บทที่ 5 จอมเผด็จการ 1.4
อัศวินเคาะประตูสามครั้ง ก่อนจะเปิดประตูแล้วผลักมันเข้าไปในห้องให้กว้างมากพอที่เขากับรสสินาจะเดินเข้าไปพร้อมกันได้ ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะทำงานของอลาริค ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในลักษณะหันหลังให้กับคนทั้งสอง เนื่องจากเจ้าของห้องหมุนเก้าอี้ไปหยิบเอกสารตรงชั้นด้านหลัง
“บอสครับ พนักงานที่มาจากเมืองไทยที่จะมาเป็นเลขาของเจ้านายมาถึงแล้วครับ” อัศวินเอ่ยบอกคนที่ยังรื้อค้นหาเอกสาร เขารออยู่ไม่กี่วินาที เก้าอี้ตัวใหญ่ก็หันมายังทิศทางที่อัศวินกับรสสินายืนอยู่
วินาทีนั้นเอง วินาทีที่เห็นใบหน้าของอลาริค แอนเดอร์สัน ร่างกายของรสสินาชาไปหมดทั้งร่าง ตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ว่าได้ ม่านตาขยายกว้าง ใบหน้าเริ่มซีดลง หัวใจก็เต้นแรงผิดจังหวะ งานนี้เธอมีแต่ตายกับตายแน่ๆ เลย ชายตรงหน้าชื่อเสียงไม่ค่อยดีนักจะต้องเอาคืนเธอแน่นอน หรือไม่ก็ไล่ออก
‘โอ๊ยๆๆๆ ทำไงดีเนี่ยทำไงดี เธอมีแม่จะต้องเลี้ยงดู มีบ้านที่ยังต้องผ่อน มีน้องชายที่ต้องส่งให้เรียนจนจบ มาถูกไล่ออกแล้วจะหางานที่ไหนที่เงินเดือนสูงและมีความมั่นคงอย่างบริษัทโซเชียลอินเตอร์ กรุ๊ป ตายๆๆ ตายหยังเขียดแน่ๆ’
รสสินารำพึงรำพันในใจ ไม่คิดว่าคนที่เธอสร้างวีรกรรมไว้เมื่อวันก่อน จะเป็นเจ้านายของตนโอ้…โลกมันกลมอะไรเช่นนี้
อลาริคมองหน้าสาวไทยเขม็ง ทำไมเขาจะจำไม่ได้ว่า สาวตรงหน้าคือใคร แล้วฝากอะไรไว้กับเขาบ้าง ไม่คิดเลยว่าจะเจอสาวแสบคนนั้นที่นี่ มันจะบังเอิญเกินไปหรือไม่ที่เธอจะมาเป็นเลขาของเขา
โลกมันไม่กลมหรอก แต่ฟ้าส่งเธอมาให้เขาชำระความต่างหาก
“สะ…สวัสดีค่ะบอส” รสสินาพนมมือไหว้แบบไทยและทักเขาเสียงค่อนข้างสั่นหลังจากที่อัศวินสะกิดแขนเธอเบาๆ
“อืม…สวัสดี” แต่อลาริคกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบาย แต่สายตามุ่งร้ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“เธอชื่อรสสินาครับ หรือเรียกสั้นๆ ว่าโรส และนี่คือประวัติการทำงานของโรสครับ”
อัศวินแนะนำชื่อเลขาสาวคนใหม่ ก่อนจะวางแฟ้มประวัติการทำงานของหญิงสาวลงบนโต๊ะ อลาริคหลุบตาต่ำมองเอกสารแล้วเหลือบตามองหน้ารสสินาอีกครั้ง เอื้อมมือไปหยิบแฟ้มนั้นมาเปิดดูทีละหน้า
“วิน นายออกไปก่อน” เสียงมีอำนาจของเจ้าของห้องดังขึ้น ขณะที่สายตายังไม่ละจากแฟ้มประวัติของรสสินา
“ครับบอส” พออัศวินหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ในความรู้สึกของรสสินาเวลานี้เหมือนเธอถูกทิ้งอยู่กลางทะเลทราย ที่มองไปทางไหนก็ไม่พบผู้คน มีเพียงความร้อนเท่านั้นที่เธอสัมผัสได้ความร้อนจากชายตรงหน้า
“เป็นพนักงานดีเด่นสามปีซ้อน พูดได้สามภาษา จีน ญี่ปุ่น อังกฤษไม่รวมภาษาแม่ มนุษยสัมพันธ์ดี ทำงานตรงต่อเวลาหนึ่งปีสายแค่สามครั้ง ลาป่วยไม่มี ลากิจตามกำหนดของบริษัท” เขาพูดตามที่อ่านรายละเอียดในแฟ้ม พูดจบก็เงยหน้ามองรสสินาที่ยืนตัวตรงค่อนข้างสั่น
“แต่แค่นี้มันยังน้อยเกินไปที่จะมาเป็นเลขาของฉัน มาที่นี่เธอต้องนับหนึ่งใหม่หมด”
รสสินาพอจะเข้าใจว่าการมาทำงานที่นี่ ระบบงานคงแตกต่างกับตอนที่ทำงานในเมืองไทย บริษัทแม่จะต้องเป็นความแปลกใหม่ และประสบการณ์ที่ดีในการต่อยอดการทำงานในอนาคต แต่ที่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเจ้านายของตนถึงได้ไม่มีทีท่าจะโกรธหรือพูดเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าห้องน้ำในวันนั้นเลย หรือว่าเขาจะไม่เอาเรื่อง ปล่อยเลยตามเลย
ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย…
“ดิฉันรู้ค่ะว่าการมาทำงานที่นี่ต้องเริ่มหนึ่งใหม่ เจ้านายมีอะไรจะใช้ก็บอกได้ค่ะ” แม้ว่าใจหวั่น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่ใช่เสือธรรมดาด้วย ท่าจะเป็นเสือร้าย
“เรียกว่าดิฉันมันจะดูเป็นพิธีไปไหม เรียกแทนตัวเธอว่าโรสก็ได้”
อลาริคทำตัวเหมือนเจ้านายที่ดี น่ารักกับลูกน้อง แต่ทว่าในใจมีแผนการเชือดนิ่มๆ สาวหน้าตาจืดชืด หุ่นไม่เร้าใจตรงหน้า เขาเป็นผู้ชายจะต่อว่าต่อขานเรื่องที่เกิดขึ้นก็กระไรอยู่ จะทำร้ายร่างกายเธอก็ใช่ที่ ในเมื่อเธอมาเป็นลูกน้องของเขาก็ต้องใช้งานให้เป็นประโยชน์
“ถ้าอย่างนั้นเริ่มงานของเธอได้เลย” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่รสสินายอมรับว่า มันดูแปลกๆ แปร่งๆ
“จะให้โรสทำอะไรคะ?”
“งานแรกที่เธอจะต้องทำก็คือ ไปขัดห้องน้ำทุกห้องในบริษัทตั้งแต่ชั้นที่ 70-75” เขาบอกงานแรกให้เธอได้รับรู้
รสสินายืนอึ้งไปชั่วครู่ ตกอยู่ในห้วงสับสนว่า เธอหูฝาดหรือว่าเขาเข้าใจอะไรผิด เธอมาที่นี่เพื่อมาทำงานเลขานุการไม่ได้มาเป็นแม่บ้าน
“เมื่อกี้บอสว่าอะไรนะคะ?” หญิงสาวถามย้ำ
“ฉันบอกว่าให้เธอไปล้างห้องน้ำทุกห้องในบริษัท จากที่กะดูแล้วก็มีไม่ต่ำกว่าสามสิบห้อง” อลาริคตอบ เปล่งเสียงให้ดังกว่าเดิม เพื่อที่คำพูดของเขาจะได้ไหลเข้าไปในหูของอีกฝ่าย
“หา…ล้างห้องน้ำเนี่ยนะคืองานของเลขา” เธออุทานด้วยความตกใจ “คุณแกล้งฉันใช่ไหม คุณคิดจะเอาคืนเรื่องที่ฉันทำร้ายคุณเมื่อวันก่อน”
รสสินาเปลี่ยนสรรพนามทันที เธอคิดอยู่แล้วว่าการที่เขาเงียบไม่ใช่เรื่องปกติ จะต้องมีอะไรบางอย่างซุกซ่อนไว้ เขากำลังจะแก้แค้นเธอนั่นเอง
“เปล่า” เขายักไหล่ ไม่ยอมรับคำพูดของเธอ “ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ เป็นเจ้านายของเธออีกด้วย แล้วฉันก็ไม่ถือสาผู้หญิงที่เสียมารยาท ไม่รู้จักผิดรู้จักถูกคนนั้นหรอก ไม่เอามาใส่สมองให้รก แต่งานล้างห้องน้ำเป็นงานแรกของเลขาของฉันจริงๆ มันเหมือนทดสอบความอดทนและความสะอาดเป็นระเบียบได้ทางหนึ่ง งานเลขาต้องมีความอดทน ต้องมีระเบียบวินัย ต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าเธอล้างห้องน้ำเสร็จทุกห้องได้โดยไม่ท้อใจกลางคัน ก็ถือว่าเธอมีความอดทนเป็นเลิศ หากทำห้องน้ำสะอาดเรียบร้อยนั่นคือเธอรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี เพราะงานที่ฉันจะสั่งผ่านเลขาเป็นงานที่มีมูลค่าสูงทั้งสิ้น ถ้าไม่มีความเป็นระเบียบวินัย ไม่มีความรับผิดชอบงานของฉันก็พังน่ะสิ แต่ถ้าเธอคิดว่าทำไม่ได้เพราะไม่มีความอดทนพอหรือไม่กล้าทำเพราะรังเกียจก็บอกนะ ฉันจะส่งเธอกลับเมืองไทยทันที”
คำพูดของเขาแลดูมีเหตุผล งานเลขานุการไม่ใช่สักว่าจะทำ จะต้องมีความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย มีความรอบคอบและมีความอดทนควบคู่ไปด้วย ทว่ารสสินาก็อดคิดไม่ได้ว่าเขากลั่นแกล้งตนเอง เพราะการล้างห้องน้ำทุกห้องในบริษัท ดูเหมือนจะไม่ตรงกับสายงานของเธอเท่าไหร่นัก แต่เป็นเพราะประโยคทิ้งท้ายของอลาริค ทำให้รสสินามีแรงฮึดขึ้นมาทันทีทันใด
“ใครว่าคนอย่างโรสทำงานอย่างที่คุณสั่งไม่ได้ ต่อให้เจ้านายสั่งให้ไปทาสีรอบตึกโรสก็ทำได้” เสียงเย่อหยิ่งไม่ยอมคนตอบโต้กลับไป
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ไปทำงานตามที่ฉันสั่งได้แล้ว”
ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของรสสินา เธอสะบัดหน้าเดินเชิดออกไปจากห้องทำงานของเจ้านายจอมสั่งอย่างคนถือดี
อลาริคชอบนักคนหยิ่ง คนอวดดี ถือดี เพราะเขาจะทำให้หญิงสาวตรงหน้ารู้ว่า อย่าได้มาทำน้ำเสียงและกิริยาเหมือนวันนั้นกับเขาอีก และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการสั่งสอนเท่านั้น