่ะค่ะ”
ชายหนุ่มยกยิ้ม “ทำไมหรือ กลัวผมไม่ให้กลับบ้านหรือไง”
หญิงสาวรีบยกไม้ยกมือโบก
“ไม่ใช่นะคะ ไม่ใช่!” ดวงตาเธอหม่นลง “อยู่มาจนอายุป่านนี้ ฉันไม่เคยทำอะไรไร้สติแบบนี้มาก่อนเลย” พูดจบช้อนสายตามอง “แล้วยิ่งนอนกับผู้ชายแปลกหน้าแบบนี้ มันไม่ใช่ตัวฉันเลย”
เขาหัวเราะในลำคอ
“ปกตินอนเฉพาะกับคนรู้จักเหรอ” ลูเซียสย้อนถาม ราวกับต้องการแกล้ง
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคุณ ฉันหมายถึงไม่นอนกับใครไปทั่วแบบนี้!”
ลูเซียสโบกมือ ถึงแม้มนุษย์นางนี้สร้างความปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ แต่มันไม่มีทางเหนือไปกว่าจิตใจอันเข้มแข็งดวงนี้หรอก
“จะกลับก็ตามใจ ผมไม่คิดกักขังคุณหรอก เพียงแต่...”
คนตัวเล็กรอฟัง
“คุณอาจจะต้องย้อนกลับมาที่นี่อีก”
คิ้วบางขมวด สีหน้าสงสัย
“ทำไม” เธอถามกลับ
คนตัวใหญ่ยักไหล่ ดวงตาคมวาววับ
“เพราะคุณต้องกลับมา ในโลกนี้ไม่มีใครช่วยคุณได้ นอกจากผม...”
อรุณลักษณ์สบตากับชายผู้นี้ ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ ไม่เคยพบพานกันมาก่อน เหตุใดหัวใจมันถึงไหวสั่น ความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยนี่คืออะไรกัน
“ฉันเป็นพยาบาลค่ะ ในโรงพยาบาลฉันรู้จักหมอเก่งๆ เยอะแยะ ถ้าฉันป่วย พวกเขาคงพร้อมช่วยฉัน”
ลูเซียสกระตุกยิ้มมุมปาก
“ผมก็ภาวนาให้คนพวกนั้นช่วยคุณได้ก็แล้วกัน”
อะไร เขาพูดหมายความว่ายังไง เธอไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย สายตาที่มองมานี่ต้องการสิ่งใด ร่างกายเธอมันร้อน เพราะรู้สึกราวกับตนกำลังถูกเปลื้องผ้า
“ฉะ...ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
อรุณลักษณ์เลื่อนเก้าอี้ออก แล้วเดินมาถึงหน้าคฤหาสน์ บรรยากาศโดยรอบชวนให้ขนลุก ต้นไม้ร่มรื่น แต่อากาศกลับเย็นยะเยือก ทันทีที่เธอก้าวลงบันไดด้านหน้า มีรถมาจอดเทียบ
คนขับลงมา แล้วเปิดประตู หันมาทางหญิงสาว
“เชิญครับคุณอรุณลักษณ์ เจ้านายให้ผมไปส่งคุณที่บ้านพัก”
เวลานี้ไม่อยากคิดอะไร ขอไปให้พ้นจากที่นี่เสียก่อนก็แล้วกัน คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการอยู่กับคนแปลกหน้า หน้าตาหล่อเหลา เช่นเขาอีกแล้ว เธอถือว่านี้คือฝันร้าย ต้องรีบตื่นแล้วกลับสู่โลกความจริงเร็วๆ แล้วสิ