ชะตากรรมขององค์หญิง
เจียหลันยังคงก้มหน้านิ่งเงียบอยู่เช่นนั้น นางจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยอย่างเด็ดขาด
“ ถ้าหากพี่เจียหลันไม่ยอมบอกก็ไม่เป็นไร ข้าจะไปหาคำตอบโดยการสอบถามจากคนอื่น มิเช่นนั้นก็พวกทหารทั้งหลายเอาเองก็ได้ ”
“ ไม่ได้นะเพคะองค์หญิง ไม่ได้ มันไม่งาม ! ” อีกฝ่ายตกใจและรีบลนลานลุกขึ้นกอดแขนองค์หญิงของตนเองไว้ อีกฝ่ายยิ้มจนเห็นรอยบุ๋มที่สองแก้มอย่างพอใจ
“ ดี ถ้าเช่นนั้นพี่ก็ต้องบอกข้ามาทุกสิ่งอย่าง ว่าสิ่งใดที่เหล่าทหารต้องการยิ่งกว่าเงินทองหลังออกรบ ”
เจียหลันเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะกระซิบกระซาบเบา ๆ ที่พระกรรณขององค์หญิง
“ ก็เรื่องอย่างว่าอย่างไรเล่าเพคะ ตัณหาราคะ บทรักระหว่างชายหญิง ” คำบอกเล่านั้นทำให้คนฟังหน้าแดงก่ำ ทั้งที่เป็นคนอยากรู้เองแท้ ๆ นั่นทำให้นางรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
“ หม่อมฉันสมควรตาย ที่เอาเรื่องน่าละอายมาพูดให้องค์หญิงได้ฟัง ”
“ พอเถอะพี่เจียหลัน พี่ไม่ได้ผิดอะไรเสียหน่อย อีกอย่างข้าก็เป็นคนถามพี่เอง สรุปว่า สิ่งที่จอมทัพเถื่อนผู้นั้นกระหายใคร่อยากคือสตรีเพื่อไปรองรับความหื่นกามของตัวเองเช่นนั้นหรือ ” องค์หญิงยิงคำถามตรงประเด็น เจียหลันได้แต่ก้มหน้าก้มตาตอบคำถามเบา ๆ
“ เช่นนั้นเพคะ ”
“ น่าสงสารสตรีผู้นั้นที่ต้องไปรับใช้บุรุษร่างใหญ่อย่างกับม้าและหยาบคายรุนแรงเช่นเขาเหลือเกิน ”
“ หาใช่สตรีผู้นั้น เท่านั้นไม่เพคะ ” สาวใช้แย้ง คิ้วงามขมวดมุ่นด้วยความสงสัย
“ อย่างไรหรือ ”
“ สตรีเดียวไม่เคยพอสำหรับท่านแม่ทัพเหิงหรอกเพคะ ”
“ บัดสีนัก ! ”
“ และความหยาบคายรุนแรงหากอยู่บนเตียงแล้ว หาใช่เป็นเรื่องไม่ดีแต่อย่างใด โอ หม่อมฉันพูดมากไปอีกแล้ว ”
เจียหลันนึกได้ปากยกมือขึ้นปิดปากของตนเองเอาไว้ แต่สายไปเสียแล้ว องค์หญิงที่อยู่ในวัยดรุณีผลิแย้มกำลังอยากรู้อยากเห็นยิ่งตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ อย่างไรหรือพี่เจียหลัน บอกข้ามาเถอะน่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ต่อไปภายภาคหน้าข้าก็ต้องออกเรือนแต่งการกับบุรุษผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ดี ข้าจะทำเช่นไรหากไม่มีความรู้บ้างเลย ”
“ โอย องค์หญิงเพคะ ไม่ต้องมีความรู้ใด ๆ หรอก ธรรมชาติจะสอนเราเอง อย่าถามกระหม่อมอีกเลยเพคะ ”
“ ไม่ถามก็ไม่ถาม ” องค์หญิงซูเม่ยจำต้องยอมจำนน
“ ดีเพคะ ถ้าเช่นนั้นกลับห้องบรรทมกันเถอะนะเพคะ หากมีผู้ใดมาเห็นว่าองค์หญิงมายืนลับ ๆ ล่อ ๆ แถวนี้ จะถูกครหาเอาได้ ” องค์หญิงทำเพียงพยักหน้าแล้วเดินนำนางกำนัลกลับไป ทว่าในใจยังคงครุ่นคิดตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ใช่เรื่องที่จะสืบสาวเอาความให้มากนักเพราะมันไม่งาม
***
วันเดือนเลื่อนผ่านประดุจดังสายน้ำที่หลั่งไหลอย่างไม่มีวันหวนกลับ
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น องค์หญิงซูเม่ยก็ต้องตกอยู่ในสภาวะกลัดกลุ้มเหลือเกินด้วยมีการทาบทามเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์ชายต่างเมือง
หานอี๋ตง เจ้าเมืองเจี้ยนจิง แห่งแคว้นปัจจิม ถือได้ว่าเป็นเมืองใหญ่กล้าแกร่งเข้มแข็งเป็นอย่างมาก ได้ส่งคนมาทาบทามองค์หญิงซูเม่ยไปให้กับ องค์ชายหานจิ้งฝู โอรสของตน ซึ่งนางเองก็พึ่งจะเลยวัยปักปิ่น ยังไม่พร้อมที่จะตบแต่งกับผู้ใดทั้งนั้น
“ เสด็จพ่อไม่รักลูกแล้วหรือเพคะ จึงได้ผลักไสลูกให้กับผู้อื่นเช่นนี้ ” นางตัดพ้อด้วยน้ำตาฉ่ำหน่วยตาทั้งคู่ก่อนพร่างพรูอาบสองแก้มใส ผู้เป็นบิดาใช้มือปาดเช็ดน้ำตาให้เหือดแห้งแล้วโอบกอดธิดาอันเป็นที่รักไว้แนบแน่นพลางอธิบาย
“ ที่พ่อทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเจ้าทั้งสิ้น ซูเม่ยของพ่อ พ่อก็นับวันมีแต่จะแก่ชรา หากสิ้นพ่อแล้วผู้ใดจะดูแลเจ้า เหตุนี้พ่อจึงต้องหาสามีที่ดีที่คู่ควรและสามารถปกป้องเจ้าได้ ”
“ แต่ใคร ๆ ก็ลือกันนะเพคะเสด็จพ่อ ว่าองค์ชายจิ้งฝูแห่งเมืองเจี้ยนจิงนั้นเลื่องชื่อนักเรื่องมากชู้ ”
“ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของบุรุษ อยู่ที่ว่าเขาจะยกย่องเจ้าให้เป็นชายาเอก นั่นต่างหากคือเรื่องสำคัญ ”