ใช้ชีวิตเป็นฟางเหม่ยอิง
เมื่อกลับถึงบ้านเหม่ยอิงก็คุยกะครอบครัวฟางว่า"ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกหายดีแล้วแต่ร่างกายของลูกเหมือนกับว่าขาดอะไรบางอย่าง ลูกขอไปที่ป่าบนเขาได้ไหมเจ้าคะ ลูกรับรองจะไม่ทำให้เป็นห่วง นะเจ้าคะ"
เมื่อตกลงกันได้แล้วก็เข้านอน เหม่ยอิงตื่นแต่เช้ามืดออกกำลังกายแบบอนที่เป็นยูเซริ แต่เริ่มจากเบาๆก่อนในระยะแรก หลังจากพร้อมแล้วก็ฝึกหนักเป็นเพราะเหม่ยอิงตระหนักว่าคนแข็งแกร่งถึงจะอยู่รอด โดยได้หารู้ว่ามีคนสังเกตดูอยู่ห่างๆ
บนเขาที่มีหน้าผาสูงมีชายชราคนหนึ่งมองดูการฝึกของเหม่ยอิงทุกวัน มีความพอใจและสนใจในสายตาที่มอง
จนวันที่เหม่ยอิงฝึกจนเข้าทีเข้าทาง ขณะที่เหม่ยอิงกำลังจะกลับบ้าน เกิดฝนตกหนัก นางจึงวิ่งไปที่ใต้หน้าผาหาที่หลบฝน จึงได้พบกับชายชรา นางก็ไม่พยายามทำเสียงดังกลัวว่าจะรบกวนผู้อาวุโส จนฝนเริ่มซานางจึงหันกลับไปมอง และเตรียมจะเดินจากไปแต่กลับได้ยินชายชรากล่าวขึ้นว่า "สนใจอยู่กับข้าหรือไม่"
เหม่ยอิง "...."
"กลับไปคิดแล้วกลับมาในอีก 2 วัน"ชายชราเอ่ยอีกครั้งก่อนจะหายไปจากตรงนั้น
เมื่อเหม่ยอิงกลับมาถึงบ้าน กินข้าว อาบน้ำ ก่อนที่เตรียมตัวจะเข้านอน จึงเดินไปคุยกะ ฟางหลิวจง และ ฟางเหม่ยเอิน เรื่องที่ชายชราได้กล่าวไว้
"พ่อกับแม่ ไม่ว่าอะไร พวกเราเคารพการตัดสินใจของลูกนะเหม่ยอิง"
เหม่ยอิงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมตัวโดยมีสองสามีภรรยาฟางเดินมาส่งหน้าบ้าน เมื่อเดินมาถึงหน้าผาตรงปากถ้ำ เหม่ยอิงก็มองเข้าไป กลับไม่ปรากฎชายชรา นางจึงไม่เข้าแต่เลือกที่จะวางสัมภาระแล้วออกกำลังกายแทนสักพัก ก็มีนกตัวใหญ่บินลงมาตรงหน้า โดยมีชายชราอยู่บนหลัง
"ขึ้นมาสิเราจะได้เดินทาง ต้องใช้เวลาเดินทางครู่ใหญ่" ชายชรากล่าว
เหม่ยอิง "......" เดินไปหยิบสัมภาระแล้วขึ้นไปบนหลังนกตัวใหญ่โดยนกตัวนั้นโน้มกายลงเพื่อให้เหม่ยอิงขึ้นไปได้ พอเดินทางได้สักพัก ชายชราเหลือบมองเหม่ยอิง นึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นนางไม่มีอาการใดๆเลย นิ่งเฉย ออกไปทางชื่นชอบซะอีก เมื่อมองเห็นเขาลูกหนึ่งชายชราก็กล่าวว่า "ถึงแล้ว"
พอลงจากหลังนกชายชราก็เอ่ยขึ้นว่า"ฟางเหม่ยอิง คือชื่อของเจ้าใช่หรือไม่"
"เจ้าคะ ที่นี่คือที่ไหนเจ้าคะ "เหม่ยอิงถาม
"นี่คือหุบเขาปีศาจ ไม่มีใครเข้ามาถึงที่นี่ได้ ถ้าข้าไม่ได้พาเข้ามา" "เจ้าเอาของไปเก็บที่เรือนฝั่งขวามือ แล้วข้าจะตอบเจ้าทุกอย่าง"
เหม่ยอิง"เจ้าคะ"ตอบกลับพร้อมกรอกตามองบน อย่างหมั่นใส้ แล้วเดินไปตามทางเดินถึงเรือนนอนขนาดกลางกำลังพอดีอยู่อาศัย เมื่อเก็บสัมภาระเสร็จ จึงไปชำระร่างกายเรียบร้อย จึงเดินกลับห้องโถงใหญ่ที่มีชายชรานั่งรออยู่แล้ว
"นั่งสิ เจ้ามีอะไรจะถามข้าหรือไม่ ถ้ามีก็ถามมา หลังจากนี้ห้ามมาถามอีก"
"ท่านคือใคร? ท่านรู้จักข้าได้อย่างไร? ท่านจะสอนอะไรข้า? นานหรือไม่? ที่นี่ไม่มีคนอื่นๆอยู่ที่นี่รึ?"
"อืม เอาล่ะข้าจะตอบเจ้า ที่นี่ไม่มีคนอยู่นอกจากข้าซึ่งระหว่างทางที่ไปทำธุระ ข้าได้พบเจ้าฝึกร่างกายอยู่ ข้าสนใจในความพยายามของเจ้าเลยคิดว่าเจ้าเหมาะสมที่จะเป็นผู้สืบทอดของข้า ข้ามีนามว่า ซีซวน คนส่วนใหญ่เรียกข้าว่า เฒ่าปีศาจ เพราะข้าอาศัยในหุบปีศาจ ส่วนชื่อเจ้าไม่ใช่เรื่องอันใด ข้าจะสอนเจ้าทุกอย่างใช้เวลาสาวนใหญ่ในหุบเขาเท่านั้น "
"เจ้าคะ"
"เจ้าได้ฝึกร่างกายไปแล้ว ที่เหลือก็ง่ายขึ้น แต่ผลเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ตัวเจ้าแล้วนะ"
"นี่ก็ปีกว่าแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องออกเดินทางเพื่อฝึกฝนและช่วยเหลือผู้คนบ้างแล้วนะ ข้าไม่มีอะไรจะสอนเจ้าแล้ว เมื่อเจ้ากลับมาข้าคงไม่อยู่แล้ว"
"ท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ ท่านตา แล้วหุบเขานี่เล่าทำเยี่ยงไร"
เฒ่าปีศาจล่วงเข้าไปในแขนเสื้อ หยิกหยกที่ไม่มีลวดลายอะไร ลักษณะเหมือนก้อนกวาดเนื้อหยาบๆออกมาแล้วส่งให้เหม่ยอิง"มันคือสิ่งแทนตัวข้า เมื่อจำเป็นเจ้าสามารถนำออกมาใช้ได้ อย่ามองว่ามันไม่สวย เมื่อมีเวลาก็ศึกษามันดู มันอยู่คู่หุบเขาปีศาจมานานแล้ว"
เหม่ยอิงรับเอาก้อนหยกมายัดไว้ในกระเป๋าผ้าข้างเอว นางนึกในใจว่า "อยู่กะตาเฒ่ามานานย่อมรู้ว่าของทุกอย่างของตาเฒ่านั้นสำคัญยิ่งนัก"เมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้วจึงหยิบผ้าขาวบางมาปิดหน้าแล้วกล่าวลาตาเฒ่าปีศาจขึ้นนกตัวใหญ่บินออกจากหุบเขาไป
ส่วนตาเฒ่าปีศาจถอนหายใจออกมา ก่อยจะเอ่ยหลังจากเหม่ยอิงออกเดินทางไปแล้วว่า "ขอให้โชคดี ตาของเจ้าคงช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ หลานสาวของข้า"จากนั้นร่างของชายชราก็หายวับไปทันที