16 การิตาไม่แยแสนาจิป
ไม่ว่าคนรับใช้จะพูดเช่นไร การิตาหาได้สนใจแต่อย่างใด ล้มตัวลงนอนอย่างเกียจคร้าน หลังจากไปดูแลงานในพระราชวัง กลับเข้าบ้านในเวลาเย็น ทันทีที่มาถึงไม่ทำอะไร นอกจากสั่งให้แม่ครัวนำอาหารมาให้รับประทานและนอนให้คนรับใช้นวด
วันนี้เสียอารมณ์ตรงที่นาจิปดักพบก่อนออกจากพระราชวัง ในขณะที่กำลังก้าวเดิน เขาวิ่งมาดักหน้า ส่งยิ้มให้ นางพยายามหันหนีไม่ยอมมอง แต่เขาก็ยังคงขยับตามเพื่อที่จะได้พูดคุย
การิตายังจำได้แม่นว่า อารมณ์เปลี่ยนทันทีที่เห็นหน้านาจิป ทั้งที่เมื่อครู่มีความสุข อิ่มเอมใจ เมื่อรู้ว่า ชีค อาดัมชาร์ กลับมาแล้ว
“แม่นางการิตา คุยกับข้าก่อน”
“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับท่าน รีบกลับบ้าน ถอยไป”
ปฏิเสธอย่างสิ้นเยื่อใย ด้วยเสียงห้วนกระชาก ไร้ความอ่อนหวาน แทนที่นาจิปจะท้อ กลับส่งยิ้มให้เช่นเดิม
ได้แต่นึกค่อนในใจ ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงหน้าด้านหน้าทนได้ถึงขนาดนี้ แสดงกิริยาไม่ดีออกไปกลับไม่ถอย รุกหน้าที่จะเข้ามาเพื่อสานความสัมพันธ์อันดี
สำหรับนางแล้วเมินเสียเถอะ ในเมื่อไม่มีจิตปฏิพัทธ์ อย่าได้หวังว่าจะได้รับไมตรีกลับไป
“ขอเวลาไม่มากนัก แม่นางการิตา โปรดฟังข้า”
“มีอะไรก็พูดไป อย่ากล่าวเกริ่นเช่นนี้ ข้าเหนื่อย อยากไปพัก ท่านไม่รู้หรอกว่าในแต่ละวัน ข้าทำอะไรบ้าง”
เสียงเริ่มดังด้วยความไม่พอใจ และเอาผ้าคลุมพันใบหน้า ไม่ยอมให้นาจิปเห็นและรู้ว่าเวลานี้เขาเศร้ามากเพราะจากดวงตาคู่นั้นบ่งบอกออกมา สำหรับนางแล้วหาได้ใส่ใจแต่อย่างใด นางจะทำทุกอย่างเพื่อให้นาจิปเลิกสนใจ
“ข้าเห็นใจแม่นางการิตาที่สุดจะต้องทำงานที่หนัก”
“ใช่ ในเมื่อรู้ว่าข้าเหนื่อยถึงขนาดนี้ อย่าได้มากวนใจ”
“ข้าก็แค่ขอเวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง แม่นางข้ากับเพื่อนทหารด้วยกันลงไปขุดอัญมณีชิ้นนี้มาให้แก่ท่าน กว่าจะสกัดออกมาได้ เสี่ยงอันตรายต่อทรายถล่มลงมาฝังร่าง”
เขายื่นถุงผ้าขนสัตว์ส่งให้ แต่การิตาไม่ยอมรับ ไม่แม้แต่จะมอง นาจิปร้อนวาบไปทั้งตัว เมื่อรู้ว่านางในดวงใจไม่ตื่นเต้นต่อสิ่งที่มอบให้
“แล้วใครใช้ให้ท่านลงไปล่ะ”
การิตาจำได้ว่าพูดอย่างนี้ออกไป รู้ว่าทำร้ายจิตใจอย่างแรง แต่ไม่สนใจเพราะต้องการที่จะให้เขาหนีไปจากชีวิต เบื่อ รำคาญ ทุกครั้งที่เจออยากจะตะโกนไล่ด้วยถ้อยคำต่ำทราม แต่ทำไม่ได้เพราะต้องการรักษาภาพพจน์หญิงผู้สง่างามเอาไว้
นาจิปยังคงยื่นถุงผ้าขนสัตว์ค้างคาเอาไว้เช่นเดิม รอจนกว่าการิตาจะรับเอาไว้ แต่คนไร้น้ำใจเช่นนาง หาได้แยแสแต่อย่างใด ต่อให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นเป็นเวลานานนับวันก็ปล่อยให้อยู่เช่นนั้น ถือว่าทำตัวเอง
องครักษ์ผู้นี้กระจอกเกินไป ไม่ทัดเทียมกับนาง บุตรีแม่ทัพใหญ่แห่งอัลคัสซาร์ จะต้องได้คู่ชีวิตที่ดีกว่านี้และในแผ่นดินอัลคัสซาร์จะมีแต่เพียง ชีค อาดัมชาร์ เท่านั้น ชายอื่นอย่าได้เผยอคิดเทียบเทียม โดยเฉพาะนาจิปช่างต่ำต้อยสิ้นดี
“แม่นาการิตา ไม่ยลก่อนหรือว่าสวยงามเพียงไหน”
“นี่ท่าน นาจิป ทำไมต้องคะยั้นคะยอให้ข้าดูด้วยล่ะ ในเมื่อข้าไม่สนใจ ไม่ชอบ มันจะวิเศษขนาดไหนเชียว แค่กรวดหินธรรมดาเท่านั้น”
หญิงใจร้ายเริ่มเสียงดังด้วยความไม่พอใจต่อสิ่งที่นาจิปพยายามยัดเยียดให้ ก่อนที่เขาจะอ้อนวอนให้นางรับ ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา นาจิปคิดหาวิธีที่จะให้นางรับของที่ตั้งใจนำมาให้ ทำท่าคุกเข่า การิตาเห็นดังนั้น ถามด้วยเสียงดังๆ
“ท่าน ท่านจะทำอะไร”
“นั่งคุกเข่า ต่อหน้าแม่นาง จนกว่าจะรับถุงนี้ไป”
“บ้าจริง ถ้าท่านทำอย่างนั้น คนอื่นจะคิดยังไง คงเข้าใจว่า ข้ากับท่านเป็นคนรักกัน โธ่ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ”
“แม่นางไม่มีใจให้ข้าเลย เรื่องนี้ข้ารู้ดี แต่แม่นางคือหนึ่งในดวงใจขององครักษ์ผู้ต่ำต้อยที่ชื่อนาจิป”
เสียงที่กล่าวออกไปเริ่มดังขึ้น ต้องการที่จะให้ทหารกลุ่มนั้นได้ยิน การิตารับรู้ถึงความประสงค์ของเขาเป็นอย่างดี สะบัดหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็คว้าถุงบรรจุอัญมณีเอาไว้ สำทับด้วยการไล่เบาๆ
“ไปซะ เดี๋ยวคนเห็นจะคิดว่าท่านกำลังขอความรักจากข้า”
“ความจริง ข้าก็ปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน เมื่อไหร่จะเห็นใจต่อความรักที่ข้ามอบให้เสียที”
“ท่านนี่พูดไม่รู้เรื่อง ข้า ข้าไปล่ะ”
ด้วยเกรงว่าจะมีคนได้ยิน การิตาสาวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะหันมอง นาจิปในเวลานั้นเศร้าจนแทบไม่มีแรงที่จะก้าวเดิน นอกจากยิ้มแห้งๆ เมื่อเพื่อนทหารสอบถามว่ามาทำอะไรอยู่ตรงนี้