บทย่อ
โปรย ‘ ข้าจะไม่รุนแรง หากเจ้าไม่วอนขอ ’ แม่ทัพเหิงซื่อหลุน บุรุษสูงใหญ่เรือนกายกำยำผู้โอหัง เย่อหยิ่งจองหอง ทหารรับจ้างผู้ใช้ชีวิตอิสระ มิก้มหัวให้ผู้ใดทั้งนั้น องค์หญิงเหรินซูเม่ย สตรีสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อม งดงามอ่อนโยนทั้งกายใจ หากชีวิตผู้เป็นใหญ่ย่อมต้องอุทิศให้ส่วนรวม หนึ่งบุรุษดุดันกร้านโลกกระหายราคะ หนึ่งสตรีนิ่มนวลไร้เดียงสา ปากว่าเกลียด หากใจอ่อนโอนสั่นไหว ยิ่งยามเผชิญความทุกข์ มีเพียงเขาที่คอยอยู่เคียงข้าง กับหนึ่งคำมั่นนั้น ‘ เจ้าจะปลอดภัยในอ้อมกอดข้า ’ อีกทั้งชั้นเชิงจัดเจนจากรสลิ้นร้ายกาจ ริมฝีปากจัดจ้าน มือสากกร้านอันซุกซน กายแกร่งฉกรรจ์อันสมบูรณ์แบบ ...สตรีใดเล่าจักต้านทานไหว... ตัวอย่าง : “ ท่านพี่เจ้าขา อย่าทำข้าเลยนะเจ้าคะ ” เขาชะงัก กัดกรามแน่นจนเป็นสันนูน เหงื่อเม็ดโป้งผุดพรายทั่วใบหน้าคมสันหล่อเหลานั้นก่อนก้มลงมองเบื้องล่าง ที่ตรงนั้น ลำเอ็นใหญ่โตจรดจ่ออยู่ที่ปากทางรัก ส่วนหัวที่เบ่งบานเปียกเปื้อนไปด้วยน้ำกำหนัดสาวและมันได้คืบลึกเข้าไปเยือนความคับแน่น แม้เพียงนิดแต่ก็รู้สึกได้ถึงการตอดตุบรัดรึงอันแสนเร้าใจ ทั่วเนินเนื้อฉ่ำแฉะเปียกเปื้อนไปด้วยทั้งน้ำลายของเขาและน้ำคาวใคร่ของนาง เขาเงยหน้ากลับไปมองใบหน้างดงามอันแดงก่ำด้วยโลหิตภายในฉีดพล่านเพราะเพลิงตัณหานั้นอีกครา ดวงตาหวานคู่นั้นเยิ้มฉ่ำฉาบเจือไปด้วยแววราคะ ทุกอณูเนื้อมันฉายชัดว่านางก็ต้องการเขาอย่างบ้าคลั่งไม่ต่าง แค่เพียงเขากระทั้นบั้นเด้าเข้าสู่ภายในเท่านั้น...
แม่ทัพเหิง
ณ เมืองหงโจว เมืองที่อยู่ไกลโพ้นท่ามกลางหุบเขาเทียนเล่อในพื้นที่อุดมสมบูรณ์และสงบสุขด้วยบุญญาบารมีแห่งท่านเจ้าเมืองผู้ผดุงความสุขและยุติธรรมมาสู่ประชาชนของท่านเสมอ
หากเวลานี้ กาลเวลาได้พรากทุกสิ่งอย่างไปจากท่าน วัยหกสิบห้าปีกับการกรำทั้งบู๊และบุ๋นทำให้ท่านอ่อนแอลงไปมาก จะแต่งตั้งผู้ใดขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองแทนก็ยังมิเห็นสมควรจึงได้แต่รั้งตำแหน่งประคับประคองไปก่อน
เมืองที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ทำให้เป็นที่หมายปองของหัวเมืองใหญ่ที่พยายามขยายอาณาเขต
หงโจวมิได้สงบสุขดังเช่นเคย แม่ทัพและทหารกล้าต้องฝึกฝนการรบพุ่งและออกศึกสงครามอยู่เสมอ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่หงโจวได้รับข่าวดี
“ ท่านแม่ทัพเหิงกลับมาแล้ว เราชนะ เราชนะ ! ” เสียงเซ็งแซ่ของเหล่าทหารหาญดังขึ้น
เหรินต้าฝง เจ้าเมืองวัยชราออกมายืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูเมือง แม้กาลเวลาจะพรากความงดงามแห่งร่างกายไป มากโข แต่พระองค์ยังคงความมีสง่าราศีน่าเกรงขามอยู่ไม่น้อย สมกับที่เคยเป็นเจ้าเมืองผู้เก่งกล้าทั้งการบริหารและการรบพุ่ง แต่ยามนี้วัยหกสิบห้านั้นทำให้พระองค์ต้องยอมจำนนต่อสังขาร และเป็นเหตุให้เกิดจอมทัพคนใหม่
เขาคือท่านแม่ทัพเหิง หรือเหิงซื่อหลุน
ทัพหงโจวนั้นแม้จะขึ้นชื่อถึงความเข้มแข็งแต่สิ่งใดก็มิอาจจีรัง ยิ่งในศึกสงครามแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้และเหิงซื่อหลุนก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ณ เวลานั้น
เขามาจากไหนหาได้มีใครรู้ไม่ ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่กำยำกว่าบุรุษใด ๆ นั้นได้ปรากฏตัวขึ้น ขณะที่ทัพหงโจวกำลัง เพลี่ยงพล้ำให้เมืองเถินแห่งปัจจิมทิศ แม่ทัพเอกถูกสังหารบั่นคอ ทหารกล้าสูญเสียกำลังใจและเริ่มระส่ำระสาย เขาผู้นั้นควบอาชาสีนิลดำขลับงดงามพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปัดป่ายเพลงกระบี่อันเฉียบคมและเด็ดขาดสังหารอริราชศัตรูจนหมดสิ้น โลหิตทหารหาญแห่งเมืองเถินหลั่งนองผืนปฐพีคาวคลุ้งแดงฉานพร้อมกับชัยชนะของหงโจว โดยบุรุษนิรนามผู้นั้น
หลังจากนั้นท่านเจ้าเมืองจึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็นแม่ทัพเอกแม้อีกฝ่ายจะแจ้งอย่างชัดเจนว่าตนเองนั้นทำงานเป็นเพียงทหารรับจ้าง
“ ข้ามีอิสระต่อตนเอง ไม่เคยก้มหัวให้ผู้ใด สิ่งเดียวที่ข้าศรัทธานั่นก็คือเงินทอง ”
นั่นคือสิ่งที่เขาแจ้งความประสงค์และท่านเจ้าเมืองก็ประทานให้กับเขาเสียจนเกินที่ร้องขอ
แม้จะรู้ดีว่าไม่วันใดก็วันหนึ่งเขาต้องไปจากที่นี่ แต่ท่านเจ้าเมืองก็พยายามหาสิ่งดึงดูด ประเคนทุกสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เขามีความสุขเพื่อจะอยู่ที่นี่ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพื่อให้เขาช่วยฝึกซ้อมการรบพุ่งให้กับทหารของท่าน ทั้งเรือนพัก เงินทองและสตรีโฉมงามนับไม่ถ้วนและนั่นดูเหมือนจะทำให้เขาพออกพอใจได้มากพอควร เพราะเขาอยู่ที่นี่นานหกเดือนแล้วนับแต่วันนั้น
ประตูเมืองเปิดรอ ม้าสีดำสนิทควบรัวเร็วจนฝุ่นตลบผ่ากลางกองทัพแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเมือง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของชายผู้หนึ่งจะกระโดดลงจากหลังม้า โอบกอดรอบแผงคอมันอย่างสหายรักและเอ่ยถ้อยคำขอบอกขอบใจที่ร่วมศึกมาด้วยกัน
ท่านเจ้าเมืองเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเสียเอง อีกฝ่ายทำเพียงค้อมศีรษะคำนับ ซึ่งนั่นเป็นกิริยาที่เหล่าขุนนางทั้งหลายมองว่ามันช่างยโสโอหังเสียเหลือเกิน
“ เห็นว่าเป็นคนโปรด คิดจะทำสิ่งใดก็ทำ ก็แค่ไอ้โจรกระจอกรับจ้างรบ เหตุใดท่านเจ้าเมืองจึงตามใจมากจนมัน ได้ใจเหลือเกินก็ไม่รู้ ไว้ใจมันได้ที่ไหน เปรียบได้ดังการเลี้ยงงูเห่าที่มันจะกลับมาแว้งกัดได้เมื่อไรก็ได้ ”
แน่ละ บุคลิกเย่อหยิ่งจองหองของเขาไม่เข้าตาหลายคนนัก มีคนรักย่อมมีคนเกลียด และนี่คือเสียงซุบซิบนินทาลับหลังอยู่เสมอ แต่เบื้องหน้าทุกคนต่างเคารพนบนอบเขาด้วยเกรงกลัวความเด็ดขาดเหี้ยมโหดที่ได้ยินมาจากทหารที่เคยร่วมรบ ใครเล่าอยากจะเสี่ยงกับบุรุษผู้ไร้อารยะ ย่อมรักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น