หลงเสน่ห์จอมทมิฬ บทที่3.เมื่อโตขึ้นฉันจึงรู้ว่าสิ่งที่ฉันคิดคือความฝัน
เพื่อนที่โรงเรียนพากันอิจฉาเมื่อรู้ว่าฉันเข้านอกออกในที่หมู่บ้านแห่งนั้นได้
พื้นที่รอบๆ หมู่บ้าน ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็มักจะสนใจอยากรู้
ครอบครัวร่ำรวยที่มีลูกชายวัยรุ่นหน้าตาดีกว่าดารา ไอดอลที่สาวรุ่นตามกรี๊ดเสียอีก ฉันเห็นด้วยข้อนี้ ฉันเองยังแอบชื่นชมผู้ชายคนนั้นเลย ฉันที่เพิ่งเริ่มเป็นสาว เลยอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับผู้ชายที่เดินเข้ามาทำความรู้จัก
เขาทำให้ผู้ชายที่เข้าหากลายเป็นแค่หัวเผือก หัวมัน
ไม่มีผู้ชายคนไหนตาสวยเหมือนน้ำทะเลเท่ากับเขาคนนั้น
ฉันตั้งใจเล่าเรียน และผลการเรียนดีขึ้นเรื่อยๆ ความพยายามของฉันเลยเข้าตาคนที่อยู่ระดับสูงกว่าแม่ บริโอ้มีทุนเรียนฟรีให้พนักงานของเขา กฎเกณฑ์ไม่บังคับ แต่ผลการเรียนต้องสม่ำเสมอ ฉันได้ทุนนั่น และทุนนั้นทำให้ฉันเรียนสูงขึ้น แม่ภูมิใจในตัวฉัน
และวันที่ฉันประสบความสำเร็จ แม่ของฉันก็ยังทำงานอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม...
แม่จงรักภักดีกับครอบครัวบริโอ้ประหนึ่งเจ้าชีวิต
ฉันสำนึกในบุญคุณของพวกเขา อย่างน้อยเพราะทุนนั่นเลยทำให้ฉันไปไกลกว่าที่หวังไว้ ฉันกับแม่ยังอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิม แต่บ้านแข็งแรงและสะอาดขึ้น รายได้แม่มีมากกว่ารายจ่าย แม่เลยเจียดเงินส่วนหนึ่งซ่อมแซมบ้านที่ฉันอยู่
แม่พร่ำสอนให้ฉันสำนึกบุญคุณคนเหล่านั้น ฉันท่องจำเอาไว้ในใจ สักวันที่ฉันมีมากพอฉันจะตอบแทนพวกเขา ซึ่งเขาคงไม่ใส่ใจหรอก เขามีมากกว่าที่แม่กับฉันมีหลายร้อย หลายพันเท่า
“ลูกสาวแม่พลอยเหรอเนี้ย” คนงานคนหนึ่งที่ฉันคุ้นหน้าดีทักตอนที่ฉันจอดจักรยานในที่จอด
“จ้ะ”
“โตขึ้นจนจำแทบไม่ได้ เรียนจบหรือยังล่ะ”
“จบแล้วจ้ะกำลังหางานทำอยู่”
“ดีจังเลย แม่พลอยคงสบายขึ้นแหละ”
ฉันไม่ได้ตอบจนกระทั่ง
“มีแฟนหรือยังล่ะแม่คุณ”
ฉันเบื่อคำถามนี้เหลือเกิน คนรอบตัวฉันมักจะถามแบบนี้ ฉันยิ้มมุมปาก ไม่ได้ตอบอะไร เดินเลยไปทางด้านหลัง เพื่อรอให้แม่เลิกงาน ฉันปฏิบัติแบบนี้ทุกวัน ไม่มีการแตกแถว หลังเลิกเรียนฉันจะมารอรับแม่และกลับบ้านพร้อมกัน มีแต่คนชมว่าแม่สอนฉันให้รักดี ไม่ต้องปวดหัวเพราะเรื่องชู้สาวระหว่างชาย หญิง ฉันรู้ตัวดีหรอก ในหัวใจฉันไม่มีพื้นที่ว่างให้ผู้ชายคนไหนแทรกเข้าไปได้อีก
ประตูหัวใจของฉันปิดตาย ตั้งแต่วันที่ฉันได้สบตาสีฟ้าคู่นั้นแล้ว
มันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันของเด็กหญิงตัวดำแคระแกร็นคนหนึ่ง
ความฝันของฉันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง และฉันก็ไม่มีทางลบเขาออกไปจากใจได้
ฉันเคยพยายามแล้ว ฉันล้มเหลว ฉันเหมือนถูกสะกดจิต วังวนของฉันวนเวียนอยู่ได้แค่นั้นไง ฉันยอมรับสภาพ และไม่วายเย้ยหยันตัวเอง ฉันโตพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่ฝังอยู่ในใจฉัน เป็นแค่ความฝันวัยเยาว์แค่นั้น
“วันนี้กินอะไรกันดีแพร”
แม่เดินผ่านประตูด้านหลังออกมาตามเวลาเดิม ฉันยืดตัวลุกขึ้นยืน “น้ำพริกดีกว่าค่ะ แพรเห็นตำลึงข้างรั้วกำลังแตกยอดเต็มเลย”
แม่หัวเราะยกมือลูบหัวฉัน “กินดีกว่าน้ำพริกก็ได้นะแพร แม่มีสตางค์ซื้อ”
ฉันรู้ว่าแม่มีสตางค์จ่าย แต่เพราะการกินง่าย อยู่ง่ายที่เราสองแม่ลูกผจญความลำบากนั่นอยู่หลายปีทำให้ฉันชินกับชีวิตแบบนั้น ฉันไม่ใคร่ชอบอาหารหรูที่ต้องแลกด้วยการจ่ายเยอะๆ ฉันมัธยัสถ์จนเคยตัวเสียแล้ว
“น้ำพริกฝีมือแม่อร่อยกว่าสเต๊กอีกค่ะ”
ฉันไม่ได้ชม ฉันพูดความจริง อาหารฝีมือแม่หากินที่ไหนไม่ได้ คนแถวบ้านยังบ่นให้ได้ยินเสมอ ตั้งแต่แม่เลิกขายข้าวแกง พวกเขาไม่เคยเจอแม่ค้าคนไหนรสมือดีเท่าแม่ฉันอีกเลย ฉันยังเคยคิดเล่นๆ หากเรียนจบแล้วหางานทำไมได้ ฉันจะขอสูตรการทำน้ำพริกสารพัดแบบของแม่ แล้วทดลองขายออนไลน์
แต่ฉันก็ทำได้แค่คิด...ฉันไม่เคยสมัครงานที่ไหนแล้วถูกปฏิเสธนี่
โรมวันนี้น่าเบื่อเสียจนทำให้ผมอึดอัด ผมคิดถึงที่นั่น ถึงอากาศจะร้อนจนแทบทนไม่ไหว รถก็ติดจนน่ารำคาญ แต่ผมจะไม่ถูกตามจนกระดิกตัวไม่ได้แบบนี้ ผมทอดสายตามองผ้หญิงตรงหน้า สิบปีที่ผ่านมาดานิก้าไม่เคยไปไกลจากรอบตัวผมอย่างจริงจังเสียที
ผมนับถือความอดทนของหล่อน