บทที่8.ฉันเลือกอะไรได้มั่ง
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันไม่เคยนอนกับพิทเลย ฉันสาบาน ฉันอยากรู้เท่านั้น ไม่มีอะไรจริง” ฉันแก้ตัวเสียงหลง ฉันไม่ได้โกหก ฉันกับพิทยุตม์ไม่เคยมีอะไรกัน แต่กับคนคนนั้นมันคนละเรื่อง
“ฉันเชื่อแกวิท...มันก็เป็นไปได้ที่จะมีบางอย่างเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่ผู้หญิงผู้ชายทำร่วมกันมันคือเรื่องการสืบเผ่าพันธุ์”
“แล้วต้องจัดการยังไงเหรอ หากไม่ต้องการให้เกิดเอฟเฟคย้อนหลัง”
“ส่วนใหญ่นะ ผู้หญิงรักสนุกจะรู้จักคุมกำเนิด แต่หากมันเกิดขึ้นปุบปับมันก็มียาแก้ แต่ใช้ได้ไม่บ่อยนะ มันอันตราย”
“ยาอะไรเหรอ”
“ยาคุมฉุกเฉินไง เม็ดแรกกินภายในสิบสองชั่วโมง” ฐานิฏฐ์พูดต่อ
ฉันนับนิ้วในใจ เวลาของฉันคาบเกี่ยวและหดสั้นลงเรื่อยๆ หากฉันมัวโอ้เอ้กำหนดเวลาที่เกี่ยวข้องก็ลดลงตลอดเวลา
“ต้องไปหาหมอไหมฐา ตามร้านขายยามีไหม”
ฉันถามต่อ ฐานิฏฐ์มองหน้าฉันจนต้องรีบพูดแก้ตัว “ฉันถามเป็นความรู้น่ะ หากเกิดขึ้นกับฉัน จะได้ป้องกันถูก”
“อ้อ...ฉันมีนะ นี่ไง ซื้อไว้นานแล้วไม่ได้ใช้เลย ใกล้หมดอายุแล้วด้วย”
“อืม...ขอดูหน่อย ฉันเอาไปทิ้งให้นะฐา ไปล่ะ ฉันต้องรีบกลับไปทำงานต่อ” ฉันกำแผงยาไว้ เดินจ้ำอ้าวหนีเพื่อน หัวใจทำงานหนักเพราะกลัวเพื่อนจับได้ หลังเดินหนีมาไกลแล้วฉันหามุมสงบอ่านฉลากกำกับยาอย่างละเอียดและรีบกินยาเม็ดแรก ยัดยาเม็ดที่เหลือไว้ในกระเป๋า ไม่ลืมท่องไว้ในใจ อีกสิบสองชั่วโมงต่อไป ฉันต้องกินยาเม็ดที่สอง
ไม่อย่างนั้น สิ่งที่น่ากลัวจะตามไล่ล่าฉัน
ฉันไม่อยากกลายเป็นคนสิ้นคิด ที่จำเป็นต้องสละบางอย่างเพื่อความอยู่รอดของตนเอง
ผู้ชายรักสนุกนั่น ไม่สนใจความเป็นอยู่ของฉันต่อจากนี้หรอก
มันเป็นแค่ความใคร่ที่เกิดขึ้นตอนเขาหน้ามืด...
ผมดันลิ้นที่กระพุ้งแก้ม มองกระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือที่เลขาฯ ส่วนตัวเอามายัดไว้ให้ คืนนี้ผมคงนอนไม่หลับหากความพลุ่งพล่านในกายไม่ทุเลาลง ผมคิดง่ายๆ ตามประสาหนุ่มโสด ผมระบายความร้อนที่ท่วมท้นในอกกับใครก็ได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ สิ่งที่ควรคึกคักกลับไม่กระดิกเสียอย่างนั้น
ผู้หญิงสวยเสน่ห์แรงยังปลุกให้ผมคืนชีพไม่ได้เลย
อารมณ์ผมดิ่งเหมือนนั่งอยู่กลางเหวลึก “ดีมั้ยคะคุณยช น้อยทำแบบนี้คุณชอบมั้ยคะ?” ผมควรตอบหล่อนยังไงดีล่ะ มีผู้หญิงสาวสวยนั่งอยู่กลางหว่างขา เธอพยายามสุดความสามารถที่จะปลุกชีพอาวุธประจำตัวผมที่นิ่งสนิทเหมือนงูจำศีล
“พอเถอะ ออกไปหาชัย แล้วกลับไปซะ” ผมผลักศีรษะหญิงผู้นั้นออกห่าง จับลูกชายสุดรักยัดใส่เป้ากางเกงและรูดซิปปิดเสียเลย ผมถอนใจแรงๆ ฉวยแก้วบรั่นดีขึ้นกระดก แอลกอฮอล์แรงๆ ไหลผ่านลำคอ ร้อนวาบไปทั่วท้องน้อย แต่ก็เหมือนเคย...อาวุธร้ายกาจที่เคยสร้างชื่อให้กับผม ยังนิ่งสนิทเหมือนถูกแช่แข็ง
“น้อยทำให้คุณยชไม่พอใจเหรอคะ”
บทบาทดาราเจ้าน้ำตาจากนักแสดงไม่มีฝีมือทำให้ผมรู้สึกรำคาญ “เปล่า ไปเถอะ ออกไปซะ” ผมหลุบเปลือกตา โบกมือไล่
“ถ้าคิดถึงน้อย เบอร์เดิมนะคะ คุณชัยเธอรู้” หล่อนส่งเสียงน่ารำคาญบอกผม ผมถอนใจแรงๆ ยกมือกุมขมับ เกิดอะไรขึ้นกับผมวะนี่!!
“เอาเหล้ามาสิชัย ฉันจะกินให้เมา จะได้หลับสักที”
ผมไม่สามารถสลัดเงาของใครบางคนออกไปจากสมองได้ เงานั่นรบกวนผมตั้งแต่เช้ายันค่ำ ผมอึดอัดรู้สึกบอกใครไม่ถูก ศักดิ์ศรีมันค้ำคออยู่มั้งผมเลยทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ หล่อนยืนกรานปฏิเสธแบบนั้นจะให้ผมทู่ซี้เธอได้ไงล่ะ ผมมีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ ผมเปย์หนักจ่ายแบบไม่ต่อราคาด้วย หล่อนไม่สนองตอบ ผมจะทำอะไรได้ล่ะ
เลขาฯ ผมเอาบรั่นดีขวดใหม่มาวางไว้แทนที่ขวดเก่าที่เพิ่งหมด ผมจิปากฉวยขวดใหม่รินใส่แก้วเกือบเต็มและทำท่าจะยกขึ้นดื่มถ้า.... “พรุ่งนี้มีประชุมตอนเช้าครับ ถ้าคุณดื่มแบบนี้พรุ่งนี้คุณจะแย่เอานะครับ” เสียงเตือนทำให้ผมฉุกใจ ผมเคยมีสติมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ
ผมกลัดกลุ้มเรื่องผู้หญิงคนนั้นจนลืมงานที่เคยสนใจเป็นอันดับหนึ่งได้ยังไง
“โทษทีพอดีคิดอะไรติดพัน อย่าลืมปลุกด้วยล่ะ”
ผมดื่มบรั่นดีแก้วนั้นจนหมด และเดินโซเซเข้าไปในห้อง ทิ้งตัวนอนแผ่ ยกมือปิดตา “ยัยบ้า เลิกกวนสักทีสิ จงใจยั่วฉันใช่ไหมหะ”