บทที่ 6
"คุณหนูเว่ยข้ามอบคนให้เจ้า เจ้าไม่เรียกใช้ หรือว่ามิถูกใจ" เว่ยซืออิงถึงกับเขินอายที่จ้าวตงหยางเอ่ยปากพูดกับนางต่อหน้าคนมากมาย
"จินเยว่เจ้ามายืนข้างข้า" เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างได้ใจ
จินเยว่เดินไปยืนข้างเว่ยซืออิงแทนที่สาวใช้ของนาง ถึงจะอยู่ในชุดของสาวใช้แต่ก็มิได้ทำให้ความงามล่มเมืองของจินเยว่ลดลงเลย ยิ่งได้ยืนอยู่ข้างเว่ยซืออิงที่แดงไปทั้งตัวทั้งหน้า ชุดสาวใช้สีขาวของนางยิ่งเด่นขึ้นจนบุรุษที่มาร่วมงานต่างมองจนมิอาจละสายตาได้
แต่เว่ยซืออิงกลับคิดว่าบุรุษพวกนั้นมองนางจนตาค้างไปเลย
จินเยว่คอยยกน้ำชา ยกอาหารให้เว่ยซืออิงอย่างระวัง ยิ่งงานใกล้เลิกนางก็ยิ่งผ่อนคลายลงเมื่อไม่เกิดเรื่องใดขึ้น สีหน้าของนางจึงค่อยๆมีรอยยิ้มน้อยๆเมื่อเว่ยซืออิงต้องการสิ่งใดเพิ่ม ไม่ได้กดดันเท่ากับตอนแรกแล้ว
แต่เหมือนเรื่องนี้จะทำให้จ้าวตงหยางไม่พอใจ ยิ่งนางยิ้มเขายิ่งหงุดหงิด ขนาดหลิวเหล่ยที่นั่งข้างๆ ยังมองนางจนเหม่อลอย จ้าวตงหยางหยิบเม็ดถั่วขึ่นมาแล้วดีดใส่ข้อมือของจินเยว่ที่กำลังยกน้ำชาส่งให้เว่ยซืออิง
"กรี๊ดดดด" เสียงร้องของเว่ยซืออิงเรียกความสนใจจากคนในงานให้หันมามอง
จินเยว่ที่เจ็บข้อมืออยู่ก็คุกเข่าลงทันที พร้อมกับร้องในใจ ฉิบหายแล้ว นางเจ็บข้ามือจนเหงื่อไหลซึมออกมา ตนในงานคิดว่านางหวาดกลัวเรื่องที่นางทำ คงมีเพียงจ้าวตงหยางที่รู้เรื่องดี เขายกสุราขึ้นดื่มอย่างนึกสนุก
หลิวเหล่ยถลึงตามองจ้าวตงหยาง เขาเดินลุกไปที่จินเยว่นั่งคุกเข่าอยู่
"แม่นางเสวี่ย เจ้าเป็นอันใดหรือไม่"
จินเยว่เงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับกัดฟันแน่น นางส่ายหน้าให้เขาว่านางมิได้เป็นอันใด แต่ก่อนที่หลิวเหล่ยจะขอดูข้อมือนาง ฝ่ามือของเว่ยซืออิงก็ตบลงบนใบหน้านางเสียก่อน
หลิวเหล่ยมิทันได้เข้าช่วยใบหน้าของจินเยว่ก็บวมแดงขึ้นรอยมือเสียแล้ว เว่ยซืออิงเหมือนยังไม่พอใจ นางหยิบกาน้ำชาสาดใส่จินเยว่จนเสื้อผ้าของนางเปียกไปหมด หลิวเหล่ยรีบเข้ามาขวางมิให้เว่ยซืออิงลงมือได้อีก ก่อนที่สาวใช้ของเว่ยซืออิงจะดึงนางออกไปจากงานเลี้ยง
จ้าวตงหยางตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่คิดว่าเว่ยซืออิงจะกล้าลงมือต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ หลิวเหล่ยถอดเสื้อคลุมให้จินเยว่แล้วพานางออกจากงานเลี้ยงไป
"ขอบคุณเจ้าค่ะ" จินเยว่ก้มหน้าขอบคุณหลิวเหล่ย
"แม่นางเสวี่ยมิต้องขอบคุณข้า ข้าแซ่หลิว นามเหล่ย" นางยิ้มขอบคุณให้เขา
เสี่ยวหงที่ถูกจ้าวตงหยางสั่งให้มาดูจินเยว่ก็รีบเข้ามาพานางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
"เจ็บหรือไม่" เสี่ยวหงทายาให้จินเยว่แล้วถามขึ้นอย่างเห็นใจ
"ไม่มากเท่าใดนัก ข้าไม่เป็นอันใดแล้ว ขอตัวกลับก่อน"
"ประเดี๋ยว ท่านแม่ทัพให้เจ้ารอพบก่อน"
จินเยว่หันไปขอบคุณเสี่ยวหง แล้วเดินออกมาจากจวนท่านแม่ทัพทันที นางไม่จำเป็นต้องรอให้เขารังแกนางเพิ่มอีกแล้ว เรื่องที่ข้อมือนางได้รับบาดเจ็บนางมิรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ก็คงเดาได้ไม่ยาก คนที่อยากให้นางอับอายก็มีเพียงเขาเท่านั้น แล้วนางจะอยู่รอเพื่อให้เขาโบยนางหรืออย่างไร
จินเยว่เดินออกจากเรือนก็พบกงจือรออยู่แล้ว เขาตกใจที่เห็นใบหน้าของนางบวมแดง แล้วข้อมือของนางยังบวมมากอีกด้วย
"แม่นางเสวี่ยเหตุใดเจ้าถึงเป็นเช่นนี้"
"กงจือ ท่านพาข้าไปโรงหมอก่อนได้หรือไม่ หากท่านไม่สะดวกข้าไปเองได้ ท่านเพียงแค่บอกว่าโรงหมออยู่ที่ใดก็พอ"
"ได้ ได้ ข้าพาท่านไปเดี๋ยวนี้เลย" กงจือรีบเรียกรถม้าแล้วพาจินเยว่ไปส่งที่โรงหมอ คนของจ้าวตงหยางที่ออกมาตามจินเยว่ก็พบว่าพวกเขาได้ออกไปแล้ว
"ครั้งนี้เจ้าทำเกินไปแล้วตงหยาง" หลิวเหล่ยต่อว่าจ้าวตงหยางเสร็จก็เดินออกจากจวนไปทันที เขาถามคนเฝ้าประตูว่ากงจือพาจินเยว่ไปที่ใดแล้วตามออกไปที่โรงหมอ
เมื่อจินเยว่มาถึงโรงหมอ นางก็รีบให้ท่านหมอทำดูข้อมือของนาง เพราะนางปวดเกินกว่าที่จะเคล็ดหรือเจ็บ นางกลัวว่ากระดูกจะร้าว แต่ข้อมือของนางเพียงแค่เคล็ดเท่านั้น นางจึงวางใจและขอให้ท่านหมอช่วยให้ประคบใบหน้าของนางให้ยุบโดยเร็ว หากกลับเรือนเช่นนี้บิดามารดาของนางได้ปวดใจอีกแน่
หลิวเหล่ยที่ตามมาถึงโรงหมอก็สอบถามอาการของจินเยว่จากท่านหมอแล้วเขาถึงได้วางใจ ก่อนจะกลับเข้าได้เดินเข้าไปดูนาง เมื่อเห็นว่านางไม่เป็นอันใดแล้ว เขาจ่ายค่ารักษาและขอให้ท่านหมอจัดยาเพิ่มให้นางเขาถึงได้กลับไป
จ้าวตงหยางก็ตามมาด้วยเช่นกันแต่เขามิได้เข้าไป เมื่อรู้ว่านางไม่เป็นอันใดมาก ก็ยังอดที่จะเอ่ยวาจาแดกดันออกมาไม่ได้
"คิดว่าจะตายแล้วเสียอีก" หลิวเหล่ยปรายตามองจ้าวตงหยางอย่างไม่พอใจ เขาเดินไปขึ้นรถม้าของตนโดยไม่เอ่ยทักสหายเลยสักคำ
เมื่อกลับถึงจวนจ้าวตงหยางยังถูกมารดาเรียกไปต่อว่าเสียยกใหญ่ ครั้งนี้เพราะเขาเป็นคนผิดจึงไม่ได้เอ่ยปากโต้แย้งมารดา
จินเยว่เมื่อใบหน้ายุบลงแล้วก็กลับเรือน กงจือลอบมองนางไปตลอดทาง จนนางอดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
นางเข้าไปแจ้งบิดามารดาว่ากลับมาแล้ว และเล่าเรื่องภายในงานนิดหน่อย แต่เรื่องที่นางต้องไปรับใช้เว่ยซืออิงกับเรื่องที่นางโดนกระทำนางมิได้พูดถึง
"ข้อมือของเจ้าเป็นอันใด" เกาซื่อเดินเข้ามาจับข้อมือจินเยว่
"ท่านแม่ข้ายกของหนักข้อมือจึงบวมเจ้าค่ะ แต่ท่านหมอดูให้แล้วมิได้เป็นอันใดมาก ท่านแม่อย่าได้กังวล"
จินเยว่ที่รู้สึกตัวว่าตนจะมีไข้ก็รีบขอตัวจากบิดามารดา นางต้มยาตามคำแนะนำของหมอ เมื่ออาบน้ำดื่มยาก็ล้มตัวลงนอนทันที โดยมิได้กินอันใด
แต่นางไม่รู้ว่าคืนนั้นมีคนลอบเข้ามาที่ห้องของนาง จ้าวตงหยาง นึกถึงแววตาที่จินเยว่มองมาที่ตน ก่อนจะถูกหลิวเหล่ยพาออกจากงานเลี้ยงไป เขานอนไม่หลับจนต้องควบม้าออกจากจวนมาที่เรือนของนาง
จ้าวตงหยางกระโดดข้ามกำแพงเข้ามาที่ห้องของจินเยว่ ตอนนี้นางกำลังหนาวสั่นเพราะพิษไข้ ผ้าห่มของนางดูเหมือนจะอบอุ่นไม่เพียงพอ จินเยว่จึงคว้าหาผ้าห่มเพิ่มตามนิสัยเก่าของนาง แต่นางคงลืมไปว่าที่เรือนนี้ในห้องมีผ้าห่มแค่ผืนเดียว
จินเยว่คว้าไปเจอชายเสื้อของจ้าวตงหยางเข้าจึงดึงเข้ามาหาตัว จ้าวตงหยางตกใจจนล้มลงไปนอนข้างจินเยว่ เขายังไม่ทันได้สติจินเยว่ก็ดึงเขาเข้าไปกอดไว้เสียแล้ว นางเอ่ยว่าหนาวเบาราวกับยุงบินผ่าน
"หึ สงสารเจ้าจึงปล่อยให้เจ้ากอด หากไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สบายข้าคงได้ตัดมือเจ้าทิ้งเสียแล้ว" จ้าวตงหยางเอ่ยกระซิบข้างหูจินเยว่
แต่ตอนนี้นางไร้สติเพราะพิษไข้จะมาสนใจอันใดได้ ในเมื่อมีเตาอุ่นในอ้อมกอดจินเยว่จึงหลับสบายขึ้น
จ้าวตงหยางเปลี่ยนจากที่นางกอดเขามาเป็นเขาดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนแทนและหลับไป