บทที่5.แผนจับแมวใส่ตะกร้า
“ทำไมล่ะวิท คุณควรไปยืนข้างๆ คุณสายเขาสิเผื่อเขามีอะไรจะถามคุณ” ขนาดฉันขึงตาใส่อดีตคนเคยรักก็ยังไม่หุบปาก ฉันแปลกใจตัวเองเหลือเกิน ครั้งหนึ่งฉันชื่นชอบอะไรในตัวผู้ชายคนนี้ พอถอยมายืนห่างๆ แบบนี้ฉันถึงเพิ่งเข้าใจ ที่ผ่านมามันไม่ใช่ความรัก ฉันแค่ชื่นชอบเขาเพราะผู้ชายคนนี้ปากหวานและเอาใจเก่ง คงเหมือนผู้หญิงอีกหลายๆ คนที่หลงคารมชายผู้นี้ก็ได้
พอดีกับที่หัวหน้าของฉันโบกมือเรียก ฉันไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น รวมถึงคนคนนั้นด้วย ฉันเลยผละออกมาจากอดีตคนเคยรัก เดินไปยืนข้างๆ พี่สายใจแทน
ฉันก้มหน้าหลบสายตาใครบางคน เขามองผ่านฉันไปเหมือนคนไม่เคยรู้จัก ฉันถอนใจด้วยความรู้สึกโล่งอก แต่ฉันดีใจได้ไม่นาน ความหวาดกลัวก็คืบคลานเข้ามาหาฉันอีกรอบ...
“ผมต้องการเอกสารบัญชีรายรับ รายจ่ายสามเดือนก่อนหน้านี้ ไม่เอาไฟล์นะ ขอตัวจริง”
ฉันกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ฉันจะเลี่ยงหน้าที่นี้พ้นได้ยังไง ฉันไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้าคนคนนั้นเลย...ฉันใช้เวลาเตรียมเอกสารเกือบเต็มชั่วโมงดี หัวหน้าของฉันท่าทางลุกลน จนฉันเริ่มใจไม่ดี ฉันภาวนาในใจขอให้ที่ฉันคิดไว้ไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคะเน พอเตรียมเอกสารได้ครบ สิ่งที่ฉันคิดไม่ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว
“วิท พี่ขอล่ะ ไปแทนพี่ได้ไหม พี่เกร็งปวดท้องไปหมดแล้ว พี่กลัวว่าตัวเองจะตอบคำถามคุณเขาไม่ได้”
หน้าซีดปากสั่น แววตาตื่นตระหนกเหมือนคนทำผิดมีชนักปักหลัง ทั้งที่จริงแล้วไม่มีอะไรเลยแค่กลัวไปก่อนล่วงหน้า
“จะดีเหรอคะพี่สาย”
“ดีสิ วิทเป็นผู้ช่วยพี่นะ อะไรที่พี่รู้วิทก็รู้”
มันคงยากที่จะเลี่ยงการเผชิญหน้า คงได้แต่ภาวนาแล้วล่ะให้ผู้ชายคนนั้นจำฉันไม่ได้
ผมเคาะนิ้วกับโต๊ะ กระดิกปลายเท้าอย่างอารมณ์ดี นั่งมองแก้วกาแฟเหมือนดั่งสิ่งมหัศจรรย์ บางครั้งก็ฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอ ผมกำลังรอบางอย่างและไม่น่าพลาดจากที่หวังไว้ ผู้หญิงคนนั้นคงคิดจะซ่อนตัวได้นานกว่านี้สินะ ผมจะดับฝันนั่นของหล่อนเอง
“คุณยชอารมณ์ดีจังเลยนะคะวันนี้” ใบบัวทักพร้อมกับยิ้ม
ความจริงชายตรงหน้าน่าสนใจไม่หยอกเหมือนกัน แต่มันเป็นการเสี่ยงเกินไป อนันยชลื่นกว่าปลาไหล หลายปีมานี่ไม่มีผู้หญิงคนไหนจับเขาอยู่มือสักคน การที่จะครอบครองและมีอำนาจบงการเขาได้เลยกลายเป็นงานยาก และเสี่ยงเกินไป
“มีหลายเรื่องเลยครับคุณบัว ที่ทำให้ผมรู้สึกดี” ผมตอบตามตรง เรื่องที่กำลังตั้งตารอนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ผมนั่งเนื้อเต้น
“น่าอิจฉาคุณพ่อคุณแม่คุณยชนะคะที่มีลูกชายเก่งและแสนดีแบบนี้”
“คุณพูดผิดแล้วล่ะคุณบัว พ่อกับแม่ผมบ่นตลอด ท่านไม่ปลื้มผมเท่าไหร่หรอก” ผมพูดเรื่องจริงไม่ได้แต่งนิยายเลย ทุกเช้าหากผมแวะที่โต๊ะอาหารผมจะได้ยินทั้งสองท่านบ่นตลอด บิดา มารดาผมต้องการให้ผมแต่งงานสร้างครอบครัวสักที แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องการ ผมเลยหลีกเลี่ยงพวกท่าน นานๆ จะโผล่หน้าไปเจอสักครั้ง แบบนี้บ่อยๆ ทั้งสองท่านก็ระอาและหยุดดุด่าผมไปเอง
ตอนที่ผมเป็นหนุ่มท่านพยายามที่จะหาคู่ครองให้ และผมปฏิเสธเรื่อยมา
“คุณบัวมองผมดีเกินไป ความจริงนั้นผมไม่ใช่คนดีหรอก”
ใบบัวไม่ได้มองผม สายตาเธออยู่ที่ใครบางคนที่ผลุบๆ โผล่ๆ ที่หน้าห้อง ผมเพ่งตามองเลยเห็นผู้ชายรูปร่างสันทัดหน้าตาเด็กกว่าผมและใบบัวหลายปี แต่ท่าทางของเขาบ่งบอกพิรุธหลายอย่าง ซึ่งในสายตาผู้ชายด้วยกันผมพอมองออก
“คุณยช บัวนึกได้ว่ามีธุระ บัวขอตัวก่อนนะคะ อีกสักครู่สายใจคงนำเอกสารที่คุณยชอยากดูมาให้”
ผมพยักหน้าอนุญาต แถมโบกมือไล่คนติดตามที่ยืนเตร่อยู่ด้านนอกด้วย พวกเขามีสีหน้างุนงงนิดหน่อยแต่ก็ยอมทำตามความต้องการของผม ผมนั่งกระดิกขารอด้วยความอดทนเป็นพิเศษ เพราะหากตามตารางงานจริงๆ แล้วเวลานี้ผมกำลังนั่งอยู่บนรถเพื่อไปยังสถานที่อื่น อย่างที่รู้งานผมแน่นแทบไม่มีเวลาส่วนตัว ทุกนาทีของผมมีราคา ผมไม่เคยปล่อยให้เวลาเดินไปอย่างเปล่าประโยชน์ วันนี้ผมยอมทิ้งเวลาที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลนั่น ก็เพื่อบางอย่างเท่านั้น