บทที่6.บทลงโทษคนดื้อ
บางอย่างที่ผมรู้คนเดียว...แม่สาวร้อนสวาทที่ปลุกปีศาจในตัวผมให้ตื่นขึ้นมานั่นไง
และแล้วช่วงเวลาที่ผมรอก็มาถึง ใครบางคนยืนอยู่หน้าห้องท่าทางลังเลเหมือนไม่กล้า ผมขัดใจห้องทำงานแห่งนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินเข้ามา ห้องทำงานโล่งเกินไปถึงจะมีมู่ลี่ช่วยพรางตา แต่ก็เปิดเสียเป็นส่วนใหญ่ที่ลับตามีแค่ประตูหน้ากับมุมห้องที่มีตู้หลังใหญ่พอให้หลบตาคนด้านนอกได้ ผมหรี่เปลือกตาลง พยายามวาดภาพในสมองหากผมทำอะไรพิเรนทร์ๆ ตรงนี้ ผมควรใช้สถานที่นี้ยังไง ในเวลาที่ทำอะไรกับห้องนี้ไม่ได้แล้ว
ผมลุกขึ้นยืน เดินไปรอหลังประตูทึบแสงสีไม้มะกอก
และเมื่อใครบางคนเปิดประตูเดินเข้ามา ผมก็รั้งเธอไว้ ใช้วงแขนกักเธอแนบกับบานไม้หนาทึบ
“อะ....”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง แววตาประหนึ่งกวางสาวระวังภัย เธอจ้องหน้าผมริมฝีปากปิดสนิท ผมโน้มตัวลงไปใกล้ๆ ยิ้มมุมปาก และ...
“สวัสดี ในที่สุดฉันก็มีเวลาส่วนตัวกับเธอสักที”
ผมยกมือขึ้นช้อนจับปลายคางของเธอเอาไว้แน่น ก่อนจะโน้มตัวลงก้มลงไปจูบริมฝีปากอิ่มบางอย่างแรงจนเธอสะดุ้งเผลอปล่อยแฟ้มหลุดมือไป และยกมือขึ้นดันแผ่นอกของผมแทน ผมบดจูบแรงๆ มันเป็นความปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ในใจ เธอทำให้ผมโกรธและอึดอัด เมื่อมีโอกาสก็ต้องรีบฉวยไว้ เพราะเธอระวังตัวจัด คงไม่เผลอตัวง่ายๆ
“อือ...ออออ”
จูบที่หนักหน่วงในคราแรก ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นจูบที่มีแต่ความหวานอ่อนโยน ฉันเผลอเดินตามการชักชวนของผู้ชายร้ายกาจคนนี้ จนลืมกระทั่งการต่อต้าน มือเขาซอกซอนเข้าใต้พวงผมสลวยหลังท้ายทอย เขากดศีรษะของฉันให้ขยับเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น จงใจบีบบังคับและปล้นจูบหน้าด้านๆ ฉันไม่น่าหลวมตัวเดินเข้ามาหาเขาเลย และสิ่งที่ฉันไม่รู้คือ...เสือตัวนี้รอจังหวะที่จะตะปบเหยื่ออย่างฉันอยู่แล้ว
ผมมือสอดมือเคล้นคลึงกับทรวงอกคู่งามอย่างเมามัน ชุดเดรสตัวสวยถูกร่นขึ้นไปเรื่อยๆ จากทางด้านล่างจนเกือบขึ้นไปกองที่เนินอกโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สักนิด ผิวของหล่อนยังคงขาวผ่องนวลเนียน เธอต่อต้านผมเล็กๆ ด้วยการหนีบหน้าขาเข้าหากันแน่น เธอทำได้เท่านั้นจริงๆ ในเวลานี้ เสียงร้องขอความช่วยเหลือก็เช่นกัน มีแค่เสียงแผ่วๆ แทบไม่ได้ยินดังลอดออกมา
“อย่า…อย่าทำแบบนี้นะคะ ได้โปรด” ฉันขอร้องเสียงแห้ง ริมฝีปากสั่นระริกเพราะฤทธิ์จูบที่เพิ่งจบลงไปหมาดๆ แต่เขาฟังที่ไหนล่ะ เขาไม่สนใจอะไรเลย แม้แต่ตอนนี้คือเวลาทำงาน เขาควรระวังตัวมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ
ผมกดจูบที่เหนือเนินทรวง ดันเธอชิดประตูมากขึ้น ตวัดเรียวขาเธอขึ้นไว้บนสะโพกแกร่ง ดันหน้าขาของตัวเองบดเบียดกับเนินนุ่มมากขึ้น มีแค่ผิวผ้าบางเบากั้นกลาง แต่ไม่อาจขวางความผ่าวร้อนใต้กางเกงผ้าลินินสีขรึมๆ ได้เลย
เสียงร้องห้ามดังแผ่วๆ แต่ความหอมหวานตรงหน้าทำให้ผมแทบคุมสติไม่อยู่ …ภาพเก่าๆ ย้อนเข้ามาเป็นระลอก ผมจะสะกดความต้องการได้ยังไง ในเมื่อเธอน่าปรารถนามากมายเสียแบบนี้
“ขอเถอะนะคนสวย...ขอแค่นี้จริงๆ” ผมครางเบาๆ ปวดแปลบไปทั้งหน้าขา แต่สถานที่ไม่อำนวยเอาเสียเลย ผมเริ่มไม่พอใจเล็กๆ กับการตกแต่งที่ไม่สามารถปิดบังสายตาคนภายนอกได้
ผมสัญญากับตัวเอง ห้องทำงานนี่ต้องมีการรีโนเวทเกิดขึ้นแน่...
ปลายนิ้วผมอ้อยอิ่งอยู่ตรงเนินอก...ทำท่าจะตัดใจผละห่างออกจากความอวบอิ่ม แต่แล้วผมก็เปลี่ยนใจ ผมรั้งเธอเข้าไปข้างซอกตู้ ใช้ร่างกายตัวเองบังตาจากคนภายนอก แล้วลากนิ้วมือเคลื่อนไปตามลำตัว ผ่านหน้าท้อง...ต่ำลงไป...ต่ำลงไป...
ฉันแทบจะกรีดร้อง!! สัมผัสแผ่วจากปลายนิ้วอุ่นๆ ที่สอดผ่านขอบกางเกงชั้นในไปยังจุดซ่อนเร้น ฉันเบิกตากว้างซุกหน้าเข้าหาอกอุ่นและอ้าปากสูดลมหายใจแรงๆ กระแสความเสียวซ่านพุ่งเข้าสู่ตัวฉัน ผ่านจุดที่เป็นส่วนตัวที่สุดของร่างกาย เขาทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงนะ ท่ามกลางสายตาคนนับร้อยคู่ด้านนอก ผิวแก้มฉันร้อนฉ่า...สัมผัสบางเบานั่นกำลังทำให้ฉันดิ้นเร่าๆ ร่างกายแข็งทื่อ บั้นท้ายแอ่นหยัดสู้ปลายนิ้วแข็งแรงอย่างลืมอาย...เขาบดขยี้ติ่งไตกลางร่างฉัน สลับกับกระแทกปลายริ้วระรัวในความฉ่ำชื้นของฉัน มันทำให้ฉันร้อนวาบไปทั้งร่างกาย สมองขาวโพลน และรู้สึกราวกับวิญญาณค่อยๆ หลุดออกไปจากร่างทีละนิดๆ ...