บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

จ้าวตงหยางตื่นขึ้นก่อนที่ฟ้าจะสว่างเขาค่อยๆดึงมือที่จินเยว่หนุนออก จินเยว่ที่ความอบอุ่นหายไปนางก็ซุกตัวเข้าไปที่อกของจ้าวตงหยาง

ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวที่ซุกเข้าหาความอบอุ่นตรงหน้าอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่จะสลัดความคิดเช่นนั้นออกไป เขายกศีรษะนางขึ้นไว้บนหมอนและกระโดดออกทางหน้าต่างไป

เกาซื่อที่เห็นฟ้าสว่างแล้วแต่จินเยว่ที่ปกติจะลุกขึ้นมาทำอาหาร วันนี้ยังไม่เห็นบุตรสาวลุกขึ้นมาก็เดินเข้ามาดูนางในห้อง เมื่อเห็นบุตรสาวตอนหลับสนิทพร้อมกับตัวที่ยังอุ่นๆอยู่ นางก็นึกปวดใจที่บุตรสาวมีไข้แต่ปิดบังนาง

วันนี้เกาซื่อจึงต้องลงมือทำอาหารบ่ายๆด้วยตนเอง แม้จะไม่เคยเข้าครัวเลยแต่หากให้นางต้มข้าวต้ม หรือน้ำแกง ก็ยังพอจะทำได้

"เยว่เออร์ลุกมากินข้าวก่อนลูก จะได้ดื่มยา" จินเยว่สะลึมสะลือลุกขึ้นนั่งมองมารดา

"ท่านแม่ เหตุใดไม่เรียกข้าเล่าเจ้าคะ"

"เจ้ามีไข้ใยถึงไม่ยอมบอกแม่" เกาซื่อลูบหัวบุตรสาว

"ข้าดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ มื้อกลางวันข้าจะเป็นคนทำเองนะเจ้าค่ะ" เกาซื่ออดส่ายหัวกับความดื้อรั้นของบุตรสาวที่เพิ่มมากขึ้นไม่ได้ และรสมือของนางไม่ดีจึงไม่ได้ออกปากห้ามบุตรสาว

จ้าวตงหยางที่ออกจากเรือนจินเยว่ก็ไปที่ค่ายทหารแทนที่จะกลับจวนของตน แม้สีหน้าจะเรียบเฉยเช่นทุกครั้ง แต่แววตาของเขาฉายความพึงพอใจออกมาจนหลิวเหล่ยอดที่จะถามมิได้

"มีเรื่องอันใดน่ายินดี"

จ้าวตงหยางที่กำลังจิบชาถึงกับสำลักออกมา

"ไม่มี"

"หึ เจ้าดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน คงมิใช่เรื่องของแม่นางเสวี่ยหรอกหรือ"

"หึ" เข้าแค่นเสียงออกมา เมื่อนึกถึงหญิงสาวในอ้อมกอดเมื่อคืน

"หากเจ้ายังทำให้นางอับอายเช่นเมื่อวานอีก ข้าจะปกป้องนาง" หลิวเหล่ยยกชาขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะรู้สึกเสียวสันหลังจึงเหลือบมองจ้าวตงหยาง

สายตาของจ้าวตงหยางเผยจิตสังหารออกมาวูบหนึ่ง ก่อนจะกดยิ้มที่มุมปาก

"เจ้าสนใจนาง"

"นับว่าใช่" หลิวเหล่ยเอ่ยขึ้น มิใช่เขาไม่เห็นสายตาของจ้าวตงหยางเมื่อครู่ แต่เขาคิดว่าสหายของตนไม่พอใจที่เขาสนใจสตรีที่เป็นศัตรูของสหาย

จ้าวตงหยางมิได้พูดสิ่งใดอีก เขาเพียงแค่รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะทุบตีสหายของตนเพื่อระบายความหงุดหงิดออกมา

จินเยว่ที่กินยาแล้วนอนหลับไปอีกครั้ง นางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนแทบจะมิดหัว แต่ก็ยังคงไม่อบอุ่นเท่ากับเมื่อคืน นางนอนคิดไปคิดมาแต่ก็หาเหตุผลมาหักล้างไม่ได้จนหลับไป

จ้าวตงหยางเดินเข้ามาในกระโจมพักของตนก็เห็นหลิวเหล่ยที่กำลังจะออกไปข้างนอก

"เจ้าจะไปที่ใด"

"ข้าจะไปเยี่ยมแม่นางเสวี่ยเสียหน่อย ท่านหมอบอกว่านางอาจจะมีไข้"

จ้าวตงหยางมองสหายตัวดี เขาอยากจะบอกว่านางไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ก็ยั้งปากไว้ได้ทัน

"รอข้าประเดี๋ยว" หลิวเหล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

"เจ้าจะไปด้วย" หลิวเหล่ยเอ่ยถามเพราะตัวเขาไม่เข้าใจความคิดของสหาย

"ใช่ มีอันใด" จ้าวตงหยางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วยเอ่ยถามสหายไปด้วย

หลิวเหล่ยกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเดินออกไปรอด้านนอกแทนเพราะไม่อยากเห็นหน้าสหาย เขาไม่มีความคิดที่จะพาจ้าวตงหยางไปด้วย เรื่องที่เกิดเมื่อวานเป็นเพราะจ้าวตงหยาง หากจินเยว่เห็นเขาไปด้วยกัน ตนคงจะทำให้นางรังเกียจไปด้วย

แต่ที่หลิวเหล่ยคิดไม่ถึงคือจินเยว่มิได้ออกมาต้อนรับพวกเขาเป็นเสวี่ยป๋อเหวินที่ออกมาแทน เพราะจินเยว่เพิ่งนอนหลับไปหลังจากที่นางดื่มยา

"ท่านแม่ทัพจ้าว ท่านกุนซือหลิว ให้เกียรติมาถึงเรือนของข้าด้วยเหตุใด"

"ข้าน้อยนำยามามอบให้แม่นางเสวี่ยขอรับ" เสวี่ยป๋อเหวินมองทั้งคู่อย่างไม่เข้าใจ

เขารู้เพียงว่าบุตรสาวทำงานหนักจนล้มป่วย แต่ทั้งคู่นำยามาให้เพราะรู้สึกผิดหรือมีสิ่งใดที่นอกเหนือจากนั้น

"เยว่เออร์เพียงโดนลมมากไปเท่านั้น ข้อมือที่เคล็ดก็หาหมอเรียบร้อยแล้ว กุนซือหลิวไม่จำเป็นต้องลำบากถึงเพียงนี้" ทั้งคู่รู้ได้ทันทีว่าจินเยว่มิได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับบิดามารดา

"มิลำบากเลยขอรับ หากแม่นางเสวี่ยมิได้ไปช่วยงานที่จวนท่านแม่ทัพ นางคงมิล้มป่วยเช่นนี้" หลิวเหล่ยพูดพร้อมปรายตามองสหายของตน

"เยว่เออร์พักไม่กี่วันก็คงหายดี ลำบอกท่านแม่ทัพกับท่านกุนซือแล้ว"

ในเมื่อไม่มีเรื่องที่จะพูดต่อ อีกทั้งคนที่ต้องการพบหน้าก็ไม่ได้เห็นทั้งคู่มอบยาให้แล้วก็ขอตัวกลับออกมา

หลิวเหล่ยคิดในใจ ครั้งหน้าตนจะแอบออกมาโดยมิให้จ้าวตงหยางรู้

ส่วนจ้าวตงหยางก็คิดว่าคืนนี้เขาจะลองมาดูนางอีกครั้งว่านางหายดีแล้วหรือยัง

เพราะต่างมีความคิดของตนเอง ทั้งคู่จึงมิได้สนทนาอะไรกันอีกจนถึงค่ายทหาร ต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนต่อ

จินเยว่ที่ลุกขึ้นมาเตรียมมื้อกลางวันให้บิดาก็พบห่อยาที่บิดายื่นมาให้

"ยาอันใดเจ้าคะท่านพ่อ" นางมองห่อยาอย่างสงสัย หรือเมื่อวานนางจะหยิบไปไม่ครบ

"แม่ทัพจ้าวกับกุนซือหลิวนำยามามอบให้เจ้า เมื่อวานเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่งานเลี้ยงกันแน่เยว่เออร์"

จินเยว่เห็นว่ามารดายังมิได้ออกมาทานอาหารจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้บิดาฟัง เสวี่ยป๋อเหวินที่ฟังจบก็ตบโต๊ะด้วยความโมโห หากเขารู้เรื่องตั้งแต่เมื่อวานตอนที่บุตรสาวกลับมา วันนี้เขาไม่ทางเปิดเรือนรับทั้งคู่ให้เข้ามาแน่

"ท่านพ่อได้โปรดคลายโทสะก่อน ลูกมิอยากให้ท่านกับท่านแม่เป็นกังวล ตอนนี้ลูกก็มิได้เป็นอันใดแล้วเจ้าค่ะ"

เสวี่ยป๋อเหวินเห็นภรรยาเดินเข้ามาสีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ จนจินเยว่ลอบยกนิ้วให้ในใจกับการเปลี่ยนสีหน้าของบิดาไม่ได้

ทั้งจ้าวตงหยางกับหลิวเหล่ยมิได้รู้เลยว่า เสวี่ยป๋อเหวินจะไม่เปิดเรือนต้อนรับตนเสียแล้ว หากหลิวเหล่ยรู้ว่าเป็นเพราะเขามากับจ้าวตงหยางคงได้โมโหจนอยากจะทุบตีสหายแน่ (แต่สู้ไปก็เท่านั้นเพราะสู้ไม่ได้)

จินเยว่ยังคงทำมื้อเย็นให้บิดากับมารดาเช่นเดิม แต่พอตกเย็นนางก็เริ่มกับมามีไข้อีกครั้ง คงเป็นเพราะนางยังไม่หายดีแต่กลับลุกขึ้นมาทำงานบ้านเช่นปกติไข้ที่เพิ่งหายจึงกลับมาเป็นอีกครั้ง

หากมิใช่ว่าฝีมือการทำอาหารของมารดาย่ำแย่นางคงไม่แบกสังขารลุกขึ้นมาทำแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel