21 รามิลยังชอบสนุก
“จ้ะ แต่แม่ก็เป็นห่วงอยู่ดี เล่าเรื่องผู้หญิงคนนั้นต่อ แม่อยากรู้”
“เธอเป็นเพื่อนคุยที่ดี อยู่ใกล้แล้วอบอุ่น ผมกล้าที่จะดื่มน้ำและทานพุดดิ้ง คงเห็นว่าผมชอบก็ได้มั้ง ลูกจ้างก็เลยอาใส่กล่องมาให้ บอกด้วยนะครับว่าจะทำบ่อย ๆ ชวนให้ผมเข้าไปที่นั่นด้วย”
“รามิลกล้าไปหรือ ใครก็ไม่รู้ ไว้ใจได้ไหม”
“ไม่ทราบเหมือนกัน ท่าทางใจดีนะครับ ก่อนกลับก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริง นั่นก็คือ มีแผลเป็น เธอน่าสงสารมาก”
ความเศร้าสร้อยในน้ำเสียงที่บุตรชายเอ่ยออกมานั้นฮุนส์เงียบ กดมือเขาแน่นด้วยความลืมตัว เพียงครู่เดียวนั่งก้มหน้า กุมขมับ รามิลงงต่อท่าทีของมารดา รู้ว่าไม่ธรรมดา เกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือว่าเป็นห่วงเขา
“แม่ แม่ครับ สงสารเธอคนนั้นใช่ไหม”
“จ้ะ น่าสงสารมาก แม่ก็เพิ่งรู้ว่าพ่อจ้างผู้หญิงไว้เฝ้าสวน คงจะเคยมีบุญคุณกันมาก่อน”
“แม่ไม่คิดหรือครับ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นเด็กเก่าของพ่อก็ได้ ตกอับเข้ามาขอความช่วยเหลือ พ่อรับไว้ด้วยความสงสาร เขาก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรนี่ครับ”
“เอาเถอะ พอแล้วแม่ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น เอาเป็นว่ารามิลจะไปที่นั่นก็ตามใจ ระวังตัวก็แล้วกัน หรือไม่ก็พานูร์ไปด้วย”
“ครับ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ถ้าอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติผมก็คงต้องไปที่นั่น แต่ตอนนี้อิ่มแล้ว ขอนอนพักเอาแรงก่อน”
คำพูดที่ตีความหมายไม่ยาก ฮุนส์ใจไม่ดี รู้ว่าเขาจะต้องออกไปสนุกนอกบ้านอีก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรที่จะเหนี่ยวรั้งเอาไว้ ในเมื่อเวลานี้รามิลทำตัวเหมือนทานาบีทุกอย่าง เจ้าชู้ ออกเที่ยวกลางคืน ใช้เงินเปลือง
ผู้หญิงคือสิ่งที่ปรารถนา ถ้าหากว่าพึงพอใจจะจ่ายไม่อั้น โดยเฉพาะนักเต้นระบำหน้าท้องสุดเซ็กซี่
“เราจะออกนอกบ้านอีกแล้ว ใช่ไหม”
“แม่รู้อยู่แล้วไม่น่าถามเลย”
“คืนนี้อย่าไปเลยนะ อยู่บ้านเป็นเพื่อนแม่หน่อย เวลาที่ลูกไม่อยู่หรือไม่ว่า แม่นอนไม่หลับเป็นห่วงสารพัด กลัวว่าจะมีอันตราย”
“ห่วงพ่อไหมครับ”
“ทำไมจะไม่ห่วง แต่น้อยกว่าเราเพราะลูกเด็กกว่า ไม่ต้องออกไปหรอกนะ แม่ขอร้อง ไม่ยังงั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับอีก”
คำร้องขอของมารดาไม่ได้ผลแต่อย่างใด รามิลหมุนร่างเข้าไปในห้อง ประตูปิดสนิท ฮุนส์เครียดทันทีที่ไม่อาจรั้งลูกเอาไว้ได้ นูร์พี่เลี้ยงคนสนิท หิ้วถุงเสื้อผ้าเข้ามา เห็นมารดาเจ้านายนั่งหน้าเศร้า รู้ว่าจะต้องมีเรื่องเกิดขึ้นอีก
สาเหตุคงจะมาจากรามิล แต่ไม่รู้ว่ามีอะไร เขาไม่กล้าที่จะถาม นอกจากก้มศีรษะเดินตัวลีบผ่านหน้าไป ยังไม่ทันจะเข้าห้องเจ้านาย ฮุนส์เรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนนูร์ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วย”
“เรื่องอะไรครับ”
“นายไม่ต้องถาม นอกจากฉันที่จะขอร้องให้ดูแลรามิลให้ดี ถ้าเป็นไปได้อย่าให้ออกไปข้างนอกเด็ดขาด”
“เรื่องนี้น่ะเอง คงห้ามยาก ถ้าคุณรามิลจะไปซะอย่าง ต่อให้มีภูเขาทะเลทรายลูกใหญ่มากั้นขวาง นายก็จะหาทางไปจนได้”
ความดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเองของลูกชาย กลายเป็นหอกที่ทิ่มแทงเรือนร่างให้เจ็บปวด นี่คือผลของการตามใจลูกทุกอย่าง เพราะนิสัยไม่ดีให้แก่เขา ในเมื่อต้องการสิ่งใดแล้วจะต้องเอาให้ได้ หากว่ามีคู่แข่งก็จะต้องเอามาเป็นของตัวเองให้เร็วที่สุด
“ทำไมถึงได้ชอบเที่ยวนักนะ อ้าว คุณทานาบี”
“บ่นอะไร ดูหน้าตาตัวเองในกระจกหรือยัง รู้ไหมว่าบู้บี้มาก”
“ถ้าไม่เครียดเรื่องรามิล ฉันก็คงเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง”
“เครียดอะไรนักหนา รามิลโตแล้ว ไม่ใช่เด็กสักหน่อย เอาเถอะน่า มันอยากเที่ยวก็ปล่อยไป เป็นผู้ใหญ่เมื่อไหร่เดี๋ยวก็เลิกเองนั่นแหละ”
“กว่าเขาจะโต ฉันก็คงตายพอดี”
ฮุนส์ประชดสามีเข้าให้ ปรายตามองอย่างไม่ชอบใจนัก เมื่อเห็นว่า ทานาบีไม่ได้ใส่ชุดประจำชาติ แต่แต่งตัวสมัยนิยม เสื้อเชิ้ตแขนยาว พับปลายไว้ใต้ศอกกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ใส่รองเท้าหนังหุ้มส้นราคาแพง ดูไปแล้วหนุ่มกว่าอายุจริงมาก
รูปหล่อ เงินถึง เจ้าเสน่ห์อย่างนี้เอง ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงมีผู้หญิงมาก บางคนไม่สนใจเงิน ขอแค่ให้ได้อยู่ด้วยก็พอ
“คิดทำไมให้หน้าแก่ พักผ่อนเถอะนะ ผมไปก่อน”
“เที่ยวให้สนุกก็แล้วกันค่ะ”
“ขอบคุณที่เข้าใจ ส่วนรามิลก็ปล่อย ๆ ไปเถอะนะ วัยหนุ่มก็อย่างนี้แหละ สนุกไปตามเรื่อง แต่ไม่เสียหาย”
“ฉันกลัวว่าจะคว้าเอาผู้หญิงชั้นต่ำมาเป็นภรรยาน่ะสิ ฉันคงอกแตกตายแน่ ๆ”