จอมทมิฬต้องมนต์

126.0K · จบแล้ว
วรดร/กัญนิชา/วิรัญชนา
118
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สวรรค์ล่มพังคลื่น.... จากนางฟ้า...กลายเป็นยาจก เป็นลูกหนี้ขัดดอก ทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ เจ้าหนี้หน้าเลือด โหด เถื่อน ใช้งานเหมือนเธอเป็นทาส เกลียดแสนเกลียด แต่พอเขาอ่อนโยนด้วย หัวใจบ้าบอก็ดันเผลอไผล โนเอลจะทำไงดี ทานตะวันเกลียดเขาปานไส้เดือนกิ้งกือ แต่เธอเป็น...รักแรกพบ เขาชอบเธอถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทำไมไม่รู้ถึงทำตรงข้ามกับที่ตัวเองต้องการ คงเพราะความทระนงแบบโง่ๆ ของหล่อนละมั้ง พอเห็นท่าทางยโสนั่น เขานึกอยากจะปราบพยศหล่อนทุกที...

นิยายรักโรแมนติก

หลงเสน่ห์จอมทมิฬ บทที่1.ถ้าฉันเลือกได้

หลงเสน่ห์จอมทมิฬ

บทนำ

มันน่าจะเป็นเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของฉันเอง ความคิดสมัยเด็กของฉันความคิดเช่นนั้นเลยฝังหัวมาจนถึงปัจจุบัน เป็นความหลงใหลกับรูปลักษณ์ภายนอกของคนคนหนึ่งที่หลอกล่อให้ฉันงงงวย ชายสูงศักดิ์ผู้นั้นเปรียบเหมือนเทพบุตรสำหรับฉัน แต่...เมื่อโตขึ้น ฉันเลยเพิ่งค้นพบความจริง เทพบุตรที่ตนเองฝันถึง เขาเป็น...จอมทมิฬ...ที่ใจร้ายเหลือเกิน...

แพรฟ้าคือชื่อของฉัน เด็กตัวดำรูปร่างแคระแกร็นเพราะวัยเด็กของฉันไม่ได้สมบูรณ์เหมือนคนอื่น ฉันโตมากับความยากจน มีแค่มารดาเท่านั้นที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เด็กน้อยตัวเล็กแอบมองบ้านหลังใหญ่ด้วยความอิจฉา นึกอยากได้อยากมีบ้านแบบนั้นบ้าง...แต่ก็คงทำได้แค่ฝัน มารดาที่ไร้ความรู้คงไม่สามารถเนรมิตปราสาทหลังใหญ่ให้ฉันได้ นั้นเป็นจุดเชื่อมต่อของฉัน กับเทพบุตรในฝันคนนั้นไง...

บทที่1.ถ้าฉันเลือกได้...

เริ่มวันใหม่ด้วยเสียงโหวกเหวกของเพื่อนบ้าน ฉันงัวเงียลุกจากที่นอน กวาดตามองหาแม่ที่น่าจะตื่นก่อนนานแล้ว เสียงกุกกักดังมาจากในครัวโทรมๆ ด้านหลังผนังบ้านไม้ระแนงที่ค่อนข้างผุกร่อน แสงไฟสีส้มที่ให้แสงสว่างไม่มากพอจะทำให้มองทุกอย่างชัดนัก แต่ทำไงได้ล่ะ แค่มีไฟฟ้าใช้ก็ถือว่าโชคดีแล้วสำหรับบ้านเรือนในสลัมแห่งนี้ บ้านของฉันทั้งหลังมีไฟใช้แค่สองดวง คือในครัวกับกลางบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้ามีราคาไม่ต้องถามถึง มีพัดลมเก่าๆ ตัวหนึ่งที่ช่วยระบายความร้อนได้อย่างดีตอนกลางคืน แม้เสียงจะดังจนน่ารำคาญ แต่ก็ดีกว่านอนไม่หลับเพราะอากาศร้อนอบอ้าว

“ตื่นแล้วเรอะแพร ลุกมาช่วยแม่เตรียมของหน่อยสิ”

มือผอมบางควานหายางรัดถุงแกงที่เก็บไว้ในกระป๋องนมเก่าๆ ข้างที่นอน แล้วจัดการรวบผมยาวเคลียไหล่มัดเป็นพวงไว้หลังท้ายทอย

เมื่อฉันโผล่หน้าเข้าไปในครัว แม่กำลังสาละวนกับการปรุงรสโจ๊กหม้อใหญ่บนเตาไฟ แม่หันมายิ้มเซียวๆ ให้ “ไปล้างหน้าก่อนสิ” ฉันเดินเลยไปอีกนิดยกฝาถังน้ำพลาสติกใช้ขันใบเล็กตักน้ำในนั้นขึ้นราดลงบนใบหน้า หลังล้างคราบขี้ตาและแถมด้วยการแปรงฟัน ฉันแอบย่นจมูก ความอัตคัดทำให้ฉันต้องพบเจอกับความขาดแคลนอยู่เสมอ หลอดยาสีฟันที่บีบจนแบนและเนื้อสีขาวด้านในแทบไม่มีเหลือ ฉันแค่นเคล้นจนได้ก้อนยาสีฟันติดที่แปรงสีฟันไม่เท่าเม็ดถั่ว ฟองไม่ใคร่มีหรอก แต่ก็ยังดีกว่าการแปรงฟันด้วยน้ำเปล่า อย่างน้อยยาสีฟันก็ช่วยให้ฉันมั่นใจว่าปากของฉันสะอาดมากพอ

“แม่จ๋า ยาสีฟันหมดแล้วนะจ๊ะ”

แม่หันมายิ้มให้ฉันอีกครั้ง “เตือนแม่ตอนขายของหมดด้วยนะแพร ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้แพรได้แปรงฟันกับเกลือแทนแน่” แม่ไม่ใช่คนขี้ลืมหรอก แต่งานในแต่ละวันรัดตัวจนทำให้หลงลืมไปบ้าง

ฉันพยักหน้ารับ เดินไปหยิบตะกร้าที่มีผ้าสีขาวคลุมไว้ ยกตะกร้าใบใหญ่นั้นขึ้นจนตัวเอียง เพราะในตะกร้าเต็มไปด้วยชามพลาสติกที่มีไว้สำหรับใส่โจ๊ก ใช่เลย...แม่ฉันมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายโจ๊กตอนเช้ามืด แต่ไม่ได้หมดแค่นั้นหรอกนะ ตกตอนเย็นแม่ฉันก็เป็นแม่ค้าขายข้าวแกง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้หญิงวัยสามสิบปลายๆ คนนี้ถึงดูแก่เกินวัยนัก

พลอยคือชื่อของแม่ฉัน...ฉันไม่เคยถามหาพ่อ เพราะทุกครั้งที่พูดถึงพ่อ แววตาแม่จะเศร้าจนฉันใจไม่ดี

แม่พร่ำสอนฉันตอนเข้านอน แม่ไม่มีสมบัติติดตัว ไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันสะดวกสบายได้ ดังนั้นหากฉันไม่อยากลำบากเหมือนแม่ ความรู้คือสิ่งเดียวที่ฉันจะทำได้ วันหน้าในอนาคต สิ่งที่ฉันร่ำเรียนมาจะช่วยให้แม่และฉันสบายขึ้น

ฉันก้มหน้าก้มตาเรียน พยายามไม่สนใจสายตาดูแคลนจากเพื่อนรอบตัว ความยากจนของฉันทำให้ฉันถูกรังเกียจ ฉันไม่แคร์คนเหล่านั้นเลย พวกเขาไม่ได้ทำให้ฉันอิ่มท้อง...คำดูถูกเหล่านั้นทำให้ฉันพยายามมากยิ่งขึ้น ผลการเรียนของฉันดีกว่าเพื่อนทุกคนในห้อง ฉันสอบได้ที่หนึ่งทุกปี ทั้งที่ฉันไม่เคยเรียนพิเศษ ไม่เคยมีติวเตอร์ส่วนตัว ทุกอย่างฉันควานหาในเวลาเรียนเท่านั้น ฉันรักแม่ และสงสารแม่ด้วย อะไรที่ฉันช่วยผ่อนแรงแม่ได้ ฉันไม่เคยรีรอที่จะอาสา ดังนั้น มันจึงเป็นภาพที่คนละแวกนั้นชินชา เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ขันอาสาช่วยแม่ทุกอย่างตั้งแต่ล้างจาน และช่วยทอนสตางค์ ฉันไม่เคยเถลไถลไปเล่นเหมือนเด็กคนอื่น กิจวัตรประจำวันตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงหัวถึงหมอนเหมือนกันทุกวัน