5 ผู้จัดการคนใหม่หล่อเด็ด
ธารเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ผิวสีขาวอมชมพู ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตาโตยาวรี ขนตางอนยาว คิ้วลากไล่ไปตามความยาวของดวงตา จมูกโด่งเป็นสัน รูปร่างสูงใหญ่ พอฟัดพอเหวี่ยงกับชัชปพล
“สวัสดีค่ะ ฉันอรปวี เลขาของเจ้านายค่ะ”
“ผมทราบแล้วครับ คุณพลบอกผมเกี่ยวกับตัวคุณทุกอย่าง”
“หา ! ทุกอย่างเลยหรือคะ”
“ครับ คุณพลบอกว่า มีลูกน้องที่เก่งและสวย แต่ไม่ชอบแต่งตัว สักวันจะจับให้เข้าร้านเสริมสวย”
“คุณพลล้อเล่นค่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
หญิงสาวแก้ตัวไปอย่างนั้นเอง กลัวธารเข้าใจผิดคิดว่าเธอกับชัชปพลมีความสนิทสนมกันเกินขอบเขตมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอคงมองหน้าเขาไม่ติด
ไม่อยากให้เขาเข้าใจว่าชัชปพลทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด
“โชคดีจัง มีเจ้านายดี ๆ อย่างนั้น เอาเป็นว่าตอนเที่ยง ผมในฐานะน้องใหม่ ขอเลี้ยงข้าวคุณเป็นการตอบแทนได้ไหมครับ”
“ว้าว ! ทำไมทำอย่างนั้นล่ะคะ ความจริงรุ่นพี่จะต้องเลี้ยงต้อนรับ”
“ผมปล่อยให้ผู้หญิงเลี้ยงไม่ได้หรอกครับ อายแย่เลย”
“ไม่เห็นจะต้องอายเลยค่ะ คนกันเองทั้งนั้น ในเมื่อคุณมาทำที่นี่ สร้างความเจริญให้กับบริษัท เท่ากับว่าเป็นคนสำคัญมาก ฉันจะต้องดูแลให้ดีที่สุดค่ะ”
“หน้าที่ดูแลผู้หญิงจะต้องเป็นของผู้ชายครับ ผมคงยอมให้คุณทำอย่างนั้นไม่ได้ เอาเป็นว่า ผมยืนยันคำเดิมที่จะเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันคุณ ชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไปด้วยก็ได้ครับ”
ชายหนุ่มไม่ยอมที่จะให้อรปวีเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหาร ทำให้เธอจำต้องรับคำและชื่นชมต่อความมีน้ำใจของเขา
น้อยมากในสังคมปัจจุบันจะเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น จำนวนพลเมืองเพิ่มขึ้น ต้องแก่งแย่งกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน หน้าที่การงาน ที่อยู่อาศัย ฯลฯ
เมื่อเจอคนดี ๆ เข้ามา ควรที่จะเก็บเกี่ยวเอาไว้เป็นเพื่อน ในเวลานี้รู้ว่าเขาดี แต่ต่อไปไม่แน่ ถ้าทำตัวแย่ เธอก็ต้องลดความเชื่อถือลงไป
“รู้สึกว่าพักนี้สนิทสนมกับเพื่อนใหม่เหลือเกินนะ”
คำพูดลอย ๆ จากผู้เป็นเจ้านายดังตามมาจากข้างหลัง อรปวีหันไปมองด้วยอาการที่เรียกว่าตกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายรูปหล่อคิดอย่างไรและเพื่อนใหม่นั้นหมายถึงใคร
“เพื่อนใหม่ ใครคะ”
“อ้าว ทำเป็นไม่รู้ คุณธารไงล่ะ”
“อ๋อ คุณธาร เขาเป็นผู้จัดการค่ะ ไม่ใช่เพื่อนของวี”
“แต่เห็นเข้ามาพูดคุยหรือไปไหนมาไหนกับคุณบ่อย บอกเสียก่อนนะ ถ้าจะมาเหนี่ยวเอาคุณไปเป็นเลขาส่วนตัวล่ะก็ ผมไม่ยอมหรอก”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เราก็แค่คุยกันในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น”
หญิงสาวแก้ตัวพัลวัลเพราะไม่ต้องการให้เจ้านายรูปหล่อเข้าใจผิด คิดว่าเธอสนิทสนมกับธารเป็นพิเศษ แม้จะรู้ว่าลึก ๆ แล้วผู้จัดการฝ่ายการตลาดรูปหล่อ เข้ามาชิดใกล้ก็ต้องการที่จะสานความสัมพันธ์ แต่เธอไม่เปิดโอกาสให้แก่เขา
ไม่รู้ถึงประวัติความเป็นมา ว่าคือใคร มาจากไหน มีคนรักหรือยัง กลัวว่าถ้าเผลอใจให้แก่เขาแล้วจะเสียใจ เมื่อรู้ว่ามีผู้หญิงอยู่เคียงใกล้
“ให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ผมกลัวว่าจะเสียงาน ถ้าออกไปเที่ยวโน่นนี่นั่นกันบ่อย ๆ”
น้ำเสียง คำพูด การกระทำของชัชปพลสร้างความลำบากใจให้แก่อรปวีเป็นอย่างยิ่ง คงจะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่เขาว่าเธอไม่คิดอะไรกับผู้จัดการคนนั้น
“ไม่เคยเที่ยวรอบนอกหรอกค่ะ”
“เรื่องนั้นผมจะรู้ได้ยังไง ไม่ได้ตามติดคุณตลอดเวลานี่ เอาเป็นว่าเย็นนี้เลิกงานแล้วไปกับผมด้วยล่ะ แต่งหน้าให้เข้มกว่าเดิม”
“ไปไหนคะ”
“ไม่ต้องถามหรอก แต่เป็นหน้าที่ของเลขาที่ดี เจ้านายจะพาออกงาน”
“ได้ค่ะ ในเมื่อเป็นงาน วีก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“ดี ถ้าอย่างเตรียมตัวให้พร้อม ส่วนเรื่องชุดนี่ คงจะต้องให้ร้านเสื้อผ้าเอามาให้คุณลอง ให้ดูดีกว่านี้ ใช่ว่าผมจะหาว่าคุณไม่มีรสนิยมหรอกนะ แต่งานนี้ต้องหรู”
ได้ยินคำว่าหรูเท่านั้น หญิงสาวใจแป้ว เกิดอาการหวาดหวั่นขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน เธอกลัวงานที่มากด้วยพวกไฮโซที่สุด
ถ้าหากว่าทำอะไรเปิ่น ๆ ออกไปจะมีสายตาดูถูก แล้วพาดพิงมาถึงเจ้านาย หาว่าดูแลลูกน้องไม่ดี ไม่รู้ว่าถอนตัวตอนนี้จะทันหรือไม่
“มองอะไร มีปัญหาหรือ”
บอสรูปหล่อถามเสียงเข้ม
“เปล่าค่ะ แค่กลัวว่าจะวางตัวไม่ถูก ถ้ามีพวกไฮโซมาร่วมงาน”