บทที่7.เสียงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
บทที่7.เสียงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
ฉันยกมือทุบกำแพงในห้องน้ำ โขกศีรษะกับผนังปูนดังปักๆ ฉันเจ็บหน้าผากจนน้ำตาเล็ด แต่ความรู้สึกบ้าๆ ในร่างกายก็ยังไม่จางหายไป ฉันยังรู้สึกเหมือนมือคู่นั้นของเขายังวนเวียนอยู่ที่กึ่งกลางร่างกาย นิ้วของเขาทำให้สติฉันกระเจิดกระเจิง ฉันไม่อยากคิดเลยหากมีใครสักคนโผล่หน้าเข้าไปในช่วงเวลาที่ฉันและเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันจะตกเป็นขี้ปากคนทั้งบริษัท ฉันจะใช้ชีวิตยังไงภายใต้การถูกนินทา...
ฉันกัดริมฝีปากล่างกลั้นเสียงร้อง อยากจะลบสัมผัสของเขา แต่คงไม่มีทางทำได้ ร่างกายของฉันจดจำสัมผัสนั่นได้ขึ้นใจ ฉันกำลังถูกเข้าป่วนประสาทใช่ไหม ในเมื่อผู้ชายคนนั้นสามารถเลือกผู้หญิงคนไหนก็ได้ที่เขาต้องการ ไม่จำเป็นต้องเป็นฉันสักนิด
“อยากจะบ้าตาย ครั้งเดียวขายขี้หน้าไม่พอหรือไงวิท” ฉันบ่นพึมพำ อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน ฉันครองตัวอย่างดีมาตลอด ไม่เคยเหลวไหลกับความสัมพันธ์ฉาบฉวย พิทยุตม์พยายามที่จะเข้าถึงตัวฉันตลอดเวลาที่คบหาดูใจ แต่ฉันก็รอดมาได้ ไม่ได้เผลอตัวเผลอใจให้กับเขา
แล้วทำไมล่ะ...ทำไมฉันถึงเผลอตัวกับผู้ชายคนนั้น
ฉันคลั่งดาราซีรี่ย์ก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะพลีกายให้พวกเขานี่
ฉันโดนมนตราบทไหนเป่าใส่ล่ะ ฉันถึงได้เดินตามเขาไป และพลาดในที่สุด
“เป็นอะไรวิท...ใครทำอะไรแก หรือว่าไอ้หมอนั่นมันพูดไม่ดีกับแกหะ”
เสียงเพื่อนสนิทดังอยู่ใกล้ๆ ฉันลืมตาเอียงคอมอง ฐานิฏฐ์ยืนขมวดคิ้วจ้องหน้าฉันอยู่
“เปล่า ปัญหาเรื่องงานน่ะ”
“แล้วไป...ฉันนึกว่าไอ้ผู้ชายขี้แพ้นั่นมาพูดไม่ดีกับแก ผู้ชายที่เอาตัวเข้าแลกเพื่อหน้าที่การงานไม่มีศักดิ์ศรีพอให้แกจำหรอกวิท เลิกได้น่ะดีแล้ว”
พิทยุตม์กร่างใส่เพื่อนๆ เพราะเขาเติบโตแบบก้าวกระโดด จากพนักงานต๊อกต๋อยเลื่อนเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ เพราะกิจการของใบบัวขายให้ NS กรุ๊ปไปแล้ว แต่นั่นก็ทำให้พิทยุตม์ยืดอกชูคอข่มเพื่อนๆ ได้ไม่น้อย
“ฉันเห็นหัวหน้าแผนกเดินเข้าเดินออกห้องผู้อำนวยการเป็นว่าเล่น แกเกี่ยวอะไรด้วยล่ะวิท” ฐานิฏฐ์หันมาถามฉันหลังด่าพิทยุตม์ไปหลายคำ
“พี่สายกลัวจนขาสั่น เลยให้ฉันไปแทนน่ะสิ”
“อ้อ...ดีสิ เจอใกล้ๆ เขาหล่อเหมือนรูปถ่ายหรือเปล่าล่ะ นายใหม่ของเราคนนี้”
ฉันกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เพราะโครงหน้าฟ้าประทานของเขาไง ฉันเลยหลงเพริดไปจนกู่ไม่กลับ ทั้งที่ฉันเตือนเขาและตัวเองไปพร้อมกันแล้ว ในวินาทีที่โผเข้าหากัน สติสัมปชัญญะของฉันลอยหายไปสุดขอบโลก ไม่สามารถต้านแรงปรารถนาที่ถาโถมเข้าใส่ได้เลย
“กะ กะหล่อดีหรอก แต่หยิ่งๆ แล้วก็เข้าถึงยาก”
“แหม...ทำไมฉันไม่มีโอกาสได้เฉียดเข้าไปใกล้เขาบ้างนะ ผู้ชายเย็นชาน่ะ โบราณว่าร้อนแรงบนเตียงด้วยสิ ทำยังไงนะฉันถึงจะมีโอกาสนั้นบ้างนะ”
หน้าฉันร้อนวูบ ผิวแก้มร้อนฉ่าเมื่อเผลอนึกถึงช่วงเวลาดุเดือดที่เกิดขึ้นระหว่างคนคนนั้นกับฉัน ฉันกัดกระพุ้งแก้มเพื่อสกัดเสียงครางเอาไว้ ร่างกายของฉันสนองตอบรสสัมผัสนั่นอย่างรวดเร็ว ขนาดแค่นึกถึงเท่านั้นนะ
“แกเป็นอะไรวิท หน้าแดงแจ๋เลย”
“ปะ เปล่า คงแฮงมั้ง ฉันดื่มไปเยอะเหมือนกันนะเมื่อคืน”
“เป็นไปได้ แกไม่เคยดื่มจัดแบบนี้นี่นะ รออยู่ตรงนี้แปบ เดี๋ยวฉันออกไปหายาแก้แฮงมาให้แกกิน”
“ฐา ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวซดกาแฟขมๆ น่าจะช่วยได้”
“ไหวแน่เหรอวิท ท่าทางแกดูแย่ชะมัด”
“อืม...ไหวสิ ฉันไม่ตายหรอกแค่อกหัก”
ฉันชี้นำความคิดเพื่อนเพราะต้องการให้ฐานิฏฐ์คล้อยตาม ฉันไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง มันน่าอายมากกว่าน่าภูมิใจ ฉันยังมีความคิดเก่าๆ ฝังอยู่ในหัวด้วยล่ะมั้ง
“อย่าคิดมากน่า ผู้ชายไม่ได้มีแค่หมอนั่นคนเดียวเท่านั้นบนโลกใบนี้ วันหนึ่งแกก็จะเจอคนดีๆ เองแหละ” ฐานิฏฐ์พยายามปลอบฉัน ฉันขอโทษเพื่อนในใจ ฉันต้องใช้เวลาสักหน่อยเพื่อจัดระเบียบตัวเอง วันหนึ่งฉันตั้งใจจะเล่าให้เพื่อนฟัง...
“ฐา...ถ้าเกิดมีอะไรกับผู้ชายแล้วไม่ได้ป้องกัน มันจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ไหม” ฉันอ้อมแอ้มถาม ไม่กล้าสบตาเพื่อน แต่คนที่เชี่ยวชาญอย่างฐานิฏฐ์น่าจะมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้
“แกอย่าบอกนะวิท...”