๒ เมียไม่เป็นที่ต้องการ (๓)
รถคันใหญ่เคลื่อนตัวผ่านรั้วสูงเข้ามาในบ้านขนาดกว้างที่มีรั้วรอบขอบชิด อีกทั้งไม่มีบ้านเรือนอยู่แถวนี้ ไม่มีเพื่อนบ้านและค่อนข้างเงียบสงบแต่ก็วังเวงเช่นเดียวกันในความรู้สึกของหล่อน ดวงตากลมมองออกนอกหน้าต่างตลอดเวลา กุมมือกับคุณน้าที่นั่งมาด้วยกัน
น้าผ่องเป็นญาติที่เลี้ยงดูหล่อนมาแต่เด็ก รักเคารพเหมือนท่านเป็นแม่อีกคนของตน พอย้ายมาที่นี่จึงต้องพาท่านมาด้วย หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรถจอดลงที่หน้ามุข บ้านสองชั้นสีขาวหลังใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งรู้ว่าสามีของตนรวยมากขนาดนี้
ขณะที่เมฆานึกหงุดหงิดคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าหล่อนมีสีหน้าเช่นไร คงดีใจที่ได้อยู่บ้านหลังโต สมหวังแล้วกับการจับเขาอยู่หมัด
“รำคาญ” พอลงจากรถก็เห็นร่างบางยืนนิ่งแล้วสำรวจไปรอบบ้าน เขาเห็นก็นึกหงุดหงิดจนกระแทกไหล่เธอเดินเข้าบ้าน จอมขวัญชะงักเล็กน้อยกับการกระทำแสนเด็กของชายหนุ่ม กระนั้นก็แอบยิ้มภายใต้ผ้าสีเข้ม
คำที่เขากระซิบข้างหูเธอยังชัดเจน ถึงจะไม่มีโอกาสบอกความจริงกับอีกฝ่ายก็ตาม
“ผ่องอยู่ห้องด้านในเลยนะคะ บอกเด็กเตรียมไว้ให้แล้ว” ก้าวเข้ามาในตัวบ้านก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ในแจกันที่โชยมาแต่ไกล เป็นกลิ่นธรรมชาติที่หล่อนคุ้นเคยเป็นอย่างดี มือบางกอดแขนคุณน้าเอาไว้แล้วทำตาปริบ
“น้าผ่องนอนกับขวัญได้ค่ะแม่”
“หือ ล้อเล่นหรือไงจ๊ะ น้องขวัญก็ต้องนอนกับพี่เมฆสิ เราสองคนแต่งงานกันแล้วนะ”
เธอลืมเสียสนิท...
หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรอีกมีเพียงร่างหนาที่ถอนหายใจแล้วแสดงท่าทีไม่ชอบใจกับคำพูดของมารดาสักเท่าไหร่ ไม่ยินดีจะร่วมห้องกับหล่อน
“นั่นสิ แต่งงานแล้วจะไปนอนกับคนอื่นได้ไง ป่ะ ขึ้นห้องของเราดีกว่า” จูงกึ่งลากแขนบางขึ้นบนห้องจนหล่อนเบิกตากว้างไม่ทันตั้งตัว พอหันมาคิดจะขอความช่วยเหลือก็เห็นเพียงคุณน้าที่โบกมือให้หลานสาว ไหนจะรอยยิ้มกว้างของคุณระยาอีก
ทำไมทุกคนกล้าปล่อยหล่อนไว้กับเขาล่ะ ชายหนุ่มไม่น่าไว้ใจสักนิด...ทว่าก็พอเบาใจเขาคงไม่ทำอะไรเธอหรอก
เมฆาเกลียดตนอย่างกับกิ้งกือไส้เดือน
พาร่างบางเข้ามาในห้องนอนของตนที่ไม่ได้กลับหลายเดือน ปล่อยจอมขวัญลงบนพื้นก่อนจดจ้องดวงตากลมนิ่ง ยังคงจับข้อมือบางเอาไว้แล้วบีบแน่น เกลียดเธอจนอยากบีบกายเล็กให้แหลกคามือเสียด้วยซ้ำ ไม่ชอบท่าทีไร้เดียงสาเหมือนเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ทั้งที่ความจริงเขาต่างหากถูกหล่อนหลอกใช้ ผ่านศึกมาโชกโชนทำไมจะไม่รู้ว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอแค่อยากจับเขาเท่านั้น!
“ฉันรู้ว่าเธอต้องการจะจับฉัน อยากได้เงินฉันมากนักใช่ไหม เอาสิ...เอาไปเลย อยากใช้เท่าไหร่ก็ใช้ไปในตอนที่ยังหลงระเริงได้ แต่จำเอาไว้ว่าถึงคราวฉันเอาคืนเมื่อไหร่...เธอเจ็บหนักแน่!” ผลักร่างบางอย่างแรงจนเธอล้มลงบนเตียง
ร่างสูงยอมรับว่าไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่กับเธอเขาเกลียดจนอยากทำร้ายและทำลายไปพร้อมกัน
ทว่าไม่อาจทำเช่นนั้นได้...
เมื่อหญิงสาวได้ทะเบียนสมรสไปแล้ว ก็นอนกอดให้สาแก่ใจแล้วกัน!
“พี่เมฆ”
“ไม่ต้องมาเรียก”
“ขอโทษ ขวัญขอโทษ” รู้สึกผิดที่ใช้เขาเป็นหมากเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้น
เธอรู้สึกเหมือนตัวเองลอยคอกลางทะเลมานานจนหมดแรง เมื่อมีขอนไม้ลอยเข้ามาใกล้จึงรีบคว้าเอาไว้เพื่อความอยู่รอด แม้สิ่งที่เลือกทำจะไม่ยุติธรรมกับคนตรงหน้าก็ตาม
“ฉันไม่ให้อภัย เธอมันเจ้าเล่ห์ร้อยมารยา! ฉันทั้งรังเกียจ ขยะแขยงไม่อยากอยู่ใกล้ เกลียดเธอยิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือนอีก!” สิ่งเดียวที่ทำได้คือการพูดจาทำร้ายจิตใจ แต่เหมือนหล่อนจะมีภูมิคุ้มกันที่ดีพอสมควร เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สะท้านสักนิด
และนั่นยิ่งทำให้เขาเกลียกเธอมากกว่าเดิม ผู้หญิงไร้หัวใจ!
จอมขวัญเลือกจะนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น จ้องมองแผ่นหลังกว้างที่เดินไปทางตู้เสื้อผ้า เขากวาดข้าวของทุกอย่างลงกระเป๋า โดยที่หล่อนทำได้เพียงมองไม่กล้าถามสักคำ ร่างหนาก็ไม่บอกกระทั่งเก็บของเสร็จก็เดินออกจากห้อง โดยมีเธอเดินตาม
“นั่นจะไปไหน” คุณพายัพถามบุตรชาย
“กลับไปทำงานครับ สวัสดีครับ”
“เมฆ! เมฆ! แต่งงานแล้วนะจะไปทำงานได้ยังไง” มารดารีบคว้าแขนลูกชายเอาไว้
พอจะรู้ว่าชายหนุ่มค่อนข้างทำอะไรตามใจตัวเอง แต่ไม่คิดว่าจะพยศเช่นนี้ แต่งงานหม้อข้าวไม่ทันดำแต่สามีกลับทิ้งภรรยาให้อยู่บ้านเพียงลำพัง ท่านแทบกุมขมับไม่คิดว่าลูกของตนจะทำเช่นนี้
“ผมแต่งงานให้แล้วไงครับ ส่วนผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เมียผม แม่จะทำยังไงก็ตามใจแม่เลย เอาเป็นแม่บ้านก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวผมจะจ่ายเงินค่าจ้างให้เอง” ปรายตามองเหยียดคนที่ยืนนิ่งแล้วค่อยเดินออกจากบ้านไม่ฟังเสียงทัดทานของใคร