6 นาจิป องครักษ์ผู้หลงรักการิตา
“เออ ในเมื่ออยากให้ข้าคิดอย่างนั้นก็จงเป็นนางกำนัลต่อไปเถิด ถ้าหากไม่ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เจ้าจะไม่สมหวัง”
อาซิฟกล่าวที่แฝงด้วยความนัยบางอย่างเอาไว้ บุตรสาวชะงัก วางมือลงบนตัก มองหน้าบิดาด้วยสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย อาซิฟยังคงวางท่านิ่งเช่นเดิม ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา รู้ว่าการทำเช่นนี้ กระตุ้นให้บุตรสาวกระตือรือร้น
“ท่านพ่อพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร”
“ข้าแว่วๆ มาว่า ชีค ซาอุดกับพระนางอานีได้ทาบทามพระราชธิดาจากเมืองขึ้นแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะให้เป็นพระชายาใน ชีค อาดัมชาร์ น่ะสิ”
“หา ท่านพ่อ ว่าไงนะ ทั้งสองพระองค์กำลังหาพระชายาให้ ชีค อาดัมชาร์ งั้นหรือ ไม่นะ ข้าไม่ยอมเด็ดขาด”
หญิงสาวตกใจสุดขีด เมื่อรู้ว่ามีคู่แข่งเป็นเจ้าหญิงต่างเมือง นางเป็นแค่บุตรแม่ทัพจะสู้ได้อย่างไร คิดว่าจะต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะครอบครอง ชีค อาดัมชาร์และต้องจัดการให้รวดเร็วที่สุด
“เจ้ามัวแต่โวยวายอยู่อย่างนี้ไง พระองค์รำคาญ เบื่อหน่าย ชอบอยู่อย่างสงบ เอาอกเอาใจท่านให้มากที่สุด”
“ท่านพ่อไม่รู้อะไร ข้านี่แหละ เอาใจ ชีค อาดัมชาร์ มากที่สุด จนแทบจะเปลือยร่างอยู่แล้ว แต่พระองค์ไม่เห็นใจข้าเลย มองเหมือนเป็นอากาศธาตุ อีกทั้งพูดจาให้เจ็บปวดหัวใจ”
“อดทนเอาไว้แล้วจะดีเอง เชื่อข้าเถอะนะ อย่างไรเสีย ข้าคงไม่อยากเห็นคนต่างเมืองมาฉกฉวยเอาสิ่งดีๆ ในชีวิตของเจ้าไปหรอก”
บิดาโอบร่างบุตรสาวแสนสวยเข้ามาซบที่อก มือนิ่มลูบลงบนเส้นผมอันยุ่งเหยิง นับตั้งแต่มารดาของนางจากไปก่อนวัยอันควร เขาเลี้ยงดูการิตาด้วยความรัก เอาใจเต็มที่ ทำให้นางกลายเป็นหญิงเจ้าอารมณ์
อยากได้อะไร จะต้องได้สมใจปรารถนา เมื่อผิดหวังจะอารมณ์เสีย เอะอะโวยวาย ไม่มีใครเข้าหน้าติด
ก่อนหน้านั้นการิตาปรารถนาที่จะเป็นพระชายา เขาจึงพาไปฝากให้ทำงานในพระราชวัง นางได้เป็นหัวหน้านางกำนัล ถวายงานใกล้ชิดแด่ ชีค อาดัมชาร์ หวังแต่เพียงว่าพระองค์จะให้ความเมตตา จนถึงขั้นเสน่หา สุดท้ายไม่เป็นตามหวัง หญิงสาวเศร้าใจ ผู้เป็นพ่อจะต้องออกโรงช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้สักแค่ไหน
เรือนร่างงามในชุดคลุมยาวสีสวย คลุมใบหน้าด้วยฮิญาบบางๆ สีเดียวกัน กำลังเดินผ่านไป นาจิปมองด้วยดวงตาเป็นประกาย ตั้งแต่เห็นการิตาครั้งแรก รู้สึกถูกชะตา เกิดจิตปฏิพัทธ์ทันที พยายามที่จะสานไมตรี
ทว่าหญิงงามกลับปฏิเสธ เมินเฉย ไม่แยแสและใช้ถ้อยคำให้เจ็บช้ำบ่อยๆ แต่เขาก็ยังรักนางไม่เสื่อมคลาย
“แม่นางการิตา ไปไหนหรือนั่น”
“อ้าว! ท่านองครักษ์โผล่ออกมาจากข้างเสาอย่างนี้ ทำเอาข้าตกใจหมด คิดว่าภูตผีเสียอีก ถอยไปเถิด ข้าจะรีบไปถวายงาน ชีค อาดัมชาร์”
“แม่นางพูดเช่นนี้ บั่นทอนใจข้าเหลือเกิน”
“ท่านนี่คงพูดไม่รู้เรื่องแล้วกระมัง ถอยไป พระองค์จะรอ”
“รออะไรเล่า เจ้าคงไม่รู้สินะว่า วันนี้ ข้ากับพระองค์จะต้องออกไปนอกเมือง”
ทันทีที่ได้รับรู้ หญิงงามเบิกตากว้าง ตกใจทุกครั้งที่ ชีค อาดัมชาร์ ออกนอกพระราชวัง รู้สึกเป็นห่วง เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากศัตรูและหวาดหวั่นกลัวว่าพระองค์เจอสตรีงามถูกใจแล้วพามาเป็นพระชายา
หากว่าเป็นไปได้ นางต้องการให้พระองค์อยู่แต่ในพระราชวังเท่านั้น แต่ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น นอกจากภาวนาขอให้เปลี่ยนพระทัย
“ไปอีกแล้วหรือ ไปไหนล่ะ”
“ความลับ บอกไม่ได้”
“แม้แต่ข้า คนในเมืองเดียวกัน”
“ใช่ บอกใครไม่ได้เลย ถ้าหากว่ามีศัตรูเล็ดลอดเข้ามา แล้วจับตัวเจ้าไปรีดหาความจริงล่ะ อันตรายเกิดขึ้นแก่พระองค์อย่างแน่นอน”
เหตุผลที่นาจิปยกขึ้นมาอ้างนั้น การิตาเห็นพ้องด้วย แต่ยังคงเป็นห่วงเช่นเดิม เผลอจับมือใหญ่ขององครักษ์เอาไว้แน่น ร่ำร้องด้วยเสียงอ้อนวอน นาจิปร้อนผ่าวไปทั้งตัว ครั้งแรกที่ได้สัมผัสต่อหญิงงาม ชื่นใจอย่างถึงที่สุด
“นาจิป รั้ง ชีค อาดัมชาร์ เอาไว้ได้ไหม อย่าให้พระองค์ออกไปเลย ข้าเป็นห่วง”
“ไม่ได้หรอกแม่นาง หน้าที่ต้องพึงกระทำ เมื่อก่อน ชีค ซาอุด ก็กระทำเช่นนี้ กระทั่งปล่อยวางให้ ชีค อาดัมชาร์ ปฏิบัติต่อ”
“ข้าเป็นห่วง เกรงว่าพระองค์จะได้รับอันตราย”
“อย่ากังวล ข้ากับทหารไม่ปล่อยให้พระองค์เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอก ข้าอยากรู้นักเจ้าห่วงแต่ ชีค อาดัมชาร์เพียงพระองค์เดียวหรือ แล้วข้าล่ะ”
ยื่นใบหน้าหล่อเข้มเข้าใกล้ๆ ยิ้มหวาน ทำตากรุ้มกริ้ม การิตารู้สึกตัวกระชากมือออกอย่างรวดเร็ว ถลึงตาใส่ทันที
“อย่ามาทำอย่างนี้กับข้า”