บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 จี้ชิงหยาง

ท่านแม่ทัพฟังคำรายงานของพ่อบ้านอู่อย่างกังวล จอหงวนผู้นั้นเขาเคยเห็นแค่ครั้งสองครั้ง ใบหน้าของเขามักจะเย็นชาอยู่เสมอจนผู้คนมองไม่ออกว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่ แววตาคู่นั้นก็ราวกับจะมองเหยียดใต้หล้าอยู่จาง ๆ ท่านแม่ทัพถอนหายใจ ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเพียงความบังเอิญหรือจอหงวนคนใหม่ตั้งใจจะเจอกับลูกสาวของเขากัน

เขาเคาะโต๊ะไม้อย่างใช้ความคิด ดวงตาเหลือบมองพ่อบ้านอู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล “เจ้าว่าเขาไม่ไปงานเลี้ยงหรือตอบจดหมายใครเลยหรือ”

“ขอรับ ข้าไปแอบถามจวนขุนนางละแวกใกล้กัน จอหงวนผู้นั้นไม่ได้ไปงานเลี้ยงหรือไปพบปะกับขุนนางคนอื่น ๆ เพราะเขาถูกฮ่องเต้เรียกตัวเข้าห้องทรงพระอักษรทุกวัน ตกบ่ายยังต้องไปวังบูรพาขอรับ”

ท่านแม่ทัพอู๋ซานขมวดคิ้ว “เขาไปคนเดียวหรือพวกปั๋งเหยี่ยนกับทั่นฮวาก็ไปด้วย”

“แค่จอหงวนขอรับ” พ่อบ้านอู่อ้ำอึ้ง “ข้าได้ยินพวกสาวใช้คุยกันว่า ที่ท่านจอหงวนไปมาหาสู่ขุนนางผู้อื่นไม่ได้เพราะฮ่องเต้สั่งห้ามไว้ขอรับ”

หลังจากผ่านการสอบหน้าพระที่นั่ง ฮ่องเต้จะยังไม่เรียกใช้จอหงวนในทันทีแต่จะรอจนกว่าแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจึงจะเรียกใช้งาน แต่นี่กลับเรียกเข้าห้องหนังสือทุกวันทั้ง ๆ ที่กรมพิธีการยังไม่ได้มอบหนังสือแต่งตั้ง ซ้ำยังไปตำหนักบูรพาขององค์ไท่จื่ออีก?

ท่านแม่ทัพอู๋ซานแค่นเสียงหัวเราะ เขาลุกขึ้นยืน “ไปเตรียมรถม้า ข้าจะเข้าวัง”

หลังจากนั้นสามวัน พ่อบ้านอู่ก็มาตามตัวองค์หญิงให้ไปที่เรือนรับรองด้วยกัน เซี่ยลี่เจินขมวดคิ้ว นางเดินตามหลังพ่อบ้านไปอย่างงง ๆ

พ่อบ้านอู่ผลักประตูเรือนให้เปิดออกกว้าง ผายมือเข้าไปด้านใน “คุณหนู”

เซี่ยลี่เจินกวาดมองที่นั่งด้านใน นางไม่เห็นท่านพ่อ ท่านแม่หรือกระทั่งพี่สี่ของนางทว่ากลับมีคนผู้หนึ่งนั่งละเลียดจอกชาอยู่ด้านในนั้นแทน เซี่ยลี่เจินขมวดคิ้วเพ่งมองอยู่นานจนนางแน่ใจแล้วว่านางเคยเจอคนผู้นี้มาก่อน

“เจ้า!” เซี่ยลี่เจินยกชายกระโปรงเดินเร็ว ๆ เข้าไปด้านใน นางทรุดกายนั่งลงฝั่งตรงข้ามทันที

“เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”

พ่อบ้านอู่แอบสบสายตากับท่านแม่ทัพที่รออยู่ห้องข้าง ฟากบิดาขององค์หญิงนั้นพลันมีสีหน้าเคร่งเครียด ในวันนั้นเขานั่งรถม้าเข้าวัง กล่าวโน้มน้าวพี่ชายต่างแม่อยู่นานสองนานกว่าจะขอยืมตัวจอหงวนคนสำคัญมาที่จวนได้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ลี่เอ๋อร์มาพบเขาอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ยืนยันว่าชายในห้องครัวในวันนั้นคือจอหงวนจริง ๆ อีกส่วนหนึ่งเพื่อต้องการดูปฏิกิริยาของท่านจอหงวน ว่าสุดท้ายแล้วเขาต้องการสิ่งใดกันแน่

เซี่ยลี่เจินรับจอกชาจากสาวใช้ นางรีบกล่าว “ตั้งแต่ที่ได้รับความรู้จากเจ้าในวันนั้นข้าก็รู้ตัวว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่มีบ่าวไพร่คอยทำงานให้” นางดื่มชาลงไปอึกหนึ่งก่อนจะยกยิ้ม

“ข้าเพิ่งได้สังเกตว่าชุนเอ๋อร์ชงชาเก่งมาก ถึงมือของนางจะหยาบกร้าน ไม่เคยเรียนรู้ศาสตร์การชงชาชั้นสูงเช่นข้า แต่ในความคิดข้าก็ไม่มีผู้ใดชงชาได้อร่อยเท่านางอยู่ดี”

นางวางจอกชาลงด้านข้าง ดวงตาดอกท้อโค้งลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว “เมื่อก่อนตอนที่ข้ายังอยู่ชายแดนซันไห่ ถึงจะไม่มีชาขึ้นชื่อมีแต่ใบชาบ้าน ๆ ที่หมักไว้เพียงไม่นาน ชุนเอ๋อร์ก็ยังคงชงชาได้อร่อยยิ่ง ท่าทางของนางก็งดงามเช่นเดียวกับหญิงสาวที่เคยร่ำเรียนศาสตร์การชงชามาจนชำนาญ เป็นเช่นที่เจ้าบอก ไม่มีผู้ใดไร้ประโยชน์จริง ๆ”

ท่านจอหงวนยังคงนั่งละเลียดชาอยู่แบบนั้นไม่ได้ตอบรับสิ่งใดออกไป เซี่ยลี่เจินถอนหายใจ ก่อนจะกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของนางติดจะเศร้าสร้อยเล็กน้อย

“แม้ตัวข้าจะยังไม่รู้ว่าทำสิ่งใดได้ดีบ้างแต่ข้าก็มอบเงินให้พวกนางมากขึ้น ให้เหมาะสมกับความสามารถที่พวกนางทุ่มเทลงไป ช่วงนี้ข้าเริ่มตั้งใจเรียนกับอาจารย์ที่ท่านพ่อท่านแม่หามา พยายามเสียสละบางสิ่งบางอย่างที่ข้ารู้สึกว่าถ้ามีมากพอแล้วให้พวกเขาบ้าง เจ้าว่าข้าทำเช่นนี้ถูกต้องแล้วหรือไม่”

อีกฝ่ายวางจอกชาลงด้านข้าง ยกมือขึ้นประสานคำนับ เขาเอ่ยปากชื่นชม “องค์หญิงช่างปราดเปรื่องนัก”

เซี่ยลี่เจินพลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่นางได้ประสบพบเจอให้เขาฟัง บางครั้งยังเอ่ยขอคำแนะนำจากเขาอย่างไม่ถือตัวว่าตนเองเป็นองค์หญิง ความคิดบางอย่างในตัวนางค่อย ๆ เปลี่ยนไป ท่านจอหงวนคนใหม่เอ่ยสั่งสอนนางตามมารยาทได้อย่างเหมาะสมจนเซี่ยลี่เจินยิ่งรู้สึกสนิทใจกับเขามากขึ้นไปอีก

บรรยากาศในห้องรับรองนั้นแตกต่างจากการพบปะของชายหนุ่มหญิงสาวเป็นอย่างมาก ด้วยเซี่ยลี่เจินนั้นมองเขาราวกับคนเฒ่าคนแก่ที่นางเคารพ ส่วนเขาก็เว้นระยะห่างกับนาง ไม่มองหน้าและไม่เอ่ยอะไรที่เกินตัวจนดูผิดธรรมเนียม ท่านแม่ทัพที่ยืนมองคู่หนุ่มสาวอยู่นานสองนานก็เดินเข้าห้องไป

เซี่ยลี่เจินหันมองท่านพ่อ นางลุกขึ้นไปดึงเขาให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยแนะนำคนที่นั่งตรงข้ามอย่างกระตือรือร้น “ท่านพ่อ นี่คือชายคนนั้นที่ลูกเล่าให้ท่านฟัง”

ท่านแม่ทัพอู๋ซานเหลือบมองท่านจอหงวนครู่หนึ่ง เขาหลุบสายตามองบุตรสาว “ลี่เอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท นี่คือท่านจอหงวนจี้ชิงหยาง ทูตสวรรค์ที่เง็กเซียนฮ่องเต้ส่งมาให้ฉางอันของเรา”

เห็นดังนั้นจี้ชิงหยางก็รีบลุกขึ้น เขาประสานมือยกขึ้นคารวะท่านแม่ทัพทันที “ท่านแม่ทัพกล่าวหนักเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงบัณฑิตยากจนเท่านั้น ไหนเลยจะคู่ควรกับคำยกย่องของท่านกัน”

ท่านแม่ทัพหัวเราะเบา ๆ “เป็นคนหนุ่มที่ถ่อมตัวจริง ๆ” เขาเดินไปนั่งที่ตำแหน่งเจ้าบ้าน โบกมือให้ทั้งสองนั่งลง “ท่านจอหงวนนั่งลงเถอะ ลี่เอ๋อร์ เจ้าก็ด้วย”

เซี่ยลี่เจินนั่งลงด้วยความช่วยเหลือของสาวใช้ นางคล้ายกับโดนสายฟ้าฟาดใส่ร่างอย่างจังจนไม่รู้ว่าจะต้องทำสิ่งใดต่อ ดวงตาคู่งามหันมองชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่กำลังนั่งคุยเรื่องงานราชการกับท่านพ่อของนางได้อย่างลื่นไหล หัวข้อพวกนั้นมันเกินความสามารถของนางไปมากจนยิ่งนั่งฟังก็ยิ่งเหมือนมีใครเอาของแข็งมาทุบตีศีรษะนางให้ปวดไปหมด ท่านจอหงวนอยู่สนทนาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็รีบขอตัวกลับ กล่าวอ้างว่าต้องไปยังวังบูรพาต่อ เห็นดังนั้นเว่ยชินอ๋องก็ไม่รั้งไว้ ปล่อยเขาออกไปอย่างง่ายดาย

สายตาคมกริบของแม่ทัพอู๋ซานมองตามแผ่นหลังบอบบางของลูกสาวไป

เซี่ยลี่เจินกลับถึงเรือนด้วยใบหน้าแดงก่ำอย่างอับอาย นางเรียกเขาปาว ๆว่าเป็นบ่าวชายแต่แท้จริงแล้วเขากลับเป็นถึงจอหงวนที่เสด็จลุงฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงฉลองให้เขาถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน นางถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยอ่อน ทว่าในตอนที่กำลังจะเอนหลังลงนอนนั้นก็พลันนึกขึ้นได้ว่าตนเองยังไม่ได้กล่าวกับท่านพ่อสักคำ

เซี่ยลี่เจินวิ่งกลับไปที่ห้องหนังสือของท่านพ่อ นางนั่งลงที่โต๊ะกลมตัวเดิมเอ่ยเสียงค่อย “ขออภัยท่านพ่อเจ้าค่ะ ข้าเสียมารยาทกับแขกของท่านพ่อแล้ว”

“เจ้าไม่รู้ก็ช่างเถอะ” ท่านแม่ทัพอู๋ซานโบกมือปัด “เจ้าคิดว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

เซี่ยลี่เจินทำสีหน้าครุ่นคิด ไม่นานนางก็ตอบออกมา “น่าเคารพนับถือ สมควรแก่อายุและความรู้เจ้าค่ะ”

ท่านแม่ทัพอู๋ซานพยักหน้ารับ “เจ้าออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวพ่อจะจัดการงานสักหน่อย”

“เจ้าค่ะ ลูกลานะเจ้าคะท่านพ่อ”

ท่านแม่ทัพไม่ได้ลุกไปจัดการงานราชการพวกนั้นในทันที เขาส่งสัญญาณลับ สายลมพัดผ่านใบหน้าเพียงครู่เดียวก็มีเงาสายหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเขา

“ไปสืบเรื่องของจี้ชิงหยางมา”

“ขอรับ ท่านแม่ทัพ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel