บทที่ 4 จอมเผด็จการ 1.3
ณ ตึกแอนเดอร์สัน
และแล้วการทำงานในบริษัทแม่ก็มาถึง อัศวินมารับพนักงานเก่าจากเมืองไทย แต่ใหม่สำหรับที่นี่ตั้งแต่เวลาแปดนาฬิกา ทุกคนล้วนมีความตื่นเต้นฉาบอยู่ทั่วใบหน้า ไม่เว้นแม้แต่รสสินา หญิงสาวที่ลุย ปะ ฉะ ดะ ยังมีความรู้สึกนั้นเช่นกัน
ไม่ถึงยี่สิบนาทีรถตู้ก็เคลื่อนมาจอดยังลานจอดรถภายในตึกสูงเจ็ดสิบห้าชั้น ซึ่งทุกคนเพิ่งรู้ว่าตึกนี้เป็นของอลาริค แอนเดอร์สัน เจ้านายกิตติศัพท์ระบือไกล เพียงแค่นี้ก็บอกถึงฐานะของเขาแล้วว่า ร่ำรวยมากขนาดไหนพอทั้งหมดก้าวลงมาจากรถทุกคนก็เดินไปยังลิฟต์โดยสารที่ใกล้ที่สุด เพื่อนำคณะเดินทางทั้งหมดขึ้นไปยังชั้นที่เจ็ดสิบ
บริษัทโซเชียลอินเตอร์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ชั้นที่ 72-75 ส่วนชั้นที่ 5-69 จะเป็นสำนักงานให้เช่า ส่วนชั้นใต้ดินจนถึงชั้นที่สี่จะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ร้านค้าต่างๆ เช่าพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม หรือร้านรองเท้าราคาแพงระยับ เป็นต้น
อัศวินพาพนักงานที่เขารับหน้าที่ดูแลไปส่งตามแผนกต่างๆ ตั้งแต่ชั้นที่ 70 จนถึงชั้นที่ 74 และข้างกายของเขาก็เหลือเพียงหนึ่งเดียวที่เขายังไม่พาไปส่งให้ถึงที่คือ รสสินา
“ตื่นเต้นจังเลยพี่วิน กลัวว่าจะถูกกินหัว”
รสสินาใจเต้นตึกตักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความกลัว ความตื่นเต้นวิ่งสลับกันไปมาในความรู้สึก ทั้งที่เตรียมใจมาแล้วแต่พอเอาเข้าจริง เธอกลับประหม่าเป็นที่สุด
“เจ้านายไม่ได้เป็นเสือนะถึงจะได้กินหัว เจ้านายไม่ดุหรอกถ้าเราไม่ทำงานผิด” อัศวินปลอบใจขณะเดินเคียงกันไปยังห้องทำงานของอลาริค แอนเดอร์สัน ที่อยู่บนชั้นสูงสุดของตึก
“มันก็น่าคิดนี่นา ยิ่งพี่วินไม่ตอบคำถามของโรสแต่ให้โรสรู้ด้วยตัวเอง โรสก็ยิ่งคิดมาก” ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ห้องทำงานของประธานบริษัท แข้งขาของเธอดูมันจะอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มองประตูห้องนั้นแล้วใจมันหวั่นๆ รู้สึกว่ามีความน่ากลัวอยู่ด้านหลังประตูบานนั้น
“ไม่ต้องคิดมากหรอก คิดง่ายๆ นะถ้าเจ้านายเป็นไปอย่างที่โรสคิดจริงๆ พี่กับทุกคนในบริษัทจะทำงานอยู่ที่นี่ได้ยังไง ป่านนี้พี่ลาออกไปแล้วไม่ทำงานกับเจ้านายมาตั้งแต่พี่มาฝึกงานที่นี่หรอก อย่าคิดมากคนเป็นเจ้านายก็ต้องมีเฮี้ยบ มีดุบ้างตามประสา แต่ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก”
อัศวินพูดปลอบใจ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกประหม่าไปมากกว่านี้ จะว่าไปแล้วอลาริคไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอย่างที่กล่าวขาน แต่ก็ยอมรับว่ามีเรื่องจริงอยู่บางส่วน
“อืม มันก็จริงของพี่วินนะ” แม้ว่าปากจะเห็นด้วย แต่ใจก็ยังจะแอบค้าน
“พี่จะพาโรสไปทำความรู้จักกับเจ้านายก่อน เพราะถึงยังไงโรสก็ต้องมาเป็นเลขาของเจ้านาย เผื่อว่าเจ้านายจะมีคำแนะนำอะไรโรส ส่วนโต๊ะทำงานของโรสอยู่นอกห้องนะ ติดกับโต๊ะทำงานของเอ็มม่า” เขาอธิบายเพิ่มเติม
“แล้วโต๊ะทำงานของพี่วินล่ะอยู่ที่ไหน?”
“พี่ไม่มีโต๊ะทำงานส่วนตัวหรอก พี่เป็นคนประสานงานให้กับเจ้านายกับแผนกต่างๆ มากกว่า ไปดูงานที่โกดังบ้าง ที่ร้านจิวเอลรีบ้าง ไปดูงานส่งออกบ้าง ถ้ามีความจำเป็นต้องนั่งโต๊ะทำงานจริงๆ ส่วนมากพี่ใช้โต๊ะในห้องประชุมมากกว่า”
อัศวินตอบ กิจการของโซเชียลอินเตอร์ กรุ๊ป มีหลากหลายอย่างครอบคลุมทั่วนิวยอร์กและในรัฐอื่นๆ ของสหรัฐเอมริกา ยังไม่รวมถึงในประเทศต่างๆ อีกหลายสิบประเทศในทุกทวีปของโลก กิจการที่ว่านั้นก็มีโรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่ารวมทั้งร้านค้าต่างๆ ร้านจิวเอลรี โกดังเก็บสินค้าให้เช่า ท่าเรือรวมทั้งตู้คอนเทนเนอร์ให้เช่า และกิจการอีกหลายอย่าง
“ถ้าอย่างนั้นพี่วินก็เหมือนคนสนิทเลยใช่ไหมคะ?”
“ก็ประมาณนั้น” เขาตอบและมาหยุดยืนตรงโต๊ะทำงานของเอ็มม่าสตรีวัยสี่สิบปี เลขาของอลาริค “เอ็มม่านี่โรสพนักงานจากเมืองไทยที่จะมาทำงานที่นี่ในตำแหน่งเลขา ฝากโรสด้วยนะครับ” อัศวินแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
“สวัสดีโรส ยินดีต้อนรับค่ะ” เอ็มม่าทักทายก่อนด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงอันเป็นมิตร
“สวัสดีค่ะพี่เอ็มม่า” สองสาวต่างวัยทักทายซึ่งกันและกัน
“ไปพบเจ้านายกันเถอะ เจ้านายมาตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ แล้ว” เขาเอ่ยบอกสาวชาวไทย
“โห…มาก่อนเวลาทำงานด้วยเหรอพี่วิน ปกติเจ้านายต้องมาหลังลูกน้องไม่ใช่เหรอ?” เธอนึกถึงสมปองที่มักมาหลังพนักงานในบริษัทเสมอ
“เจ้านายจะมาถึงนี่ไม่เกินแปดโมงครึ่ง เจ้านายคิดว่าถ้าเจ้าของบริษัทตรงต่อเวลาทำงาน ลูกน้องก็ต้องปฏิบัติตาม ที่นี่ถึงไม่ค่อยมีพนักงานมาสายมากนัก”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ข้อนี้รสสินาอดที่จะทึ่งไม่ได้
“พร้อมนะโรส” เขาพูดเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่กล่าวขวัญกันว่า มีชายจอมเผด็จการนั่งทำงานอยู่ในห้องนั้น
“ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมค่ะพี่วิน” รสสินายิ่งมีความหวั่นใจหนักขึ้น รู้สึกอึดอัดราวกับมีของหนักวางทับอยู่บนอก
“งั้นเราเข้าไปกันเลยนะ”