3 ผู้หญิงของบอส
“คุณบีบแขนฉันนะ”
“ให้รู้ไงล่ะ อย่าโกหก ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ถึงคุณพลแน่”
“ไม่เกี่ยวกับฉันนี่คะ ในเมื่อเป็นคำสั่งเจ้านาย ฉันก็ต้องทำตามอยู่แล้ว”
“ทำไมโทรศัพท์เขาไม่เปิดอีกแล้วล่ะ”
คราวนี้กานติมาเริ่มสอบถามเกี่ยวกับโทรศัพท์ กลายเป็นสิ่งที่สร้างความเอือมระอาแก่อรปวีเป็นอย่างยิ่ง เธอมองด้วยสายตาขุ่น ๆ พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยเร็ว
“คืออย่างนี้ ฉันไม่ทราบได้ ในเมื่อเป็นเรื่องของเจ้านาย ไม่เกี่ยวกับฉันเลยนะ ถ้าเจอกันก็คุยเองแล้วกัน”
“เกี่ยวสิ เธอเป็นลูกน้อง จะต้องรู้ว่าเวลานี้เจ้านายอยู่ที่ไหน หรือว่าเขาอยู่กับผู้หญิงอีกคน”
“งานจริง ๆ ค่ะ ฉันขอตัวขอทำงานก่อนนะคะ”
หญิงสาวหาทางเลี่ยงที่จะสนทนาด้วย รู้ว่าผู้หญิงคนนี้สร้างเรื่องให้เซ็งในอารมณ์ ควรไปให้พ้น ๆ และนึกเคืองชัชปพล ขณะนี้หนีเอาตัวรอดเพียงผู้เดียว ให้เธอต้องรับสถานการณ์เพียงลำพัง คอยดูเถอะ คราวหน้าจะไม่ช่วยในเรื่องแบบนี้อีกแล้ว ยังไม่ทันจะเข้าไปในห้องทำงาน พนักงานคนหนึ่งถือโทรศัพท์ไร้สายมาส่งให้
“มีอะไรหรือผึ้ง”
“มีคนโทรศัพท์มาหาเจ้านาย ค่ะ”
“บอกไปสิว่าคุณชัชปพลไม่อยู่ ออกไปกับลูกค้า”
“แต่เขาอยากคุยกับคนที่ทำงานใกล้ ๆ ค่ะ”
“งั้นก็ได้ สวัสดีค่ะ ดิฉันเลขาของคุณชัชปพลค่ะ”
สาวสวยกรอกเสียงลงไป คิดว่าต้นสายที่โทร. เข้ามาคงจะเป็นลูกค้าคนสำคัญซึ่งเธอจะต้องรู้จัก ทว่าคาดเดาผิด ในเมื่อคนที่โทรศัพท์เข้ามากลับกลายเป็น
“ฉันจารวี เพื่อนสนิทของพลจากเมืองนอก”
ผู้หญิงอีกแล้วอรปวีทำหน้าเบื่อหน่าย ต่อความเจ้าชู้ของเจ้านายรูปหล่อ
“ค่ะ มีอะไรหรือคะ”
“บอกเขาอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะไปหาที่บริษัท”
“ขอโทษค่ะ เจ้านายออกไปข้างนอกกับลูกค้า ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ พรุ่งนี้ค่อยติดต่อมาใหม่อีกครั้งนะคะ”
สร้างเรื่องโกหกอีกแล้ว อรปวีไม่อยากทำอย่างนี้ แต่ก็ต้องทำเพราะเจ้านายไม่พร้อมต้อนรับแขกคนไหนทั้งสิ้น
จารวีสาวสวย หุ่นดี เฉิดฉายอยู่ในเดรสสีแดงเพลิงสายเดี่ยวสั้นเหนือเข่า รองเท้าส้นสูงแบบส้นเข็มช่วยเสริมสร้างความโดดเด่นให้แก่หญิงสาวไม่น้อย
แต่ความสวยงามภายนอกหาได้สร้างความรื่นรมย์ให้แก่เธอไม่ ในเมื่อเวลานี้ไม่มีคนที่อยากเจออยู่เคียงข้าง เธอนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมในร้านอาหารชื่อดัง
“บ้าจริง เมื่อคืนนัดกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะมากินข้าวกลางวันด้วยกัน ทำไมถึงไม่เปิดโทรศัพท์แล้วบอกว่าอยู่กับลูกค้าอีก หรือว่าโกหกเรานะ”
หญิงสาวบ่นอย่างเหลืออดเพราะคนอย่างเธอไม่เคยมีใครขัดใจ ต้องการได้อะไรก็ต้องได้สิ่งนั้น ในเวลานี้มีความตั้งใจที่จะสร้างความสัมพันธ์แนบแน่นกับชัชปพล เมื่อรู้ว่าเขามีฐานะร่ำรวย
สุดท้ายไม่เป็นตามต้องการ เมื่อไม่สามารถติดต่อชายหนุ่มได้เลย จารวีหงุดหงิดยิ่งนัก
“เราจะมานั่งบ้าอะไรอยู่นะ ในเมื่อเขาไม่สนใจ เราก็ควรที่จะหาอะไรทำให้มันดีกว่านี้ มองๆ หาชายหนุ่มแล้วทิ้งสายตาให้เขาสิ อย่าทำตัวเป็นยายบื้อใบ้ เสียท่าสาวนักเรียนนอกหมด”
หญิงสาวบ่น ๆ กับตัวเอง พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อมองหาผู้ชายสักคน แต่ไม่มีใครที่เข้าตา
“เรียกผู้จัดการมานี่ซิ”
“เอ่อ ผู้จัดการกำลังคุยอยู่กับลูกชายเจ้าของร้านอยู่ครับ”
เด็กเสิร์ฟตอบกลับมาอย่างนอบน้อม เมื่อเห็นสายตาดุ ๆ จากสาวสวย กลัวว่าจะเสียลูกค้าไป จึงทำตัวให้เป็นผู้บริการให้ดีที่สุด
“ลูกชายเจ้าของร้าน มาที่นี่ด้วยหรือ”
“ครับ เพิ่งมาได้ไม่นาน คุณวรยุทธไปอยู่ที่อเมริกาห้าปี ทำร้านอาหารที่นั่นแล้วเซ้งต่อให้เพื่อน เขากลับมาช่วยงานที่ร้าน”
“ตายจริง ลูกชายเจ้าของร้านอยู่เมืองนอกด้วย เหมือนฉันเลย อยากเจอแล้วสิ”
หญิงสาวทำเสียงตื่นเต้น เมื่อรู้ว่ามีคนเคยอยู่เมืองนอกเหมือนตัวเอง โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเธอก็เคยพำนักอยู่ที่นั่น ทั้งเรียนและอยู่ต่ออีกสองปี
“ผมจะเรียนคุณวรยุทธให้ว่ามีคนอยากเจอ”
“ดีจ้า งั้นฉันขอสั่งอาหารก่อนก็แล้วกันนะ เอามาแบบนี้เลยที่นึงแล้วซุปน้ำข้น พั้นซ์ด้วยหนึ่งแก้ว น้ำเปล่าหนึ่งขวด”
“ครับ กรุณารอสักครู่นะครับ”
เด็กเสิร์ฟคนนั้นรับออเดอร์เรียบร้อยแล้ว เดินกลับเข้าไปภายในครัว จารวีนั่งในท่าที่คิดว่าสวยที่สุด หวังว่าจะเป็นที่เตะตาแก่บุตรชายเจ้าของร้าน
เธอรู้ดีว่า ร้านอาหารแห่งนี้คือร้านไฮโซ อาหารแต่ละจานแพงมาก คนเดินดินหรือมนุษย์กินเงินเดือนธรรมดา ไม่อาจเข้ามาได้